Cashu คืออะไร? เมื่อเงินสดกลับมาในโลกดิจิทัล พร้อมความเป็นส่วนตัวและอิสรภาพ
ในบทความก่อนหน้านี้ ผมได้เล่าถึงแอปชื่อ Bitchat ที่ให้เราส่งบิตคอยน์ให้กันได้โดยไม่ต้องต่อเน็ตครับ
หลายคนอาจสงสัยว่า “มันทำได้ยังไง?"
คำตอบก็คือ เทคโนโลยีเบื้องหลังที่ชื่อว่า Cashu ครับ
วันนี้เราจะมาเจาะลึกว่า Cashu คืออะไร? ทำงานอย่างไร?
และทำไมมันถึงสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคที่เราต้องการอิสรภาพทางการเงินมากกว่าที่เคย
📌 ยังไม่ได้อ่านบทความก่อนหน้า? อ่านได้ที่นี่ครับ:
🔗 https://www.facebook.com/share/p/1AUBYK9KmK/
---
จุดเริ่มต้นของ Cashu: เมื่อแนวคิดจากปี 1980s ถูกปลุกชีพ
Cashu มีรากฐานมาจากแนวคิดชื่อว่า Chaumian ecash ครับ
ซึ่งถูกคิดค้นโดย David Chaum นักวิทยาการเข้ารหัสในยุค 1980s
แนวคิดนี้เป็นการสร้าง “เงินสดอิเล็กทรอนิกส์" หรือ ecash ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงมาก
โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า "ลายเซ็นต์ลับ" หรือ Blind Signature ซึ่งทำให้ใครก็ตามสามารถถือเงิน และส่งต่อให้กันโดยที่ไม่มีใครนอกจากคนส่งและคนรับมารับรู้กิจกรรมนั้นเหมือน "เงินสด" ครับ
แนวคิดนี้กลับมาอีกครั้งในชื่อ Cashu
โดยผูกเข้ากับบิตคอยน์และ Lightning Network เพื่อให้ใช้งานได้จริง
---
Cashu คืออะไร?
Cashu คือระบบ ecash ที่คุณถือไว้เอง ส่งให้ใครก็ได้
แม้ไม่ต่ออินเทอร์เน็ต และไม่มีใครสามารถติดตามคุณได้เลยครับ
คุณสมบัติหลักของ Cashu มีอยู่ 4 ข้อสำคัญ:
✅ ไม่มีบัญชี ไม่มีบันทึก
✅ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
✅ ไม่มีใครสามารถแทรกแซงการใช้เงินของคุณได้
✅ และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ เพราะ พลังของความเป็นส่วนตัว ครับ
เมื่อไม่มีการผูกตัวตนหรือบัญชีผู้ใช้
Mint จึงไม่สามารถระงับธุรกรรมของใครคนใดคนหนึ่งได้เลยครับ
เพราะเขา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงินนั้นอยู่กับใคร
หาก Mint ต้องการ “หยุดธุรกรรมคนใดคนหนึ่ง” ก็ทำได้ทางเดียวคือ "หยุดทั้งระบบ" ซึ่งกระทบกับผู้ใช้ทั้งหมด
นี่คือสิ่งที่ทำให้ Cashu ต้านทานการแทรกแซงแบบเจาะจง ได้จริง
---
ทำไมต้องมี Cashu?
ผู้ใช้บิตคอยน์แรกเริ่มจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ Lightning Network
มักเริ่มต้นจากการใช้กระเป๋าเงินแบบ custodial wallet ที่มีผู้ให้บริการเก็บเงินให้
แม้จะใช้งานง่ายและสะดวก แต่ความสะดวกนั้นมีข้อแลกเปลี่ยนครับ:
- ผู้ให้บริการ เห็นธุรกรรมทั้งหมดของเรา
- รู้ว่าเรามีเงินเท่าไร รับจากใคร ส่งให้ใคร
- และสามารถ “ระงับบัญชี” หรือ “อายัดเงิน” ได้ทุกเมื่อ
Cashu ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยตรง ครับ
แม้จะยังต้องอาศัยผู้ให้บริการ (Mint) ในการออก ecash
ด้วยเทคนิค Blind Signature และโครงสร้างของระบบ
ทำให้ Mint ไม่สามารถติดตาม เส้นทาง หรือเจ้าของเงินได้เลย
พูดอีกแบบหนึ่งคือ
Cashu คือ custodial wallet ที่ให้ความเป็นส่วนตัวใกล้เคียงกับเงินสดมากที่สุด ในตอนนี้ครับ
---
ลายเซ็นลับคืออะไร?
