จะมี Supply Shock ไหม ?! เหลือ #Bitcoin ไม่ถึง 6% ที่จะถูกขุดได้ในอนาคต 🔥👀
จากข้อมูลของ glassnode ตอนนี้... Supply ประมาณ 94.85% ของ Bitcoin ทั้งหมด ถูกขุดออกมาเรียบร้อย... หมายความว่าหากตลาดต้องการ Bitcoin เพิ่ม... ตอนนี้จะมี Supply เหลืออีกไม่ถึง 6% แล้วที่จะถูกขุดเข้ามาเพิ่มได้ในอนาคต ! 🤏
ปัจจุบัน เราขุด #BTC ขึ้นมาได้ราว 19.9 ล้านเหรียญ จาก 21 ล้านเหรียญ แล้วสหาย !!! ซึ่งเราจะต้องอยู่ในช่วง Supply ใหม่เกิดขึ้น "น้อยมาก ๆ ๆ ๆ !!!" แบบนี้ไปจนถึง "ปี 2140" โดยประมาณเลย !!! หรืออีกประมาณ 115 ปี !!! กว่าจะครบ 21 ล้านเหรียญ ตึงเปรี๊ยะ !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
พ่อมดคริปโต
npub1l8dv...g6c8
สวัสดีสหาย ! ข้าชื่อ ชับบี้ เจ้าของเพจ พ่อมดคริปโต แต่เนื่องจากตอนนี้อยู่ใน Nostr ก็จะออกแนวพ่อมดบิทคอยน์แทน55555 😂
จะมี Supply Shock ไหม ?! เหลือ #Bitcoin ไม่ถึง 6% ที่จะถูกขุดได้ในอนาคต 🔥👀
จากข้อมูลของ glassnode ตอนนี้... Supply ประมาณ 94.85% ของ Bitcoin ทั้งหมด ถูกขุดออกมาเรียบร้อย... หมายความว่าหากตลาดต้องการ Bitcoin เพิ่ม... ตอนนี้จะมี Supply เหลืออีกไม่ถึง 6% แล้วที่จะถูกขุดเข้ามาเพิ่มได้ในอนาคต ! 🤏
ปัจจุบัน เราขุด #BTC ขึ้นมาได้ราว 19.9 ล้านเหรียญ จาก 21 ล้านเหรียญ แล้วสหาย !!! ซึ่งเราจะต้องอยู่ในช่วง Supply ใหม่เกิดขึ้น "น้อยมาก ๆ ๆ ๆ !!!" แบบนี้ไปจนถึง "ปี 2140" โดยประมาณเลย !!! หรืออีกประมาณ 115 ปี !!! กว่าจะครบ 21 ล้านเหรียญ ตึงเปรี๊ยะ !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
Gen Alpha จะซื้อ #Bitcoin มากกว่า "ทองคำ" #BTC จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ทองจะเข้าถึงยาก 😲
💭 ความคิดเห็นจากคุณ Darius Moukhtarzadeh นักยุทธศาสตร์การวิจัยแห่งกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลยักษ์ใหญ่ระดับโลก 21Shares:
📌 Bitcoin จะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเด็กยุคนี้
เด็กยุคนี้จะเติบโตมากับโลกดิจิทัล และ Bitcoin จะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่เป็นเรื่องที่เติบโตมากับมันและได้ยินผู้คนพูดถึงมันตลอดการเติบโตเป็นเรื่องปกติ กลับกัน... สิ่งที่จับต้องได้และต้องใช้มือยื่นให้กัน เช่น เงินสด ในยุคที่ธุรกรรมทุกอย่างทำผ่านการโอนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่แบบนี้ จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยคุ้นชินและมีโอกาสสัมผัสได้ยากกว่า
📌 ทองคำจะกลายเป็นเรื่องเข้าถึงยาก
การต้องเดินไปเข้าร้านทองหรือมองหาคนขายที่ไว้ใจได้จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับเด็กยุคนี้ และการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจก่อนซื้อจะยิ่งแลดูซับซ้อนและมากขั้นตอน ในขณะที่การเข้าถึง Bitcoin จะอยู่ห่างแค่การเอานิ้วแตะหน้าจอไม่กี่ทีเท่านั้น
