อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงแต่ละปีที่คอยกระซวกไส้พวกเราประชาชนมันสูงกว่าที่เราเห็นมากมาย
ยังไงรายได้เราก็ไม่มีทางโตทันอัตราเงินเฟ้อ ถ้ายังอยู่ในตำแหน่งเดิม นอกจะว่าจะอัปเกรดสถานะ เลื่อนขั้นแบบก้าวกระโดด หรือย้ายที่ทำงาน
ดังนั้นเราจึงติดอยู่ในลูปสารชั่ว จุดที่เงินเดือนเพิ่มขึ้นทุกปี แต่จนลง purchasing power ลดลงทุกปี จากเคยพออยู่ได้กลายเป็นกระท่อนแทนขึ้นทุกวัน ไม่มีปัญหาสร้างทรัพสินย์ใดๆ นอกจากการกู้ และหนี้สินแม่งยังจับเราทรมานทั้งเป็น มันซ้ำเติมให้เราไม่สามารถสร้างตัว ยกระดับคุณภาพชีวิตได้อีกไปจนตาย นอกจากเราจะไขว่ขว้าโอกาสและประสบความสำเร็จกับอย่างอื่น เจริญพร
Login to reply
Replies (6)
ผมเดาว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างน้อยๆ 7-10% แต่ตั้งแต่ช่วงโควิดจนถึงทุกวันนี้ คงแตะ 2 หลักมาตลอด
ถ้าหลักการหน่อย คือ CPI ดัชนีชี้วัดผู้บริโภค คือตะกร้ารวมสินค้าที่รัฐเอามาคำนวณเงินเฟ้อ มันใช้การไม่ได้ ไม้บรรทัดที่ใช้วัดมันยืดหดได้ มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อะไรแพงเอาออก อะไรกระจอกเอาเข้า มันจึงไม่เคยสะท้อนภาระต้นทุนที่แท้จริงที่ประชาชนต้องแบกรับเพิ่มเลย สรุปง่ายๆ คือมีไว้ทำเหี้ยอะไรไม่รู้ครับ
โดยที่ให้เหตุผลเราว่า "สินค้าเหล่านี้มันควบคุมไม่ได้" ว๊อทเดอะฟุ่ยโยว! ทั้งๆ ที่สินค้าที่คุณเอาออกมันคือสินค้าจำเป็นที่เราไม่ซื้อก็ต้องซื้อ ไม่อยากใช้ก็ต้องใช้ คือต้นทุนชีวิตหลักของผู้คน เช่น เนื้อสัตว์และพลังงาน เนื้อวัว หมูแพง ก็เอาปลามาใส่แทน น้ำมันราคาพุ่งสูงไปไกลก็เอาออกแม่มเลย
ถ้าหลักการเป็นแบบนี้ แล้ว CPI มันจะสะท้อนเงินเฟ้อได้อย่างไรล่ะครับ รัฐและธปท. จะหาสูตรคำนวณทุกวิถีทางให้ตัวเลขมันต่ำที่สุด เพื่อความสบายใจของประชาชน ตัวเลขสูงๆ แล้วผู้คนจะใจสั่นกินไม่ได้นอนไม่หลับ มันไม่ต่างกับการบอก ซิ่งไปเลยๆ ข้างหน้าไม่มีเหวแน่นอน แต่จริงๆ มี แถมเหวลึกด้วย
ไม่ต้องฟังผมก็ได้ครับ ไปฟังของจริงจากปาก อดีตผู้ว่า ธปท. เลยดีกว่า
#Siamstr
แก้ข่าวนิด มีเพื่อนแจ้งมา ลุงกอบศักดิ์แกเป็นอดีตผู้บริหารแบงก์ชาตินะครับ ไม่ถึงขึ้นผู้ว่า
ทางแก้มีอย่างเดียวคือใช้อีโน เพราะอีโนลดกรดลดแน่นเฟ้อหรือเปล่าครับ
เมื่อก่อนชอบตามฟังข่าว macroeconomics มสก ตอนนี้ฟังสมนู๊กด่าข่าว macro มีสาระกว่า
argee.. โครตคูล~
เฟ้อมากคับ