Thread

Zero-JS Hypermedia Browser

Relays: 5
Replies: 0
Generated: 16:26:30
"เงาเพื่อนรัก" image เช้าวันนี้ที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นฤดูหนาว ผมเดินช้าๆ อยู่กลางถนนเงียบๆ เสื้อกันหนาวซ้อนสองสามชั้นต้านลมเย็น แดดอ่อนส่องลงมาตรงๆ จนรู้สึกอุ่นนิดๆ พอเงยหน้าขึ้นจากพื้น ก็เห็นเพื่อนเก่าเดินขนานไปด้วยกัน... เงานั่นเอง เงายาวเหยียดออกไปข้างหน้าเหมือนคนคอยนำทาง แม้ไม่พูดสักคำ มันก็ตามติดทุกก้าวที่ผมขยับ ตอนยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ ผมรู้สึกแปลกๆ แนบอยู่ในอก ความรู้สึกนั้นไม่ได้มาจากเงาบนถนน ทว่าเงาในใจต่างหากที่ผมมองเห็นชัดขึ้น ผมเคยอ่านงานของ คาร์ล ยุง นักจิตวิทยาสายลึก เขาบอกว่าเรามีส่วนหนึ่งซ่อนอยู่ในตัว... เรียกส่วนนั้นว่า “เงา” มันคือส่วนที่เราไม่อยากมองตรงๆ ทั้งความกลัว ความอิจฉา ความโกรธ ความอาย รวมถึงศักยภาพบางอย่างที่เราไม่กล้าใช้ เพราะกลัวคนจะไม่รัก พอลองมองชีวิตตัวเองย้อนกลับไป เงาไม่เคยหายไปที่ไหน แค่เปลี่ยนรูปไปตามช่วงวัย ตอนเด็ก มันอาจเป็นเสียงกระซิบว่า “อย่าถาม เดี๋ยวครูดุ” ตอนโตกลายเป็นประโยค “อย่าลอง เดี๋ยวหน้าแตก” หรือกระซิบย้ำๆ ว่า “ยังไม่ดีพอหรอก อย่าออกไปยืนข้างหน้าเลย” หลายครั้งเราไม่ได้ยินเสียงมันชัดนัก ทว่าอาการของเราก็ดังออกมาแทน เช่น เราอาจหงุดหงิดง่าย พาลคนอื่น เกลียดคนบางแบบโดยไม่รู้เหตุผล ยุงบอกว่า ตอนนั้นเราไม่ได้แค่เกลียดเขาเท่านั้น เพราะเราอาจกำลังเกลียดเงาในตัวเราเองที่สะท้อนออกมาผ่านเขา ผมเริ่มมองเงาในใจเหมือน “เพื่อนที่กล้าเล่าเรื่องจริง” มากที่สุดคนหนึ่ง เพื่อนที่ไม่เกรงใจเราเลย คอยบอกตรงๆ ว่าแผลไหนยังไม่หาย ตรงไหนที่เรายังโกหกตัวเองอยู่ เวลาผมโกรธใครแรงๆ เพื่อนเงานี่แหละที่กระซิบเบาๆ ว่า “ลองดูดีๆ สิ เขาอาจทำในสิ่งที่นายเองก็เคยอยากทำแต่ไม่กล้า หรือเคยทำแล้วรู้สึกผิด” ฟังแล้วเจ็บ แต่ถ้าไม่ฟังเลย วงจรเดิมก็จะตามมา อีกมุมหนึ่ง เงาบนถนนวันนี้เตือนผมว่า เงาก่อตัวได้เพราะมีแสง ยิ่งแสงแรง เงายิ่งคม เ หมือนช่วงที่เราเริ่มตั้งใจเติบโต ชัดเจนกับคุณค่าบางอย่างในชีวิต เรากลับเห็นด้านมืดของตัวเองชัดขึ้น หลายคนเลยเข้าใจว่า “ยิ่งโต ยิ่งแย่” ความจริงแล้วเราเพียงแค่ “มองเห็นตัวเองมากกว่าเดิม” แสงในที่นี้อาจเป็นความรู้ใหม่ ประสบการณ์ที่สอนหนักๆ หรือคนรอบตัวที่กล้าตั้งคำถามกับเรา เมื่อแสงส่องเข้ามา เงาในใจก็มีรูปร่าง เราจึงเริ่มเห็นเส้นขอบของมันชัดขึ้น ระหว่างเดินกลางแดด ผมมองเงายาวบนถนน แล้วรู้สึกว่า เงายังมีหน้าที่อีกอย่างหนึ่ง คือทำตัวเหมือนเข็มทิศพาเรากลับบ้าน ทุกครั้งที่ผมใช้ชีวิตสวนทางกับหัวใจ เงาจะหนักขึ้นเป็นพิเศษ ก้าวเท้าลำบาก ทำงานที่ไม่เชื่อแม้แต่น้อย อยู่ในความสัมพันธ์ที่ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา หรือรับบทคนเก่งทั้งที่อยากขอให้ใครสักคนช่วยประคอง เงาในใจไม่เคยอยู่เฉย มันส่งสัญญาณผ่านความเหนื่อยประหลาดๆ ผ่านอารมณ์ที่เดือดง่าย ผ่านคำถามซ้ำซากว่า “นี่ใช่ชีวิตที่เราอยากอยู่จริง ๆ หรือเปล่า” ถ้าเราไม่หนีสายตาตัวเอง เงาเหล่านี้จะกลายเป็นเข็มทิศ ชี้ให้เห็นทิศทางที่ตรงกว่า อาจยังเดินไปไม่ได้ทันที แต่อย่างน้อยเรารู้แล้วว่า “บ้านอยู่ทางไหน” ในสายของยุง เป้าหมายหาใช่การลบเงาให้หายไปไม่ หากคือ “ทำความรู้จักและรับมันเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา” ฟังดูยาก... แต่ก็เริ่มจากเรื่องเล็กๆ ได้เลย เมื่อโกรธใครจนเกินเหตุ ลองถามตัวเองว่า ส่วนไหนในเขาที่เหมือนเรา เมื่ออิจฉาใครบางคน ลองมองดูดีๆ ว่า นั่นอาจเป็นด้านที่เราเองก็มีแววอยู่ แค่ยังไม่เคยอนุญาตให้มันออกมา เรายอมรับว่า “นี่ก็เป็นเราเหมือนกัน” หาใช่การยอมจำนนต่อเงา แล้วค่อยเลือกวิธีใช้พลังนั้นอย่างที่ไม่ทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง ความสบายใจอาจไม่ได้มาจากการหนีด้านมืด ทว่ามันเริ่มต้นจากเช้าวันธรรมดา ที่เรายืนมองเงาบนถนน แล้วยอมรับว่า ทั้งแสง ทั้งเงา ล้วนเป็นรูปร่างเดียวกันของคำว่า “ฉันเอง” นั่นแหละ #jakkdiary #Siamstr
2025-11-22 03:32:29 from 1 relay(s)
Login to reply