#siamstr
ถ้าคุณกลัวนักหนา
ว่าคนอื่นจะมองคุณยังไง ?
คุณตอบคำถามผมมา !!!!
ว่าถ้าคุณเสียชีวิตไปแล้ว
ในงานศพคุณ
“ ใคร ”--- > จะเป็นคนเสียใจ ?
และ
” ใคร ” !!!? --> จะเป็นคนที่มางานศพเพื่อ..
.
.
.
-. เล่นไพ่ .-
---
นี่คือประเด็นน่าสนใจที่ผมได้จาก
" ความตายของ อีวาน อีลิช " โดย LEO DOLSTOY
1 ในวรรณกรรมคลาสสิคของโลกครับ
---
( มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องของวรรณกรรม )
( ไม่ใช้ AI เขียน ) #ทีมเทสพุ่ง #ยอดยาหม่อง
---
อุปสรรคใหญ่ ๆ ของคนที่อยู่ในระยะเริ่มต้นพัฒนาตัวเอง
คือพวกคุณกำลัง " หวาดกลัว " การตัดสินของคนรอบข้าง
วรรรกรรมนี้จะบอกคุณว่า
-. ต่อให้คุณตายวันนี้ หรือในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
คนรอบข้างก็ไม่สนใจความตายของคุณ
คนที่สนใจคุณ จะมีเพียงคนที่รักคุณจริง ๆ .-
---
ฉากที่แสดงว่าข้อความดังกล่าวเป็นจริงมากที่สุด
ก็คือ หลังจากการตายของ อีวาน อิลิช
ผู้คนในแวดวงการทำงานของ อีวาน อิลิช
ก็ได้นัดกันมางานศพครับ
เชื่อไหม ว่า 1 ในคนเหล่านั้น
ยืนเคารพโค้งศพ อีวาน อีลิช อย่างมักง่าย
และชักชวนเพื่อนฝูงของตน
—
" อย่าให้ความตายของใครบางคน
มาเป็นข้ออ้างในการ ”ห้าม”
ไขว่คว้าความสุขเกษม
ของคนที่กำลังมีชีวิตอยู่ "
ผมเชื่อว่าคนไทยหลายคนเข้าใจคำนี้ดี
ดีมากเลยด้วย
---
เวลามีงานศพเกิดขึ้นในไทย
ญาติของคนที่เสียชีวิต ก็วิ่งเต้นไปเถอะ
แค่เสียใจก็มากพออยู่แล้ว
ยังจะต้องจัดงานศพ จัดแจงพิธี
จัดแจงหาข้าวให้ไอ่พวกห่านี่แดก
สรรหาเสนอหน้า อ้างว่ามาร่วมทุกข์
NO VALID จัด ๆ
คนประเภทนี้ในงานศพ
เขาเคยมองหาอะไรบ้าง ?
นอกจาก " มา ตั้งวงไพ่ "
" มา ไฮโล " " มึง ไปเอาข้าวเพิ่มดิ้ "
---
ยิ่งในกรณีที่คนตาย ตายด้วยโรคร้าย
ที่ต้องค่อย ๆ Palliative
( รักษาแบบประคับประคองชีวิต )
มาตลอด
คนพวกนี้ หายไปไหน ??
เขากล้าพูดได้เต็มปากได้ยังไง ?
ว่ามาเพื่อ " ไว้อาลัย "
---
เห็นอะไรไหมครับ ?
การดำรงอยู่ของคุณ
จึงสำคัญแค่กับ
คนที่รักคุณอย่างสุดหัวใจจริง ๆ
ช่วงเวลาชีวิตที่คุณมีอยู่ตอนนี้
มันจึงมีค่ามากอย่างยิ่งที่คุณต้อง
" ทำตามเสียงหัวใจตัวเอง "
มากกว่าจะเอาเวลาไปกลัวคำตัดสินจาก
**คนที่จะมาเล่นไพ่ในงานศพของคุณ**
—
เพราะคนพวกนี้เขาไม่เคยแคร์อะไรคุณเลยครับ
ถ้าคุณเขินอายที่จะเริ่มพัฒนาตัวเอง เพราะกลัวลมปากคนเหล่านี้
มันไม่ได้อะไรขึ้นมาครับ
เพราะถึงคุณตายไป
เขาก็จะแค่แวะมาเล่นไพ่ในงานศพ
แล้วก็จากไปอยู่ดี
เขาไม่เคยสนอะไรคุณเลย
แล้วเรื่องอะไรที่คุณต้องไปสนใจ
คำพูด คำตัดสิน จากคนเหล่านั้น ?????
---
แต่เชื่อมั้ยครับว่า ในวรรณกรรมนี้
อีวาน อีลิช
เขาใช้ชีวิตแบบที่ไม่เคย
ทำตามเสียงหัวใจตัวเองมาตลอดเลย..