ลองนึกภาพว่า:
คุณเขียนข้อควาใลับลงในกระดาษ แล้วใส่ในซองบุด้วยกระดาษคาร์บอน
ยื่นซองให้ธนาคารเซ็นหน้าซอง
ลายเซ็นจะประทับลงบนกระดาษข้างใน
โดยที่ธนาคารไม่รู้เลยว่าข้างในมีอะไร
นี่คือแนวคิดของ Blind Signature ที่ทำให้ Mint ออกเงินให้ได้
โดยไม่รู้ว่าออกให้ใคร และไม่มีทางตามรอยการใช้งานได้ครับ
---
💡 Cashu ทำงานยังไง? (4 ขั้นตอน)
1. ฝากบิตคอยน์เข้า Mint
มักใช้ผ่าน Lightning Network เพื่อให้เร็วและต้นทุนต่ำ
2. รับ ecash กลับมา
เป็นข้อความดิจิทัลที่มีลายเซ็นของ Mint กำกับ
3. ส่ง ecash ให้คนอื่นแบบออฟไลน์
ผ่าน QRcode, Bluetooth หรือ ส่งข้อความผ่านแชท
4. ใครถือ ecash ก็เอาไปแลกคืนเป็นบิตคอยน์หรือออก ecash ใหม่ได้
---
🤔 คำถามที่หลายคนสงสัย
Q: แล้วจะไว้ใจ Mint ได้อย่างไร?
→ ใช่ครับ เรายังต้อง “เชื่อใจ” Mint ในการเก็บบิตคอยน์ให้เรา แต่จุดแข็งของ Cashu คือ มันทำงานอยู่บนบิตคอยน์ทั้งหมดครับ ทั้งฝั่งของสินทรัพย์ (บิตคอยน์) และหนี้สิน (ecash) เป็นข้อมูลดิจิทัลที่ตรวจสอบได้แบบไร้รอยต่อ
นั่นหมายความว่า Mint ที่ดีสามารถแสดง “หลักฐานเงินทุนสำรอง” (Proof of Reserves) และ “หลักฐานหนี้สิน” (Proof of Liabilities) ให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้ด้วยตัวเองแบบเรียลไทม์ โปร่งใส และแม่นยำครับ
Q: ความเป็นส่วนตัวสูงแค่ไหน?
→ สูงมากครับ Mint ไม่รู้ว่า ecash อยู่กับใคร
และไม่สามารถตามรอยการโอนได้เลย
Q: แล้วมันคือบิตคอยน์ไหม?
→ ไม่ใช่โดยตรงครับ
แต่มันคือ “เงินสดดิจิทัล” ที่มีบิตคอยน์หนุนหลัง 1:1
สามารถแลกคืนได้ทุกเมื่อ
---
สรุปแล้ว Cashu คือ “เลเยอร์เสริม” บนบิตคอยน์ที่นำคุณสมบัติของ เงินสด มาสู่โลกดิจิทัล:
- ใครถือก็เป็นเจ้าของ
- ส่งต่อกันได้อิสระ
- ไม่มีใครรู้ว่าเงินมาจากไหน
และไม่มีใครสามารถยับยั้งธุรกรรมของคุณได้ครับ
เพราะ ความเป็นส่วนตัว คือรากฐานของอิสรภาพ
และ Cashu คือเครื่องมือเรียบง่ายที่มอบอิสรภาพทางการเงินกลับคืนสู่มือคุณครับ
---
อยากลองใช้งานจริง?
