#กายทิพย์
satuser
satuser@siamstr.com
npub1e9vc...j93f
satoshi is in the word 🌳 / technical dreamer / do note
มีความเป็นไปได้สูงที่มนุษย์จะพัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความเป็น "ออร์แกนิค" (Organic) มากขึ้น โดยมี "การทำซ้ำด้วยตัวเอง" (Self-replication) เป็นหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญ แต่ก็ยังมีเหตุผลอื่นประกอบด้วยครับ
แนวคิดนี้ไม่ได้มาจากภาพยนตร์ไซไฟเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเป้าหมายที่จริงจังในวงการวิจัยหุ่นยนต์และวัสดุศาสตร์
ทำไม Self-replication ถึงผลักดันสู่ความเป็น "ออร์แกนิค"?
- การหาวัตถุดิบ: หุ่นยนต์ที่ทำจากโลหะและพลาสติกแบบดั้งเดิมจะจำลองตัวเองได้ยากในสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ เพราะต้องใช้โรงงานขนาดใหญ่ในการสกัดและขึ้นรูปวัตถุดิบ แต่ถ้าหุ่นยนต์สร้างจาก "วัสดุชีวภาพ" (Biomaterials) หรือมีส่วนประกอบที่เลียนแบบสิ่งมีชีวิต มันจะสามารถใช้วัตถุดิบพื้นฐานที่มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ (เช่น คาร์บอน, ไฮโดรเจน, ออกซิเจน) มาสร้างหรือซ่อมแซมตัวเองได้ง่ายกว่ามาก คล้ายกับที่พืชเติบโตจากดินและอากาศ 🌳
- ความยั่งยืนและย่อยสลายได้: หุ่นยนต์โลหะเมื่อหมดสภาพจะกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นพิษ แต่หุ่นยนต์ออร์แกนิคจะสามารถ ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ (Biodegradable) เมื่อหมดอายุขัย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งหากเราต้องการสร้างหุ่นยนต์จำนวนมหาศาลผ่านการทำซ้ำตัวเองโดยไม่สร้างภาระให้โลก
- การซ่อมแซมตัวเอง (Self-healing): สิ่งมีชีวิตมีความสามารถที่น่าทึ่งในการซ่อมแซมบาดแผลของตัวเอง การสร้างหุ่นยนต์จากวัสดุที่เลียนแบบเนื้อเยื่อชีวภาพจะทำให้มันสามารถ ซ่อมแซมความเสียหายของตัวเองได้ คล้ายกับผิวหนังที่สมานแผลเองได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับหุ่นยนต์ที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่คาดเดายากเป็นเวลานาน
เหตุผลอื่น ๆ ที่ผลักดันสู่หุ่นยนต์ออร์แกนิค
นอกเหนือจากการทำซ้ำด้วยตัวเอง ยังมีเหตุผลอื่นที่สำคัญไม่แพ้กัน:
- ความปลอดภัยในการทำงานร่วมกับมนุษย์: หุ่นยนต์แบบอ่อนนุ่ม (Soft Robotics) ที่สร้างจากวัสดุคล้ายกล้ามเนื้อมีความปลอดภัยกว่าหุ่นยนต์โลหะที่แข็งกระด้าง ทำให้สามารถทำงานใกล้ชิดกับมนุษย์ได้โดยไม่เป็นอันตราย เช่น ในการดูแลผู้สูงอายุหรือการแพทย์
- ประสิทธิภาพและการปรับตัว: ธรรมชาติได้ออกแบบกลไกที่มีประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่งมานับล้านปี เช่น กล้ามเนื้อของสัตว์ที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างนุ่มนวลและทรงพลัง การสร้าง กล้ามเนื้อเทียม (Artificial Muscles) หรือระบบประสาทเทียม จะทำให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหวและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนได้ดีกว่าหุ่นยนต์กลไกแบบเดิม
- การเชื่อมต่อกับร่างกายมนุษย์ (Bio-integration): สำหรับการใช้งานทางการแพทย์ เช่น อวัยวะเทียม หรือหุ่นยนต์นาโนที่ทำงานในร่างกาย การใช้วัสดุออร์แกนิคจะช่วยลดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้สามารถทำงานร่วมกับร่างกายมนุษย์ได้อย่างราบรื่น
สรุป:
เหตุผลด้าน Self-replication เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ในการพัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความเป็นออร์แกนิคมากขึ้น เพราะมันคือคำตอบของปัญหาด้านวัตถุดิบและความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ด้าน ความปลอดภัย, ประสิทธิภาพ, และการเข้ากันได้ทางชีวภาพ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แนวโน้มนี้เกิดขึ้นและกำลังกลายเป็นอนาคตของวงการหุ่นยนต์ครับ เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่เส้นแบ่งระหว่างเครื่องจักรและสิ่งมีชีวิตเริ่มจางลงเรื่อยๆ
#siamstr #roborganic 🌳🤖🫀🔂
ชาติที่แล้วเคยเกิดเป็น NPC นั่งรอ player มาทำเควส 🌳🏟️🤜🏻✴️🤛🏿