---
เล่าโดยย่อ
อีวาน อีลิช เป็นคนเรียนเก่ง
ไต่เต้าจนรู้จักกับพวกชนชั้นสูง
ได้เป็นผู้พิพากษาที่มีชื่อเสียง
แต่งงานมีเมีย มีลูก
ลีโอ ดอลสตอย ผู้เขียนเรื่องนี้
พยายามเล่าว่า ต่อให้เป็นชีวิตอันสุดแสนธรรมดา
ที่ไขว่คว้าสูงขึ้นไปด้านฐานะการงานและครอบครัว
ของ อีวาน อิลิช
แต่ อีวาน อีลิช ไม่ได้มีความสุขเลย
---
ในห้วงความคิดของอีวาน อีลิช
เหมือนกับว่า เขาต้องคอยประจบเอาใจ
ต้องแกล้งทำ " พฤติกรรมแบบที่ชนชั้นสูงเขาทำ "
ก็เพียงเพื่อว่า " จะได้รับการยอมรับ "
---
ภรรยาของเขาเป็นคนขี้บ่น
คือตอนอ่านแล้วผมก็ยัง งง
ว่า เชี่ย ลีโอ มึงเขียนตัวละครยังไง
ให้ออกมานิสัย toxic ยังงี้วะ65555555
คือภรรยาของ อีวาน อีลิช
คุณต้องไปอ่านในเล่มเอาเอง นิสัยแม้ง
แค่อ่านผมยังหดหู่แทน
ที่ทำงานก็ต้องแสร้งทำ
กลัมมาบ้านแม้แต่ภรรยาก็ยังด้อยค่าตัวเขา
สิ่งที่เขาต้องแสร้งทำอีกก็คือ
—
" ทำงานให้หนักขึ้น "
---
ยิ่งทำงานเก่งเท่าไหร่
ก็ยิ่งได้รับการยอมรับมากขึ้น
การยอมรับที่เขาต้องการ...
ที่เขาหาไม่ได้ ในครอบครัว...
ที่ ๆ ควรจะเป็นเซฟโซนลำดับแรก...
แม้จะต้องแสร้งทำก็ตาม...
---
เคาะห์ร้ายที่อยู่ ๆ
อีวาน อีลิช ก็ป่วย
อาการทรุดลง
---
อาการคนป่วยที่สภาพจิตใจ
ก็อ่อนแอมากพอเดิมอยู่แล้ว
อาการคนป่วย ที่รู้ดีว่าตัวเองเป็นหนักแค่ไหน
กินยามานานแค่ไหน ก็ไม่หายเสียที
---
ก็ยังไม่วายที่จะโดน . " ตัดสิน " . ว่า
ไม่ยอมพักผ่อนให้พอไง
ไม่ยอมกินยาให้ครบไง
ไม่ยอมเชื่อหมอไง
ไม่ยอมทำแบบนั้นแบบนี้ไง
---
มุมมองจากคนที่ไม่ได้ป่วย ไม่สิ...
ไม่ได้พบเจอปัญหานั้นกับตัวเอง
ปัญหาของคนอื่นจะเป็นเรื่องเล็กเสมอ
และอย่าลืมว่าขนาด อีวาน อีลิช ป่วย
ยังโดนตัดสินได้โดยง่าย !
คนจะคอยหาคำพูดมาตัดสิน
มันก็หาได้ตลอดเวลานั่นแหละ
---
คนที่กำลังป่วยเจอปัญหาอะไรก็ตาม
เขาจะอ่อนแอลงโดยอัติโนมัติ
เพราะเขารู้ดีว่าปัญหาที่เขาเจอมีภาพรวมอย่างไรบ้าง
มีความชิบหายในตัวมันเองยังไง
การใช้อีโก้ การใช้คำสั่งสอน
การใช้คำแนะนำ ที่คิดว่าอาจจะดีต่อตัวเขา
ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
---
สิ่งที่จะช่วยอีวาน อีลิชได้ คือ
" ความเข้าใจ "
---
อีวาน อีลิช ใช้เวลามาทั้งชีวิตที่จะเข้าใจชนชั้นสูง
เข้าใจสังคมการทำงาน เข้าใจเมียตัวเองมามากพอแล้ว
ในตอนที่เขาป่วยหนัก เขาแค่ต้องการ
" ความเข้าใจ " v " ความรัก "
ก็เท่านั้นเอง
---
ดังนั้นแล้ว สิ่งที่อีวาน อีลิช ทำมาตลอดชีวิต
เพื่อที่จะได้รับการยอมรับ การเข้าใจ
คนภายนอกอาจจะเห็นว่า เขาเติบโตและมั่งคั่งขึ้นทุกวัน
แต่การใช้ชีวิตโดยที่ อีวาน อีลิช ไม่เคยใช้เพื่อตัวเองเลย
มุมมองของอีวาน อีลิช
จึงไม่ใช่ว่าเขามองตัวเองเติบโตขึ้นทุกวัน
-. แต่เป็นการเข้าหาความตายมากขึ้นทุกวันต่างหาก .-
---
โชคยังดีอยู่บ้างที่แม้ว่าเขาจะใช้ชีวิตแบบ " คนตาย " มาโดยตลอด
แต่เขายังมีพื้นที่เล็ก ๆ ที่ทำให้เขารู้สึกว่า " เขาเองก็มีชีวิต " อยู่บ้าง
---
นั่นคือ / เกราซิม / คนรับใช้ประจำตัวของ อีวาน อีลิช
---
ก็นั่นแหละนะ คนเราไม่เคยป่วย
พอป่วยที่ก็ต้องมีคนมาเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้
สิ่งเหล่านี้มีผลต่อ จิตใจ อีวาน อีลิชมาก
เขาพยายามจะบอก เกราซิมว่า
"เดี๋ยวฉันก็ตายแล้ว ! ช่วยแค่นี้แหละ ที่เหลือจัดการเอง! "
---
รู้ไหมว่าเกราซิมตอบอะไรมา ?