เริ่มต้นง่ายๆ ได้ที่เว็บไซต์:
🔗 https://cashu.me ทดลองสร้างกระเป๋า Cashu และรับ-ส่งเงินแบบส่วนตัวได้ครับ
#siamstr #cashu
ในบทความก่อนหน้านี้ ผมได้เล่าถึงแอปชื่อ Bitchat ที่ให้เราส่งบิตคอยน์ให้กันได้โดยไม่ต้องต่อเน็ตครับ
หลายคนอาจสงสัยว่า “มันทำได้ยังไง?"
คำตอบก็คือ เทคโนโลยีเบื้องหลังที่ชื่อว่า Cashu ครับ
วันนี้เราจะมาเจาะลึกว่า Cashu คืออะไร? ทำงานอย่างไร?
และทำไมมันถึงสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคที่เราต้องการอิสรภาพทางการเงินมากกว่าที่เคย
📌 ยังไม่ได้อ่านบทความก่อนหน้า? อ่านได้ที่นี่ครับ:
🔗 https://www.facebook.com/share/p/1AUBYK9KmK/
---
จุดเริ่มต้นของ Cashu: เมื่อแนวคิดจากปี 1980s ถูกปลุกชีพ
Cashu มีรากฐานมาจากแนวคิดชื่อว่า Chaumian ecash ครับ
ซึ่งถูกคิดค้นโดย David Chaum นักวิทยาการเข้ารหัสในยุค 1980s
แนวคิดนี้เป็นการสร้าง “เงินสดอิเล็กทรอนิกส์" หรือ ecash ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงมาก
โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า "ลายเซ็นต์ลับ" หรือ Blind Signature ซึ่งทำให้ใครก็ตามสามารถถือเงิน และส่งต่อให้กันโดยที่ไม่มีใครนอกจากคนส่งและคนรับมารับรู้กิจกรรมนั้นเหมือน "เงินสด" ครับ
แนวคิดนี้กลับมาอีกครั้งในชื่อ Cashu
โดยผูกเข้ากับบิตคอยน์และ Lightning Network เพื่อให้ใช้งานได้จริง
---
Cashu คืออะไร?
Cashu คือระบบ ecash ที่คุณถือไว้เอง ส่งให้ใครก็ได้
แม้ไม่ต่ออินเทอร์เน็ต และไม่มีใครสามารถติดตามคุณได้เลยครับ
คุณสมบัติหลักของ Cashu มีอยู่ 4 ข้อสำคัญ:
✅ ไม่มีบัญชี ไม่มีบันทึก
✅ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
✅ ไม่มีใครสามารถแทรกแซงการใช้เงินของคุณได้
✅ และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ เพราะ พลังของความเป็นส่วนตัว ครับ
เมื่อไม่มีการผูกตัวตนหรือบัญชีผู้ใช้
Mint จึงไม่สามารถระงับธุรกรรมของใครคนใดคนหนึ่งได้เลยครับ
เพราะเขา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงินนั้นอยู่กับใคร
หาก Mint ต้องการ “หยุดธุรกรรมคนใดคนหนึ่ง” ก็ทำได้ทางเดียวคือ "หยุดทั้งระบบ" ซึ่งกระทบกับผู้ใช้ทั้งหมด
นี่คือสิ่งที่ทำให้ Cashu ต้านทานการแทรกแซงแบบเจาะจง ได้จริง
---
ทำไมต้องมี Cashu?
ผู้ใช้บิตคอยน์แรกเริ่มจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ Lightning Network
มักเริ่มต้นจากการใช้กระเป๋าเงินแบบ custodial wallet ที่มีผู้ให้บริการเก็บเงินให้
แม้จะใช้งานง่ายและสะดวก แต่ความสะดวกนั้นมีข้อแลกเปลี่ยนครับ:
- ผู้ให้บริการ เห็นธุรกรรมทั้งหมดของเรา
- รู้ว่าเรามีเงินเท่าไร รับจากใคร ส่งให้ใคร
- และสามารถ “ระงับบัญชี” หรือ “อายัดเงิน” ได้ทุกเมื่อ
Cashu ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยตรง ครับ
แม้จะยังต้องอาศัยผู้ให้บริการ (Mint) ในการออก ecash
ด้วยเทคนิค Blind Signature และโครงสร้างของระบบ
ทำให้ Mint ไม่สามารถติดตาม เส้นทาง หรือเจ้าของเงินได้เลย
พูดอีกแบบหนึ่งคือ
Cashu คือ custodial wallet ที่ให้ความเป็นส่วนตัวใกล้เคียงกับเงินสดมากที่สุด ในตอนนี้ครับ
---
ลายเซ็นลับคืออะไร?
