ผมเคยตกตะกอนทางความคิดจากไลฟ์สักไลฟ์ของ CDC Bitcoin Talk (ใช่ครับ ตอนนั้นยังไม่มี @Right Shift แยกออกมา) (และย้ำว่าผมตกตะกอนเอาเอง ในไลฟ์ไม่ได้สรุปแบบนี้เลย) ว่าท้ายที่สุดผู้มีอำนาจจะพากันกระทำชำเราคนธรรมดาสามัญอย่างเราอย่างไม่หยุดยั้งเพียงเพื่อให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากสิทธิ์และอำนาจเหล่านั้น ในช่วงนั้นผมยังรู้ไม่เท่าทันโลกมากเท่าปัจจุบัน ผมจึงคืดในมุมที่ว่า ผู้มีอำนาจคงหมายถึงรัฐบาลกลางอย่างเดียว เพราะเราเห็นสิ่งนี้ชัดเจนมากจากเหตุการณ์ทางการเมืองในอดีตตั้งแต่ยังเด็ก และพวกเขาก็กระทำชำเราประชาขนอย่างสาหัสจนถึงทุกวันนี้ เช่น การดึงมูลค่าของประชาชนจากเทคนิคเล่นแร่แปรธาตุทางเศรษฐกิจ การริดรอนสิทธิเสรีภาพด้วยการอ้างเหตุผลว่าทำไปเพื่อความปลอดภัยและชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน นำสินทรัพย์ของแผ่นดินมาใช้เป็นเครื่องมือหาเสียงและทำวาทกรรมเชิงตอแหลที่เรียกว่า "สัญญาประชาคม" ให้คนหลงเชื่อเลือกพวกเจาไปกัดกันความเจริญของมนุษยชาติ ฯลฯ ซึ่งอันที่จริงผมก็คิดอยู่แล้วล่ะว่าคงไม่ใช่แค่ภาครัฐหีอก แม้แต่บริษัทเอกชนก็คงทำแบบนี้ แต่คงไม่หนักข้อเท่าภาครัฐหรอกมั้ง..ผมคิดเอาเองไปแบบนั้น แต่ในปี 2025 นี้เอง ผมได้เห็นสิ่งที่เหล่า Big Tech ทำกับผู้บริโภค/ลูกค้าของเราอย่างหนักหน่วง เหมือนพวกเขาถูกผีห่าซาตานเข้าสิงจนหน้ามืด *** ตรงนี้ผมก็อปมาจากที่บ่นใน Discord Server ของช่องผม) *** ตอนนี้เรารู้ละว่า - Google บังคับนักพัฒนา Android ที่ทำแอปต้องลงทะเบียนกับ Google ทั้งหมด ไม่ว่าจะลงแอปใน Play Store หรือไม่ และจะนำร่องในไทยเป็นหนึ่งในเวฟ 4 ประเทศแรก - One UI 8 ของพรี่แซมซัง (ที่เรียกว่าแทบจะเป็นลูกรักของ Google อยู่ละ) ก็จะปิดกั้นไม่ให่ผู้ใช้ปลดล็อค Bootloader ได้อีกแล้ว - Xiaomi HyperOS บังคีบให้ทุกคนที่อยากปลด Bootloader ต้องลงทะเบียน Mi Community ไปแย่งสิทธิ์รายวัน ปลดล็อกได้สูงสุดเดือนละ 1 เครื่อง สูงสุดไม่เกิน 10 เครื่องต่อปี - Microsoft ทดสอบการ "บีบบังคับ" ให้ติดตั้ง Windows 11/ย้ายจากรุ่นเก่าด้วยการประกาศลอยแพการอัปเดตความปลอดภัย - Apple ก็...รู้กัน Wall Garden Ecosystem - ระบบการธนาคารทั่วโลกพยายามไม่อนุญาตให้คนที่ใช้งานมือถือ Custom ROM ใช้งานแอปธนาคาร (แม้แต่ในกรณีแค่ปลด Bootloader เฉย ๆ ก็ไม่ยอมแล้ว) - Social Media ของพวกบริษัท Big Tech ทั้งหลาย (Facebook, IG, TikTok, X, ฯลฯ) พยายามยังคับให้คนต้องยืนยันตัวตน ปิดกั้นการมองเห็นคอนเทนต์ที่ "คาดว่า" สุ่มเสี่ยง แต่กลับส่ง Cookie Tracker Logger เข้ามาในเครื่องผู้ใช้เพื่อเก็บข้อมูลไปวิเคราะห์แบบตุกติก แล้วโยนโฆษณาใส่เรารัว ๆ แถมมีการบังคับกล่ย ๆ ว่าถ้าไม่ยอมรับโฆษณาของพวกเราก็จะบีบไม่ให้ใช้งานอย่างสงบสุข - การซื้อเกม/โปรแกรม Steam ไม่ใช่การซื้อเพื่อเป็นเจ้าของ แต่เป็นการซื้อ "สิทธิ์การเข้าถึง" เกม/โปรแกรมในนั้น เราไม่ได้เป็นเจ้าของมันจริง ๆ *** จบส่วนที่ก็อปมาตรงนี้ *** และล่าสุด มีข่าวว่า Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ของ Windows Insider Program ว่าเริ่มมีการบังคับให้การติดตั้ง Windows 11 ใหม่ในเครื่องครั้งแรกจะต้อง "บังคับออนไลน์และล็อกอินด้วย Microsoft Account" โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อให้การติดตั้งเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ทั้งที่นี่มันควรเป็นสิ่งผู้ใช้งาน "ควรเป็นคนตัดสินใจ" แม้แต่ภาคเอกชนเองก็ยังทำแบบนี้กับเราเลย พวกเขาจะเริ่มจากการทำให้สินค้าและบริการของพวกเขาเข้าถึงได้ง่าย (โดยเฉพาะกับระดับนักเรียนนักศึกษา) และใช้งานสะดวกจนเสพติดระยะยาว จากนั้นจะเริ่มมีการลดทอนประสบการณ์ใช้งานให้ลำบากขึ้น น่ารำคาญมากขึ้น ลดอายุการใช้งานระยะยาวให้น้อยลง ริดรอนอิสรภาพและอธิปไตยส่วนบุคคลในสิ่งที่เราซื้อมาใช้มากขึ้น เมื่อถึงจุดที่สุกงอมได้ที่ก็เริ่มบังคับใช้มาตรการเชิงบีบบังคับให้ต้องเปลี่ยนซื้อใหม่/จ่ายค่าบริการแบบ Subscription เพื่อเป็นเสือนอนกินระยะยาวและไม่ต้องพัฒนาสินค้า/บริการของตัวเองให้มากเหมือนช่วงแรก เพราะลูกค้าก็ต้องง้อกลับมาใช้งานผลิตภัณฑ์ของพวกเขาอยู่ดึ ไม่จำเป็นต้องแข่งขันอย่างที่ควรจะเป็นในรับบตลาดเสรี ที่ตลกร้ายก็คือ ผู้บริโภคหลายคน "ไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้" แถมบางคน "รู้ แต่ไม่ติด ก็ใช้ต่อไป และก็บ่นกระปอดกระแปดกันต่อไป" และที่สำคัญ... บางอย่างเรามีสิทธิ์ "เลือกที่จะออกมาได้" ตลอดเวลา แต่หลายคนก็เลือกจะไม่ออก ไม่ว่าจะเพราะคนอื่นเขาใช้กันเป็นมาตรฐานกัน มันสะดวก ฯลฯ ซค่งผมก็เข้าใจจุดนี้ เแต่นั่นแหละ...มันหมือนหนัง The Matrix ไตรภาคอย่างไม่น่าเชื่อ (ใช่ครับ ผมนับไม่ผิด หนัดชุดนี้ "มีแค่ 3 ภาค") โลกเรานี่มัน Fuck Up กว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ #VTuberTH #siamstr

Replies (6)

Default avatar
Dominic 2 months ago
Hello, care to chat a little?
เกลียดบิลเกตสุดๆจนย้ายไปใช้ Linux ได้เกือบ 2 ปีละ ปัญหาเดียวที่เจอคือเล่น honkai impact ไม่ได้ แต่ช่วงนี้ก็หมดไฟเล่นแล้วเหมือนกัน 5555555 ส่วนเรื่อง app line ก็ใช้ version browser เอา หวังว่าเขาจะไม่เอาออกไป และโทรสับเครื่องต่อไป ก้เล็ง pure android คือจริงๆอยากเล่น graphene แต่แม่มใช้แอพธนาคารไม่ได้ อีกอันที่เบื้อจัดคือแอพโซเชียล ผมลบ facebook ในโทรสับไป แต่ต้องคอยกลับมาโหลดใหม่เวลาจะ log in ในคอม เป็นห่าอะไรถึงเลือก option ว่าจะ 2FA ด้วย email แบบชาวบ้านไม่ได้ ต้องมากดในแอพ คือถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากใช้เลยแหละ เพราะถึงจะเคยล้างบางการติดตามไป แต่มันก็ขยันเอาคอนเท้นที่เราไม่ได้ติดตามมาโชว์ แล้วคือความรู้หลายๆอย่างของคนไทยมันก็ดันอยู่ในเฟส 😓 ส่วนอินสตาแกรม 2025 กลายเป็น แอพขยะ มีแต่ reel ai แมวส้ม brain rot แต่ตรูก็พยายามจะคอยไปลงสตอรี่เบียวบิตคอยเพื่อเตือนใจเพื่อนที่มันคงเลิกตามตรูไปแล้วอยู่เสมอ 5555555
บริการที่เป็น subscription ก็น่าเบื่อ เรามีของ youtube แต่ก็เพราะว่า youtube ที่ทำให้เราสร้างเกม unity ได้ตั้งแต่ ม4 และช่วยให้เราเข้าใจเนื้อหายากๆที่อาจารย์ไม่สอน ให้ศึกษาเองแล้วเอามาพรีเซ้นในสมัยมหาลัย แต่พอทบทวนดูทุกวันนี้เหมือน เราใช้มันเป็นสื่อบันเทิงมากกว่า 70% ไปละ ติดงอมแงม 😅 แล้วก็เหมือนเฟสบุ้กเลย คอนเท้นดีๆของมนุษยชาติแม่มอยู่ในนั้นเยอะ 555555 ดีหน่อยที่เราคัดคลิปประมาณนึง อัลกอลิทึมยูทู้บเลยไม่เอาแมวส้ม brain rot มาให้เราดู 555555
ที่ผมยัง Windows อยู่เพราะต้องไลฟ์เกมที่เรารักนี่แหละ แต่ที่แน่ ๆ ผมไม่ลง Windows ตรง ๆ อีกต่อไปแล้ว ผมต้องเอาไปรับผ่านสคริปต์ tiny11 ให้ลีนที่สุดก่อนใช้
ดีแฮะ ยังมีคนพยายามหาหนทางทำให้มันลีนได้อยู่ 55555