---
" คนเราทุกคนก็ต้องตายด้วยกันทั้งนั้นแหละครับท่าน
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง….
ทำไม….ผมจะไม่ควรช่วยเหลือท่าน…
ตั้งแต่เสียตอนนี้ล่ะครับ ? "
---
🙂 เห็นอะไรมั้ยครับ ?
---
ผมเชื่อว่าใครหลายคนคงโตมากับคำว่า
" ไหน ๆ คนเราก็ตายอยู่ดี ลองทำเรื่องเหี้ย ๆ ไปเลย "
ผมถามกลับ…
แล้วเราจะทำเรื่องแย่ทำไม ?
ในเมื่อเราทำดีได้ ?
---
เกราซิมจึงเป็นที่พึ่งทางใจของ อีวาน อีลิชในวาระสุดท้ายของชีวิต
อีวาน อีลิช เริ่มที่จะเพ้อขึ้นเรื่อย ๆ จากอาการป้วยที่ทรุดลง
เขาเพ้อถึงพระผู้เป็นเจ้า ว่าทำไมช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเขา
ที่พยายามทำในสิ่งที่สังคมบอกว่าดี
แต่ทำไมจิตใจของเขาถึงว่างเปล่าเพียงนี้
ทำไมไม่ถูกเติมเต็ม
ทำไมตอนใกล้จะตายจากโรคร้าย
ถึงได้ปราถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อเหลือเกิน ยั
งไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยความพึงพอใจ
ยังไม่ได้ใช้ชีวิตตามเสียงเรียกหัวใจตัวเองเลย.....
---
อีวาน อีลิช พูดถึงเสียงหัวใจตัวเองว่า จำไม่ได้
จำไม่ได้นานแล้ว
ว่าเสียงที่คอยเรียกหา
ให้เขาทำสิ่งนั้นสิ่งนี้จากในใจตัวเอง
มันหายไปไหน
เขาจำได้ว่าจุดที่เสียงหัวใจสว่างไสวที่สุดในชีวิต
มันคือตอนที่เขายังเป็นวัยแรกเริ่มของชีวิต
ที่เสียงรอบตัวมีแต่เสียงตัวเอง พ่อ แม่
แต่พอเวลาผ่านไป เสียงหัวใจเหล่านี้ลดลง
ทดแทนด้วยเสียงสังคม เมื่อนั้นเองที่เสียงหัวใจตัวเองแคบลง มืดลง มืดเร็วชั่วทุกขณะ
—
" เหมือนดัชนีผกผันของรากแห่งระยะทาง
ซึ่งแยกฉันไว้ด้วยความตาย "
---
note****** นี่โคตรเป็น HOOK ของหนังสือ
ไอเดียที่พยายามจะบอกว่า พวกเราทุกคนมีเสียงเรียกในใจตัวเอง
ถ้าคุณอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองมากพอ คุณจะเข้าใจว่า
มีการพูดถึงเสียงเรียกนี้ด้วยกันหมดทั้งสิ้น !!!
และนี่คือวรรณกรรมจากยุคศตวรรษที่ 18 !!!
( มาก่อนกาลจัด ๆ )
---
ชั่วขณะสุดท้ายก่อนที่ อีวาน อีลิช จะหมดลมหายใจ
ในที่สุด อีวาน อีลิช ก็เข้าใจว่าถ้าหาก
การใช้ชีวิตที่ผ่านมาของเขา
มันคือการละเลยเสียงหัวใจตัวเอง
มันก็ไม่ต่างจาก คนที่ตายมาทั้งชีวิตหรอก
—
ดังนั้นความตายจากโรคร้าย
ที่กำลังจะพรากลมหายใจไปจากเขา
จึงไม่ใช่ความน่ากลัวแต่อย่างใด
—
การจบลงของชีวิตที่ไม่ได้ทำตามเสียงหัวใจตัวเองนี่แหละ
คือการปลดปล่อยเขาเป็นอิสระอย่างแท้จริง
อีวาน อีลิช เข้าใจถึงสัจธรรมนี้ในวาระสุดท้าย
และในที่สุดเขาก็ได้พบสิ่งที่เขาตามหามาตลอด
---
" ความสงบ "
---
หวังว่าโพสต์นี้
อาจเข้ามาช่วยคุณ
ในเวลาที่คุณต้องการ
—
ขอบคุณครับ
---