📌เติบโตมากับเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงเลย
เด็กยุคนี้เติบโตมาในยุคที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน แถมในช่วงตลอดการเติบโตนั้นใ.. ความไว้วางใจในสถาบันก็มีน้อยลงให้เห็นเรื่อย ๆ ในยุครุ่นพ่อรุ่นแม่ และการใช้ข้อมูลแบบอัลกอริทึมแลดูเป็นเรื่องปกติ สำหรับพวกเขา “ความไว้วางใจ” จะไม่ถูกมอบให้กับรัฐบาลหรือธนาคารโดยปริยาย แต่จะต้องสร้างขึ้นมาด้วยความโปร่งใส ซึ่ง Bitcoin ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สิ่งนี้ทุกประการ ไร้พรหมแดน เข้าถึงได้ทั่วโลก กระจายศูนย์ ตรวจสอบได้ตลอดเวลา
📌 Bitcoin จะอยู่ในวิถีชีวิต
เหมือน Gen Z ที่เติบโตมากับ Social Media เลย... Gen Alpha ก็เติบโตมากับการเห็น Bitcoin เป็นกระแสและ Pop Culture เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะจากแอพการเงิน อินฟลูเอนเซอร์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ เกม หรือแม้แต่เรื่องที่เพื่อน ๆ พูดคุย หรือเรื่องที่ถูกนำมายกตัวอย่างประกอบการสอนหรือถูกพูดถึงในโรงเรียน
📌 เติบโตมากับความสะดวกสบาย
ทุกอย่างเป็นดิจิทัล อะไรที่เป็นดิจิทัลก็จะแลดูเข้าถึงง่ายไปหมดสำหรับ Gen Alpha แต่ทองเป็นแท่งที่ต้องเดินไปหยิบจากในตู้นิรภัยเพื่อเคลื่อนย้ายมัน ทั้งหนัก ทั้งแข็ง อันนี้จะเริ่มเป็นเรื่องที่เด็กยุคนี้ไม่ค่อยเข้าใจ
📌 ถึงเวลาสุกงอมแล้ว
เหมือนสมัยทองคำใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองผ่านชั่วอายุคน จากเมื่อก่อนเส้นละไม่กี่บาท ถูกซื้อมาห้อยคอประดับเพื่อความสวยงาม จนกลายเป็นสิ่งที่มีค่ามากเงินกว่าเงินเดือนขั้นต่ำทั้งเดือนจะซื้อไหว ตอนนี้ทองคำมันเลยช่วงสุกงอมของมันแล้ว แต่ Bitcoin กำลังได้เวลาดี เพราะคนยุค Millennials พึ่งเริ่มจะรู้จักมัน มีผู้คนจำนวนน้อยที่ส่งต่อความรู้เรื่อง Bitcoin ไปยัง Gen Z ที่เริ่มทำความเข้าใจจนมันเริ่มกลายเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเกินจะเข้าถึง และ Gen Z ที่จำนวนมากขึ้นก็กำลังจะส่ง่อไปยัง Gen Alpha ที่กำลังจะมองมันเป็นเรื่องปกติโดยไม่ต้องรอใครมาโน้มน้าวด้วยซ้ำ
หลายประเด็นเราก็ไม่ทันได้คิดถึงจริง ๆ แฮะ... และหลายประเด็น... เราก็ไม่ทันได้สังเกตุแฮะ.. 🤔
#พ่อมดคริปโต #siamstr
แหล่งข้อมูล: Cointelegraph
Gen Alpha Will Buy Bitcoin Over Gold
Gen Alpha will grow up with Bitcoin as a cultural and financial native, making it their default store of value over traditional gold investments.
Pizza Hut และ KFC จะเปิดรับ #Bitcoin ในสาขาที่แอฟริกาใต้ !!! 🍕🍗
📝 ไม่รู้ข้อมูลจริงเท็จแค่ไหน... ไม่ได้ให้ปักใจเชื่อในทันทีที่อ่านนะสหาย เดี๋ยวช่วยแปะแหล่งข้อมูลที่เจอมาให้ จะได้ไปช่วยกัน Verify ต่อเนอะ !!!
