เนื้อหาที่ตื่นตากับหนังสือ Black swan ของ Taleb คือมุมมองที่ว่า การกระจายศูนย์นั้นช่วยป้องกันและทำให้คาดการณ์ Black swan ได้มากกว่าแบบรวมศูนย์
เพราะการกระจายศูนย์นั้นมีการแตกกระจายโหนดออก และส่วนมากมักไม่เกี่ยวข้องกัน เวลาล้มมันก็ล้มของมันเอง ไม่ได้ส่งผลกับโหนดอื่นๆ ทำให้เราเห็นถึงจุดอ่อนและได้เรียนรู้จากการล้มของโหนดตัวนั้น
แต่สำหรับการรวมศูนย์แล้วนั้น การล้มนั้นแถบจะเป็นเรื่องที่ยากและพบเจอไม่บ่อย อาจจะเป็นเพราะมีการควบรวมและดูแลป้องกันไอ้เจ้า ศูนย์รวมนั้นอย่างแน่นหนา หรือ มีใช้วิธีใดๆก็ตามเพื่อป้องกันหายนะแบบนั้น ทำให้เราไม่สามารถคาดการณ์ผลกระทบที่อาจจะเกิดจาก Black swan ได้เลย แล้วถ้าเกิดมันล้ม มันจะส่งผลกระทบต่อกันเป็นลูกโซ่อย่างใหญ่หลวง และ พังพินาศลงอย่างรวดเร็ว
เฉกเช่นเดียวกับระบบการเงินปัจจุบันที่ส่วนใหญ่มักดำเนินการและถูกควบคุมภายใต้ธนาคารกลาง และ มักไม่มีนโยบายเป็นของตัวเองอย่างแน่ชัด ทำให้ทำตามๆกันโดยไม่สนข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น มันจึงเป็นเรื่องหน้ากลัวที่ระบบการเงินนี้ ถ้ามันล่ม มันจะก่อให้เกิดหายนะอย่างใหญ่หลวงแก่โลกใบนี้
#siamstr
Login to reply
Replies (4)
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ๆ ในเร็ว ๆ นี้ก็เช่น การที่ AWS กับ Azure ล่ม แล้วหลาย ๆ บริการก็ใช้งานไม่ได้นั่นแหละ
จริงครับ single point of failure นี่ ควรคำนึงเป็นลำดับต้นๆเลย ในชีวิต กระจายความเสี่ยงออกไปให้หมด ยกเว้นเรื่องเดียวที่ผมทำไม่ได้ คือ กระจายเงินไปให้อย่างอื่นนอกจากบิตคอยน์ 55555
ผมมองว่าปกติเงินที่เราใช้มันก็ single point of failure อยู่แล้วนะ 555
5555555 อุ้ยยย ก็จริงครับ