มีบทความชิ้นใหม่มาฝากครับ :) ชิ้นนี้เปรียบเหมือนภาคขยาย (Spin-off) ของซีรีส์ Field Notes ที่จะพาเราดำดิ่งลงไปในศิลปะของการฟังโดยเฉพาะ View article → อาจจะยาวเป็นพิเศษสักหน่อย (มีทั้งหมด 6 บท) เลยอยากบอกว่าไม่ต้องรีบอ่านเลยนะครับ เอาไว้อ่านในวันว่างๆ ที่ใจสงบ ค่อยๆ ทยอยอ่านทีละบทก็ได้ตามสะดวกเลย ไปสำรวจคำถามที่ว่า... การฟังแบบไหนกันนะ ที่เราจะเรียกว่าเป็นการ “ฟังแบบคอมแพเนียน”? สุขสันต์สุดสัปดาห์ล่วงหน้านะครับ ขอให้เป็นวันที่ดีของทุกคนครับ 🧡 #Siamstr

Replies (1)

แบบย่อ: ศิลปะของ “การฟังแบบคอมแพเนียน” วิสัยทัศน์ • เปลี่ยนบทสนทนาจากเสียงรบกวน ให้กลายเป็นเสียงดนตรีที่เชื่อมใจและเยียวยาได้ หัวใจของงาน • การฟังไม่ใช่แค่ใช้หู แต่มันคือการอยู่ตรงนั้นจริง ๆ ด้วยร่างกาย ลมหายใจ และสนามพลังที่ปลอดภัย เส้นทาง 6 บท 1. ฟังเกินกว่าการได้ยิน • ภาษากายและลมหายใจเป็นตัวเปิดสนามความไว้วางใจ (เก็บมือถือ หันกายหัวเข่าเข้าหา หายใจยาว) 2. ฟังให้ถึงหัวใจ • เลิกฟังเพื่อจะตอบ หันเป็นนักโบราณคดีทางอารมณ์ ที่ขุดเจอ ความรู้สึก และ ความต้องการ ใต้เรื่องเล่า 3. ฟังแบบไม่ตัดสิน • แยก การสังเกต ออกจาก การตีความ ลดเสียงผู้พิพากษาภายใน ฟังเพื่อปลดปล่อย ไม่ใช่จับผิด 4. Gentle Mirror • สะท้อนแบบถวายคืน ด้วยคำถามอ่อนโยน (“…ใช่ไหม / ถูกไหม”) คืนอำนาจให้เจ้าของเรื่อง เป้าหมายคือให้เขาได้ยินตัวเอง 5. โอบรับความเปราะบาง • เป็นภาชนะแข็งแรง ยืดหยุ่น” มีขอบเขตและเมตตา เหมือนบ้านเล็กที่ไฟอุ่นกลางพายุ 6. ฟังจนได้ยินตัวเองและโลก • จากคนหนึ่งสู่วงกว้าง สู่การได้ยินความเป็นมนุษย์ร่วมกัน และได้ยินเสียงภายในของตน ผลลัพธ์ • ความไว้วางใจลึกขึ้น ความขัดแย้งลดลง การเยียวยาเกิดกับทั้งผู้เล่าและผู้ฟัง ลงมือทันที • เก็บโทรศัพท์ >> หันกายเข้าหา >> หายใจยาว >> สะท้อนสั้น ๆ แบบไม่ตัดสิน สารแกนกลาง • เราสร้างสนามที่ยังเป็นมนุษย์ต่อกันได้ทีละบทสนทนา และผู้ได้รับการเยียวยาคนแรก อาจเป็นเราเอง