เอาล่ะ... ข่าวคือว่า... เมื่อ Zapper ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินรายใหญ่ของแอฟริกาใต้ ได้เปิดให้มีการชำระเงินเป็น #BTC ผ่าน Lightning Network ได้... ⚡
สองแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดระดับโลก Pizza Hut และ KFC ก็เลยแจมด้วยเลย !!! โดยเปิดให้ลูกค้าชำระเงินเป็น Bitcoin ได้ผ่าน Zapper ในสาขาที่แอฟริกาใต้ !!! 🎉
หมายความว่าลูกค้าที่จะกิน Pizza Hut และ KFC ในสาขาที่แอฟริกาใต้... เตรียมจ่ายเป็น Bitcoin ได้เลย !!! แถมเป็นการจ่ายบน Lightning Network ที่รวดเร็วทันใดและค่าธรรมเนียมถูกจนเหมือนแทบไม่มีค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก !!! 🥳
แถมล่าสุดเครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรุ่น OG สัญชาติแอฟริกาใต้ อย่าง Wimpy ก็จะให้ลูกค้าจ่ายเงินเป็น Bitcoin ผ่าน Lightning Network ได้แล้วเหมือนกัน !!! แบรนด์ดังมากันยกใหญ่ !!! ที่แอฟริกาใต้เขาตื่นตัวเรื่องเปิดรับ Bitcoin กันสุด ๆ เลยเนอะ !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
ค่าความยากในการขุด #Bitcoin พุ่งขึ้นมหาศาล ! ตอนนี้เครือข่ายแข็งแกร่งสุด ๆ ! 🔥💪
พูดให้ง่ายที่สุด... ปกติเวลาขุด Bitcoin เครื่องขุดต้องแข่งกันพยายาม "สุ่มหาตัวเลขไปเรื่อย ๆ" จนกว่าจะเจอที่ตำกว่าตัวเลขเป้าหมาย ใครเจอก่อน คนนั้นชนะ !!! จะได้เป็นคนปิดบล็อกและรับ Bitcoin ที่เป็นรางวัลรวมถึงค่าธรรมเนียมในบล็อกทั้งหมดไป ⛏️
📌ค่าความยากในการขุด Bitcoin
(หรือที่เราเรียกกันว่าค่า Mining Difficuty)
👉 ค่าความยากสูง ➡️ ตัวเลขเป้าหมายต่ำ ➡️ จำนวนครั้งที่ต้องมานั่งสุ่มหาก็เลยเยอะขึ้น ➡️ สุ่มยากกว่าจะเจอ
👉 ค่าความยากต่ำ ➡️ ตัวเลขเป้าหมายสูง ➡️ จำนวนครั้งที่ต้องมานั่งสุ่มหาก็เลยน้อยลง ➡️ สุ่มง่ายขึ้น สุ่มไม่กี่ทีก็อาจจะเจอ
📌 Adjustment Algorithm:
ค่าความยากในการขุด Bitcoin มันจะมีการ "ปรับเปลี่ยนเรื่อย ๆ โดยอัตโนมัติ" ถ้านับแบบหยาบ ๆ ก็โดยเฉลี่ยก็จะปรับเปลี่ยนทุก 2,016 บล็อก (ประมาณทุก 2 สัปดาห์)
บางทีมันยากไป ตั้งนานกว่าจะมีคนมาปิดบล็อกได้ ก็จะปรับให้ง่ายขึ้น บางทีมันง่ายไป บล็อกถูกปิดเร็วเกิน ก็จะปรับให้ยากขึ้น จุดประสงค์ที่ต้องปรับเปลี่ยนเรื่อย ๆ ก็เพื่อทำให้แต่ละบล็อกมีการปิดโดยเฉลี่ยทุกประมาณ 10 นาที
