สมมติว่าคุณกู้เงิน 1 ล้านบาทเพื่อซื้อบ้าน ธนาคารบันทึกว่าคุณมีหนี้ 1 ล้านบาท + ดอกเบี้ย ธนาคารโอน 1 ล้านบาทไปยังบัญชีของผู้ขายบ้าน เงิน 1 ล้านนี้กลายเป็นเงินฝากของผู้ขาย ซึ่งเขาสามารถใช้จ่ายต่อได้ (เช่น ซื้อของ ลงทุน) ธนาคารอาจใช้เงินฝากจากลูกค้าคนอื่น + เงินทุนตัวเอง + กลไกการสร้างเงินในระบบ เพื่อให้การโอนนี้เกิดขึ้นได้ ธนาคารไม่ได้ "สร้างเงิน" จากอากาศแต่เขามีกลไกที่เรียกว่า การสร้างเงินในระบบบัญชี (เรียกว่า fractional reserve banking) ทำให้ดูเหมือนว่าเงินถูก "สร้าง" ขึ้นมา ธนาคารมีต้นทุนจริง 1.ต้นทุนดอกเบี้ย: ถ้าธนาคารกู้เงินจากที่อื่น เขาต้องจ่ายดอกเบี้ยเจ้าของเงิน 2.ต้นทุนการบริหาร: เช่น ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบเครดิตของผู้กู้ ค่าพนักงาน ค่าระบบคอมพิวเตอร์ 3.ความเสี่ยง: ถ้าลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารอาจสูญเงิน แต่เงินกู้ที่ปล่อยออกไป ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้เงินสดจริงๆ มันเป็น เงินในบัญชี (ตัวเลขในระบบดิจิทัล) ที่ธนาคารบันทึกว่าลูกค้ามีหนี้กับธนาคารเท่าไหร่ ดังนั้น "ต้นทุนการสร้างเงิน" ในแง่นี้จึงไม่สูงมาก เพราะไม่ได้พิมพ์ธนบัตรออกมา ประมาณนี้ครับ

Replies (2)

แต่..... จากข้อ 1-3 มันมีความตลกก็คือ ถ้าธนาคารมันล้มขึ้นมา แม้จะมีการผิดชำระเยอะๆ ไม่ได้เงินต้นและดอกเบี้ยคืน ก็ยังมีธนาคารอุ้มอีกอยู่ดี ส่วนคนรับเคราะห์ก็เราๆท่านๆนี้แหละครับ นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราโดนยาส้มไปแล้วถึงกลับไปมองแบบเดิมไม่ได้อีกเลย 😑