ไม่มีหญิง
ไม่มีชาย
มีแต่บ็อบ
และอลิซ
#RabbitMining 🥕🕳️🐇
น่าจะใกล้จบ ยุคเด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ
แล้วเข้าสู่ ยุคเด็กจบใหม่บอกให้พ่อแม่แบ่งเงินค่าเทอมไปเปลี่ยนเป็น Bitcoin เก็บไว้ให้กับพวกเขาในอนาคตด้วย
จบมาจะได้ไม่ต้องไปหางาน
แต่มีเงินที่จะเริ่มเกาะกลุ่มกันทดลองทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองอยากลองทำ และสร้างรายได้ต่อไป
#siamstr
เบื้องหลัง "Dirty Coin": เงิน / ตรา / พลังงาน และบทสนทนาบิตคอยน์ที่ต้องเริ่มต้นในสัปดาห์สารคดีสิ่งแวดล้อมแม่น้ำโขงอาเซียน หรือ Mekong Asean Documentary Film Week In MAEW 2025 หนึ่งในโปรแกรมที่น่าจับตามองที่สุดคือ "Dirty Coin" สารคดีที่จะท้าทายทุกความเชื่อเดิมๆ ของคุณเกี่ยวกับบิตคอยน์และพลังงาน กำกับโดย Alana Mediavilla Díaz ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องสกุลเงินดิจิทัล แต่คือการเดินทางเจาะลึกเพื่อตั้งคำถามว่า การขุดบิตคอยน์อาจเป็นส่วนหนึ่งของ "ทางออก" ด้านพลังงานของโลกได้อย่างไร ขอเชิญมาร่วมรับชมและจุดประกายบทสนทนาครั้งสำคัญนี้พร้อมกันใน วันที่ 29 กันยายน 2568 เวลา 16:00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องจามจุรี ภัตตาคารแม่นำพร
เบื้องหลังผลงานชิ้นนี้คือความทุ่มเทตลอด 3 ปีของ Alana Mediavilla Díaz อดีตโปรดิวเซอร์สารคดีจาก Google ที่เดินทางไปทั่ว 4 ทวีปเพื่อบันทึกภาพความจริงของการขุดบิตคอยน์ในบริบทที่แตกต่างกันทั่วโลก ความตั้งใจของเธอไม่ใช่การชี้นำว่าใครควรซื้อบิตคอยน์ แต่คือการ "ทำให้บทสนทนาเรื่องศูนย์ข้อมูลเป็นเรื่องปกติ" และสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ เธอพบว่าความท้าทายไม่ได้มีแค่การเดินทาง แต่ยังรวมถึงการสร้างภาพยนตร์ในช่วงตลาดหมีของคริปโต ซึ่งทำให้ฮอลลีวูดมองว่า "คริปโตตายแล้ว" แต่เธอยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าต่อไป เพราะเห็นสัญญาณสำคัญที่สวนทางกับกระแสหลัก
ชื่อเรื่องที่ท้าทายอย่าง "Dirty Coin" (เหรียญสกปรก) มาจากการถกเถียงในวงการเกี่ยวกับความพยายาม "ทำความสะอาด" บิตคอยน์ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนระบบไปใช้ Proof of Stake หรือการกำหนดให้ขุดด้วยพลังงานหมุนเวียนเท่านั้น ซึ่ง Alana ชี้ให้เห็นว่าแนวคิดนี้อาจทำลายคุณสมบัติสำคัญที่สุดของบิตคอยน์ นั่นคือ ความเป็น Fungibility (คุณสมบัติที่ทุกหน่วยสามารถทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์) หากมี "เหรียญสะอาด" และ "เหรียญสกปรก" บิตคอยน์ก็จะไม่ต่างจากสินทรัพย์อื่นๆ ที่มีเงื่อนไขและข้อจำกัด ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ดั้งเดิมที่ต้องการสร้างระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer ที่ทุกคนเข้าถึงได้โดยไม่มีใครมาขวางกั้น
หนึ่งในเกล็ดข้อมูลที่น่าสนใจที่สุดที่ Alana ค้นพบระหว่างการถ่ายทำ คือ "การขุดบิตคอยน์จะส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คน ก่อนที่พวกเขาจะได้ใช้บิตคอยน์ด้วยซ้ำ" ในหลายพื้นที่ห่างไกล การมาถึงของเหมืองขุดบิตคอยน์ได้กลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ชุมชนมีไฟฟ้าใช้เป็นครั้งแรก หรือเป็นตัวเร่งให้เกิดการสร้างแหล่งพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่นั้นๆ นี่คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง จับต้องได้ และเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนโดยที่พวกเขาอาจยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบิตคอยน์คืออะไร ซึ่งเป็นมุมมองที่หาไม่ได้จากพาดหัวข่าวทั่วไป
"Dirty Coin" จึงเป็นมากกว่าสารคดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่เป็นการสำรวจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่าง เงินตรา, สกุลเงิน, และพลังงาน ผ่านมุมมองที่เปิดกว้างและชาญฉลาด ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ให้คำตอบสำเร็จรูป แต่กระตุ้นให้ผู้ชมตั้งคำถามและมองเห็นโอกาสที่ไม่คาดคิดในการสร้างอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนและมั่นคง
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่ไปไกลกว่าพาดหัวข่าว และร่วมกันตั้งคำถามต่อข้อสันนิษฐานเดิมๆ เพื่อมองหาบทบาทที่เป็นไปได้ของบิตคอยน์ในอนาคตที่ยั่งยืน ในโปรแกรมฉาย "Dirty Coin" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “Mekong Asean Documentary Film Week In MAEW 2025” แล้วพบกันครับ
#siamstr @Dirty Coin: The Bitcoin Mining Documentary