การที่ค่าความยากมันพุ่งสูงปรี๊ดในปัจจุบัน ก็หมายถึงเครื่องขุดจะสุ่มเจอตัวเลขและปิดบล็อกสำเร็จกันได้ยากขึ้นกว่าเมื่อก่อน !!! 🏃➡️
ที่มันปรับขึ้นมาโหดขนาดนี้ ก็เพราะมีการปิดบล็อกเร็วกว่า 10 นาที โดยปกติจะเป็นเพราะว่ามีกำลังขุด (hashrate) เข้ามาในเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น !!! ซึ่งอาจเป็นเพราะคนขุดเดิมมีการอัพเกรดอุปกรณ์เพิ่มกำลังขุดกันก็ดี หรืออาจเพราะมีคนขุดใหม่ ๆ เข้ามาช่วยกันขุดในตลาดเพิ่มขึ้นก็ได้ !!! 📊
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็ตาม จะหน้าเก่าอัพเกรดหรือหน้าใหม่เข้ามาขุดเพิ่มก็ช่าง มันให้ผลไปในทางเดียวกันก็คือ... เครือข่ายปลอดภัยและแข็งแกร่งขึ้น !!! 💻
เพราะจะมีกำลังคอมพิวเตอร์มาช่วยกันปกป้องเครือข่ายมากขึ้น !!! ใครคิดจะโจมตีเครือข่ายหรือแก้ไขธุรกรรมย้อนหลัง ก็จะต้องครอบครองกำลังขุดมาสู้มากขึ้น !!! 🛡️
ถึงแม้เอาจริงการจะทำแบบนั้นมันก็แทบเป็นไปไม่ได้มาตั้งนานแล้วก็ตาม... หรือต่อให้เป็นไปได้มันก็ไม่ได้คุ้มค่าเทียบเท่าผลกระทบที่มันทำได้เลย คือมันไม่ใช่ทำสำเร็จแล้วจะยึดครองเครือข่ายได้ ทำแทบตายผลลัพธ์ที่ได้มันแค่ไม่กี่อย่างเอง55555 😅
แต่ตอนนี้มันยิ่งยากและใช้ต้นทุนมากขึ้นไปอีก !!! นี่แหละความแข็งแกร่งของเครือข่าย Bitcoin ตอนนี้ยังไงล่ะสหาย !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#BTC #พ่อมดคริปโต #siamstr
Charlie Shrem เอาข้าวของเกี่ยวกับ #Bitcoin ยุคแรกเริ่มมาเปิดประมูลกว่า 12 ชิ้น ! 🔨
.
Charlie Shrem คือผู้ก่อตั้งร่วมของ Bitcoin Foundation และอดีต CEO ของ BitInstant ซึ่งเคยเป็นตลาดแลกเปลี่ยน Bitcoin ที่นิยมมาก เพราะช่วยให้ลูกค้าสามาถซื้อ #BTC ผ่านร้านสะดวกซื้อ กว่า "7 แสนแห่ง" รวมถึง Walmart, Walgreens, และ Duane Reade อีกด้วย ✍️
.
เขาเคยต้องโทษขัง โดยยอมรับสารภาพผิดในข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับตลาดมืด Silk Road ⚖️
.
และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีหลังถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำกลาง... เขาก็เอาพวกข้าวของที่เกี่ยวข้องกับคดีนั่นแหละ... มาเปิดประมูลเลย !!! 🎯
.