ลองนึกภาพว่า:
คุณเขียนข้อควาใลับลงในกระดาษ แล้วใส่ในซองบุด้วยกระดาษคาร์บอน
ยื่นซองให้ธนาคารเซ็นหน้าซอง
ลายเซ็นจะประทับลงบนกระดาษข้างใน
โดยที่ธนาคารไม่รู้เลยว่าข้างในมีอะไร
นี่คือแนวคิดของ Blind Signature ที่ทำให้ Mint ออกเงินให้ได้
โดยไม่รู้ว่าออกให้ใคร และไม่มีทางตามรอยการใช้งานได้ครับ
---
💡 Cashu ทำงานยังไง? (4 ขั้นตอน)
1. ฝากบิตคอยน์เข้า Mint
มักใช้ผ่าน Lightning Network เพื่อให้เร็วและต้นทุนต่ำ
2. รับ ecash กลับมา
เป็นข้อความดิจิทัลที่มีลายเซ็นของ Mint กำกับ
3. ส่ง ecash ให้คนอื่นแบบออฟไลน์
ผ่าน QRcode, Bluetooth หรือ ส่งข้อความผ่านแชท
4. ใครถือ ecash ก็เอาไปแลกคืนเป็นบิตคอยน์หรือออก ecash ใหม่ได้
---
🤔 คำถามที่หลายคนสงสัย
Q: แล้วจะไว้ใจ Mint ได้อย่างไร?
→ ใช่ครับ เรายังต้อง “เชื่อใจ” Mint ในการเก็บบิตคอยน์ให้เรา แต่จุดแข็งของ Cashu คือ มันทำงานอยู่บนบิตคอยน์ทั้งหมดครับ ทั้งฝั่งของสินทรัพย์ (บิตคอยน์) และหนี้สิน (ecash) เป็นข้อมูลดิจิทัลที่ตรวจสอบได้แบบไร้รอยต่อ
นั่นหมายความว่า Mint ที่ดีสามารถแสดง “หลักฐานเงินทุนสำรอง” (Proof of Reserves) และ “หลักฐานหนี้สิน” (Proof of Liabilities) ให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้ด้วยตัวเองแบบเรียลไทม์ โปร่งใส และแม่นยำครับ
Q: ความเป็นส่วนตัวสูงแค่ไหน?
→ สูงมากครับ Mint ไม่รู้ว่า ecash อยู่กับใคร
และไม่สามารถตามรอยการโอนได้เลย
Q: แล้วมันคือบิตคอยน์ไหม?
→ ไม่ใช่โดยตรงครับ
แต่มันคือ “เงินสดดิจิทัล” ที่มีบิตคอยน์หนุนหลัง 1:1
สามารถแลกคืนได้ทุกเมื่อ
---
สรุปแล้ว Cashu คือ “เลเยอร์เสริม” บนบิตคอยน์ที่นำคุณสมบัติของ เงินสด มาสู่โลกดิจิทัล:
- ใครถือก็เป็นเจ้าของ
- ส่งต่อกันได้อิสระ
- ไม่มีใครรู้ว่าเงินมาจากไหน
และไม่มีใครสามารถยับยั้งธุรกรรมของคุณได้ครับ
เพราะ ความเป็นส่วนตัว คือรากฐานของอิสรภาพ
และ Cashu คือเครื่องมือเรียบง่ายที่มอบอิสรภาพทางการเงินกลับคืนสู่มือคุณครับ
---
อยากลองใช้งานจริง?
เริ่มต้นง่ายๆ ได้ที่เว็บไซต์:
🔗 https://cashu.me ทดลองสร้างกระเป๋า Cashu และรับ-ส่งเงินแบบส่วนตัวได้ครับ
#siamstr #cashu