สารตั้งต้น
ตัวละลาย
ตัวทำละลาย
ล้มละลาย
เมื่อเงินถูกรวมศูนย์
ความเจริญก็ถูกรวมศูนย์
เราสามารถกระจายความเจริญ
ได้จากการหันมาใช้เงินที่กระจายศูนย์อย่างถูกวิธี
จนกระจุก รวยกระจาย
#bitcoin #change #siamstr
asic miner 2030


1. การขุดบิทคอยน์ไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั่วโลก
2. ทวีปแอฟริกามีศักยภาพด้านพลังงานหมุนเวียนถึง 39% ของโลก แต่ยังขาดโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งการขุดบิทคอยน์สามารถเข้าไปแก้ปัญหานี้ได้
3.ประเทศกำลังพัฒนาหลายแห่งต้องกู้เงินสร้างโรงไฟฟ้า โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมกับเงินต้นสูงถึง 275% ตลอดอายุสัญญา 30 ปี
4.เหมืองขุดบิทคอยน์ทำหน้าที่เป็น "ลูกค้ารายใหญ่รายแรก" ที่รับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่สร้างใหม่ ทำให้โครงการพลังงานเกิดได้จริง
5. การใช้ไฟฟ้ามีความสัมพันธ์โดยตรงกับ GDP ของประเทศ ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก เศรษฐกิจยิ่งเติบโต
6. กว่าครึ่งหนึ่งของเครือข่ายบิทคอยน์ทั่วโลกขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน
7. "พลังงานสะอาด" อย่างโซลาร์เซลล์ ก็มีต้นทุนคาร์บอนที่สูงมากในกระบวนการผลิตและติดตั้ง
8. เหมืองขุดบิทคอยน์เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ "อิเล็กตรอน" จากพลังงานหมุนเวียนจริงๆ ไม่ใช่แค่การซื้อเครดิตคาร์บอน
9. การนำก๊าซมีเทน (ที่ปกติจะถูกเผาทิ้ง) มาใช้ขุดบิทคอยน์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ดีกว่าการปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ
10. เหมืองขุดฯ ไม่ได้ใช้พลังงานหมุนเวียนเพราะเป็นคนดีเสมอไป แต่เพราะมัน "ถูกกว่า" และสร้างผลกำไรได้มากกว่า
11. พื้นที่ "เวสต์เท็กซัส" ในสหรัฐฯ ถูกขนานนามว่าเป็น "ซาอุดีอาระเบียแห่งพลังงานหมุนเวียน"
12. เหมืองขุดบิทคอยน์เป็นลูกค้ารายเดียวที่สามารถ "ปิดระบบ" ได้ภายใน 10 นาที เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้าในภาวะฉุกเฉิน
13. โรงพยาบาลหรือโรงงานอุตสาหกรรม ไม่สามารถปิดตัวกะทันหันแบบที่เหมืองขุดบิทคอยน์ทำได้
14. ศูนย์ข้อมูล (Data Center) สำหรับ AI ต้องการความเสถียรของไฟฟ้า 99.99% และไม่สามารถปิดระบบเพื่อช่วยโครงข่ายไฟฟ้าได้
15.เหมืองขุดบิทคอยน์สามารถทำงานได้แม้ในพื้นที่ห่างไกล โดยใช้แค่อินเทอร์เน็ตจากดาวเทียม Starlink หรือสัญญาณมือถือ
16. หลายโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่สร้างพลังงานได้มากกว่าที่สายส่งจะรับไหว เหมืองขุดฯ จึงเข้าไปช่วยใช้พลังงานส่วนเกินนั้น
17. รายได้จากการขายไฟฟ้าให้เหมืองขุดฯ สามารถนำไปใช้สร้างสายส่งไฟฟ้าเพื่อกระจายพลังงานไปสู่ชุมชนได้
18. เหมืองขุดบิทคอยน์มักตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบท ช่วยสร้างงานและตั้งสถาบันสอนทักษะเทคนิคให้กับคนในท้องถิ่น
19. อุตสาหกรรมการขุดบิทคอยน์ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 16,000-20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
20. ในสหรัฐอเมริกา บางรัฐได้ออกกฎหมาย "สิทธิ์ในการขุด" (Right to Mine) เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมนี้โดยเฉพาะ
21. แรงจูงใจของนักขุดจำนวนมาก ไม่ใช่แค่ผลกำไร แต่คือความเชื่อว่าบิทคอยน์เป็นสิ่งสำคัญ และการขุดคือการเชื่อมต่อโลกดิจิทัลเข้ากับโลกกายภาพ
#siamstr @Dirty Coin: The Bitcoin Mining Documentary 🗞️🪑🎤💬⛏️⚡️
อยากให้มีเกมส์แบบ Final Fantasy Tactic ที่ run ระบบ account ด้วย bitcoin
#คนที่รับบิตคอยน์ 👥
คนที่รับบิตคอยน์
#siamstr 👥
alice : ทำไมถึงใช้บิตคอยน์ ?
bob : ขี้เกียจใช้เงินเฟียต
#siamstr
#สัตว์เศรษฐกิจ
แม่ก็คือแม่
เป็นผู้หญิง
อย่าหยุดสวย
ปล.ใดๆคือสวนแกเริ่ดมาก 🙏👩🏼🌾
#siamstr #filmstr #docstr #biography