แต่ไม่ใช่แค่นั้น... เขายังเอาจะเปิดประมูลพวกข้าวของที่เกี่ยวข้องกับวันวานแสนหวาน ที่เขาได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับ Bitcoin ในยุคแรกเริ่มช่วงแรก ๆ อีกด้วย โดยเป็นพวกของกระจุกกระจิก และจะเปิดประมูลบนตลาด Scarce City นั่นเอง 🎉
Scarce City คือตลาดซื้อขายสินค้าเกี่ยวกับ Bitcoin และจ่ายกันด้วย Bitcoin แถมชื่อตลาดก็เท่มากสหาย... เป็นการเล่นคำ ระหว่างคำว่า "ขาดแคลน/หายาก" (Scarce) และ "เมือง" (City) และยังอ่านรวมกันได้เป็นคำว่า Scarcity หรือก็คือคุณสมบัติที่มีจำกัด 21 ล้านเหรียญ ผลิตยาก (ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าขุด) แถมมี Stock to Flow ที่ดีและกลไก Halving อีกต่างหาก 🛍️
ทั้งของที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ในยุคแรกเริ่ม และข้าวของที่เกี่ยวกับคดี Silk Road รวมกันแล้วเขาจะเปิดประมูลกว่า 12 ชิ้น !!! 🙌
ในนั้นมีบันทึกที่เขาจดไว้ระหว่างจำคุกช่วงปี 2014 ถึง 2015 อยู่ด้วย จะเอามาประมูลเช่นกัน มีแหวน BTC และยังมี Bitcoin Magazine ฉบับแรกที่เผยแพร่ตอนเดือนพฤษภาคม 2022 ด้วยนะ !!! 🥳
"สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่ข้าวของของผมเท่านั้น แต่เป็นทั้งรอยแผลและประกายไฟจากวันแรก ๆ ของ Bitcoin และเป็นเปลวเพลิงแรกเริ่มของมัน" กล่าวโดย Shrem 🗣️
ทาง Ulbricht ที่โดนจำคุกตลอดชีพจากคดี Silk Road หลังได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็จะเอาข้าวของที่เกี่ยวกับการโดนจับและเข้าคุกของเขามาประมูลบน Scarce City เช่นกัน มูลค่าน่าจะราว $1.8M (57.13 ล้านบาท !!!) 🤔
ความจริงเว็บ Silk Road ก็ปิดไปนานแล้วแหละสหาย... แต่ก็ยังคงมีคนโดนคดีย้อนหลังที่เกี่ยวข้องกับเว็บนี้อยู่เรื่อย ๆ อะนะ โดยถ้าย้อนกลับไป ข้อหาที่ Shrem โดนก็เพราะขาย Bitcoin มูลค่า เกิน $1M (ทะลุ 31.74 ล้านบาท) ให้กับผู้ใช้งานเว็บ Silk Road เหล่าสหายข้าก็อย่าไปหาทำอะไรให้ตัวเองติดคุกกันล่ะ... อะไรดีไม่ดี แยกแยะกันได้เนอะ แต่ถ้าดันติดไปแล้ว ลองเอาของมาประมู--- อะแค้ก !!! หยอกเล่น !!! บันเทิงงง ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
เปิดรับ #Bitcoin แล้ว !!! Wimpy เครือร้านฟาสต์ฟู้ดรุ่น OG... มีสาขากว่า กว่า 450 แห่ง ล่าสุดได้เปิดให้ชำระเป็น #BTC ผ่าน Lightning Network ได้แล้ว !!! 🥳
Wimpy เป็นเครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสัญชาติแอฟริกาใต้ ขายพวกของกินแนวฟาส์ฟู้ด ด่วนทันใจ สไตล์อเมริกัน เช่น เบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอด รวมถึงเครื่องดื่มอัดลม มีทั้งร้านอาหารที่เป็นเครือแฟรนไชส์ในหลายประเทศ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับหนังสือการ์ตูนชุด Diary of a Wimpy Kid 🍔
และเพื่อเป็นอีกช่องทางการชำระเงินที่รวดเร็วทันใด Wimpy ได้เปิดรับชำระเงินเป็น BTC ผ่านระบบ Lightning Network ในร้านค้ากว่า 450 สาขาทั่วประเทศ !!! ใครที่ชอบ Zap มียิ้มแปร้นกันแล้วงานนี้ !!! ⚡
ล่าสุดสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Pizza Hut และ KFC ก็เห็นมีข่าวจะเปิดรับ Bitcoin ผ่านระบบ Lightning Network แล้วเหมือนกัน !!! หลายร้านดัง ๆ ยอดฮิตเริ่มหันมากันเยอะขึ้นแล้วนะสหาย !!! แต่ก็เข้าใจได้แหละ... ก็ Lightning Network มันสะดวกและรวดเร็วทันทีทันใด โอนปรี๊ดทันใจดีจริง ๆ ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
ส่ง QR Code เก็บเงิน #Bitcoin บน Lightning ผ่านดาวเทียมบนอวกาศครั้งแรก !!! 🛰️
อีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จในการทำธุรกรรม #Bitcoin โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต !!! 🌐
วันที่ 9 กันยายน บัญชี @Printer_Gobrrr บน X (ชื่อเก่า: Twitter) ได้โพสต์ว่าตัวเองพึ่งส่ง Invoice ของ Bitcoin Lightning ผ่านดาวเทียมสื่อสารค้างฟ้า (QO-100 / Es’hail-2) ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก !!! 🌍
Invoice ก็คือใบเรียกเก็บเงินน่ะสหาย ถ้าใครเคยใช้กระเป๋า Lightning Network อย่างเช่น Wallet of Satoshi จะรู้กันดี ว่าเราสามารถส่งใบเรียกเก็บเงินแบบนี้ไปให้ปลายทาง เพื่อให้เขาชำระเงินเป็น #BTC ตามจำนวนที่ระบุในใบเสร็จได้ ✍️
การทำธุรกรรมผ่าน Lightning Network จะเป็นแบบ Off-chain (ซึ่งจะถูกมัดรวมกันไปบันทึกลง On-chain ทีเดียวภายหลัง) และการโอน Bitcoin ผ่าน Lightning ให้กันแบบนี้เราจะเรียกว่าการ Zap ⚡
ปกติที่ทุกคนส่ง Invoice กัน น่าจะเป็นในรูปแบบ QR Code เนอะสหาย ? พวกเราน่าจะคุ้นชินกันแบบนี้เป็นพิเศษ ซึ่งในรอบนี้ก็ใช่... เป็นการส่งใบแจ้งหนี้ Bitcoin Lightning ในรูปแบบ QR Code ผ่านดาวเทียมสำเร็จเป็นครั้งแรกเลย 📝
แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่อะไรใหม่หรอกสหาย เพราะการโอน Bitcoin บนอวกาศก็เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ใครที่ชอบติดตามข่าวแนวนี้ก็คงรู้จักดาวเทียม Blockstream กันดี สรุปแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แค่ในสถานการณ์ที่อินเทอร์เน็ตยังใช้งานได้ดีเป็นปกติ ก็คงไม่ค่อยมีใครสรรหาจะทำวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องมีความรู้ทางเทคนิคในการติดตั้งและใช้งาน และต้นทุนของอุปกรณ์ค่อนข้างสูง 💰
แต่ยังไงทุกความสำเร็จในภาคปฏิบัติ เวลาเราเห็นว่า Bitcoin มันไร้พรหมแดนขนาดไหน แถมจะอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตเสมอไปแบบนี้ มันก็นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่หลายคนอยากมองเห็นเนอะ เดี๋ยวแปะแหล่งข้อมูลให้นะสหาย จะได้ไปช่วยกัน Verify ด้วย ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
อันนี้พูดกันโดยภาพรวมทั่วโลก...
ไม่ได้เจาะจงประเทศไหนทั้งสิ้น
เก็ตเนอะ ? ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#Bitcoin #BTC #พ่อมดคริปโต #siamstr
อุตส่าห์ได้ 371,000 #BTC ตอนราคาไม่ถึง $5,000 แต่โดนยึดหมดตูดเพราะหาทำเกิน ! 😲