Watch Martha | Netflix Official Site
Told in her own words, this candid documentary charts the unstoppable rise, sudden fall and hard-won comeback of lifestyle icon Martha Stewart.

ยินดีกับคุณ Alana Mediavilla ผู้กำกับสารคดี Dirty Coin ที่คว้ารางวัล Best National Documentary จากเทศกาล Puerto Rico Film Festival! เป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจและตอกย้ำถึงคุณภาพของภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้
สำหรับชาว Bitcoiners และผู้ที่สนใจเรื่องราวเบื้องหลังของ Bitcoin และการขุด (mining) ที่มีนัยสำคัญต่ออนาคตของพลังงานและเศรษฐกิจโลก ไม่ควรพลาดโอกาสที่จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้
ร่วมรับชม Dirty Coin ในงาน Mekong Asean Documentary Film Week in MAEW 2025
ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Dirty Coin หรือ เงิน / ตรา / พลังงาน จะเป็นหนึ่งในเจ็ดโปรแกรมพิเศษของงาน Mekong Asean Documentary Film Week in MAEW 2025 ที่จะพาผู้ชมไปสำรวจโลกที่ซับซ้อนของการขุดบิตคอยน์ พร้อมท้าทายความเชื่อเดิมๆ เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเจาะลึกว่าการขุดบิตคอยน์สามารถเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางแก้ไขปัญหาพลังงานของโลกได้อย่างไร
- วันและเวลา: 29 กันยายน 2568 เวลา 16.00 - 17.30 น.
- สถานที่: ห้องจามจุรี ภัตตาคารแม่นำพร
มาร่วมค้นหาคำตอบและมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับบทบาทของบิตคอยน์ในอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม:
-
- ดูโปรแกรมฉายฉบับเต็ม:
- ดูกิจกรรมสัปดาห์สิ่งแวดล้อมแม่น้ำโขงอาเซียน:
#siamstr @Dirty Coin: The Bitcoin Mining Documentary 🥳
登录或注册即可查看
到 Facebook 查看帖子、照片和更多内容。

พนมนครรามา
มาแล้ว .. มาแล้ว ! โปรแกรมต...

สัปดาห์สิ่งแวดล้อมแม่โขง-อาเซียน - งาน MAEW
อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะไ...
สังคมและสามัญสำนึกบอกกับเราว่า : มีเงินต้องเอาไปฝากธนาคารนะ
ธนาคารบอกกับเราว่า : เอาเงินมาฝากกับฉันสิ ฉันบริการเก็บเงินให้ ปลอดภัยกว่านะ แต่....
ซาโตชิทำให้เราเห็นว่า : มีระบบเงินที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตที่คุณสามารถเป็นธนาคารของตัวเองได้แล้วนะ ลองใช้และศึกษาดูได้เลย
#siamstr