สหาย... วันนี้ข้าจะพามารู้จักกับ Michael Mancil Brown ชายชาวเทนเนสซีผู้บังเอิญได้ครอบครองทรัพย์สมบัติมหาศาล... และสุดท้ายก็สูญเสียทุกสิ่งไป... 😭
ในปี 2009 ขณะที่ #Bitcoin ยังอยู่ในช่วงแรกเริ่มเตาะแตะ ชายผู้นี้ได้ตัดสินใจบางอย่างที่ยังคงตามหลอกหลอนเขาไปอีกหลายปี 👻
ในเวลานั้น Bitcoin แทบจะไม่มีราคา คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ แต่พ่อหนุ่มคนนี้มองเห็นศักยภาพของมัน เลยเลือกจะตัดสินใจซื้อมาก้อนใหญ่ !!! 🤑
เขาซื้อมันด้วยเงินราว $5,000 เพื่อแลกกับ 371,000 BTC !!! OMGGG!!! ถ้าเป็นทุกวันนี้มันจะมีมูลค่าเกือบ 1.35 ล้านล้านบาทไทย (อ่านไม่ผิด... ล้านสองรอบ !!!) ตึงเปรี๊ยะ !!! 💰
ด้วยจำนวนมหาศาลขนาดนั้น... ทำให้เขาได้กลายเป็น "ผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่อันดับ 7 ของโลก" ณ เวลานั้นเลยนะสหาย !!! ของแทร่ !!! 🏆
แต่เรื่องราวมันก็จบไม่สวยเลย... เพราะในปี 2012 ไอหนุ่มคนนี้มันดัน "ทะลึ่งบ้อง !!!" ดันไปแอบอ้างว่าตัวเองได้แฮ็คคอมพิวเตอร์ของ PWC บริษัทบัญชีระดับโลกของนักการเมืองอย่าง Mitt Romney (ชื่อเต็ม: PricewaterhouseCoopers) 💻
พี่แกมีการไปเรียกค่าปิดปากด้วย !!! โดยขอให้จ่ายเป็น Bitcoin มูลค่า 30 กว่าล้านบาทไทย ถ้าไม่ให้จะเปิดเผยข้อมูลการคืนภาษีของนักการเมืองคนนั้นซะเลย !!! 📂
ความพีคคือ... มันไม่ได้แฮ็คจริง !!! บลัฟล้วน ๆ !!! ช่วงนั้นกระแสเลือกตั้งกำลังร้อนแรง พี่แกเลยไปตีเนียนอ้างว่าแฮ็คคอมนักการเมืองเฉย... ตัวจริงมันนั่งอยู่บ้าน ไม่ได้แฮ็คอะไรทั้งนั้น หาทำฉิบหาย !!! โวะ !!! 🤣
FBI ไม่พอใจกับพฤติกรรมพยายามรีดไถแบบนี้... ในปี 2013 พ่อหนุ่มจอมหาทำผู้นี้ก็เลยถูกจับกุมและถูกตัดสินจำคุก 4 ปีในข้อหาฉ้อโกงทางโทรเลขและกรรโชกทรัพย์ ผ่าม !!! 🧑⚖️
คอมพิวเตอร์ของเขาโดน FBI ยึดไป... และเครื่องนั้นแหละที่มี Private Key ของ 371,000 BTC อยู่ข้างใน !!! ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเอาคืนมาได้ไหม... แต่เจ้าตัวอ้างว่า "จำไม่ได้เลยเพ่..." ซึ่งเอาจริงก็แอบเชื่อนะสหาย... ยุคนั้นจะมีสักกี่คนที่จด Private Key และรักษาอย่างดีมาจนถึงทุกวันนี้กันบ้างฟระ ? 😅
เอาจริงในปัจจุบันก็มี Bitcoin ที่สูญหายจากการจำรหัสไม่ได้ ไม่ก็อุปกรณ์ที่เก็บ Private Key ไว้สูญหาย ตกประมาณ 3-4 ล้าน BTC เลยนะสหาย... และราว 10% จากทั้งหมดนั้นก็คงหนีไม่พ้นของพ่อหนุ่ม Brown คนนี้แหละ !!! 😫
นี่จึงนับเป็น "หมายจับครั้งแรกของโลก" ที่มีการ "ยึด Bitcoin" ซึ่งปฏิบัติงานโดยหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ นั่นเอง !!! และนี่ก็เป็นวัน "ครบรอบ 13 ปี" ของหมายจับที่มีการยึด Bitcoin ครั้งแรกของโลก !!! โดยหมายจับและการยึดนี้เกิดขึ้นในวันที่ 14 ก.ย. 2012 (วันนี้ เดือนนี้ เมื่อ 13 ปีก่อน) 🗓️
อ่านแล้วก็อย่าลืมนำไปเป็นเครื่องเตือนใจ รักษา Private Key กันด้วยล่ะ แล้วก็อย่าไปหาทำอะไรผิดกฎหมายแบบนี้กันเด้อ ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
ส่ง #Bitcoin ไปดาวอังคารได้ ใน 3 นาที !!! 🪐
เพียงใช้เทคโนโลยี NASA หรือ Starlink ! 🛰️
เฮ้ย สหาย ! ดูเหมือนว่าจะมีวิธีส่ง #BTC จากโลกไปยังดาวอังคารได้ภายในเวลาเพียง 3 นาที 😲
อ่านไม่ผิด ! เรื่องจริง ! แถมยังส่งกลับจากดาวอังคารมาโลกได้ด้วยเหมือนกัน !!! แต่เป็นในทางทฤษฎีนะ เพราะยังไม่เคยเกิดภาคปฏิบัติขึ้นจริง 🌍
ปลายเดือนที่แล้ว ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี Jose E. Puente และเพื่อนร่วมงานของเขา Carlos Puente ได้เผยแพร่ White Paper ซึ่งมีข้อมูลของระบบ Proof-of-Transit Timestamping (PoTT) 📜
ถ้าถามว่ามันคืออะไร ? เอ่อ... มันเป็นแนวคิดที่ทางสำนักข่าว Cointelegraph ได้รับแจ้งมาว่าเป็นเหมือนจิ๊กซอวทางเทคโนโลยีอีกตัวที่ขาดหายไป แถมเป็นชิ้นส่วนที่จำเป็นต่อการทำให้ Bitcoin ส่งถึงกันระหว่างดาวเคราะห์ได้อีกด้วย !!! เอาจริงเดะ ?! 🚀
แนวคิดดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าเมื่อผู้ใช้ Bitcoin ต้องการทำธุรกรรมขึ้นไปยังดาวอังคารในอนาคต ธุรกรรมดังกล่าวอาจส่งจากผู้ใช้ผ่านสถานีต่าง ๆ เช่น เสาอากาศภาคพื้นดิน ดาวเทียม หรือแม้แต่การส่งสัญญาณรอบดวงจันทร์ 🌕
เจ้าระบบ PoTT ที่ว่านี้... จะทำหน้าที่เป็น "เลเยอร์รับข้อมูล" บนเครือข่าย Bitcoin และ Lightning Network โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีออปติคอลลิงก์ของ NASA หรือดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk ก็ได้ ! 📡
การโอน Bitcoin ด้วยวิธีนี้... จะทำแบบ On-chain ปกติ หรือทำผ่าน Lightning Network ก็ได้ด้วยเช่นกัน !!! โดยหากเป็น On-chain ก็จะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีต่อบล็อก บวกกับความล่าช้าของสัญญาณ แต่ถ้าเป็น Lightning Network อาจโอนถึงปลายทางบนดาวอังคารได้รวดเร็วภายใน 3 นาที !!! หรืออย่างแย่ที่สุดก็อาจต้องใช้เวลายาวนานถึงประมาณ 22 นาที ในบางกรณี ⚡
เจ้าของ White Paper ดังกล่าวยังพูดครอบคลุมไปถึงปัญหา "ไฟดับยาวนานสองสัปดาห์บนดาวอังคาร" ซึ่งเป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นทุก ๆ ราว 26 เดือน โดยระบุว่าเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการ “ยิงสัญญาณไปผ่านดาวเทียมแบบถ่ายทอดสัญญาณรอบดวงอาทิตย์” เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไฟดับได้ เฮ้ย ! คิดเผื่อไปถึงไหน ! ไปใหญ่ไปโตแล้ว ! ☀️
เจ้าตัวยังย้ำอีกว่า... ความจริงระบบ PoTT มันพร้อมให้ทดสอบได้เลยตั้งแต่วันนี้ !!! สรุปเราแค่ต้องหาสักคนหรือสักอย่างไปรอรับมันแหละ 🌐
“เทคโนโลยีนี้พร้อมแล้ว ทันทีที่มีการเชื่อมต่อระหว่างโลกและดาวอังคารที่เสถียรเมื่อไร ระบบ PoTT ก็จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ ทำให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินแรกที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนดาวเคราะห์ต่าง ๆ” - Carlos Puente
ย้ำอีกทีว่าทั้งหมดเป็นเพียงภาคทฤษฎี ยังไม่มีใครทดลองปฏิบัติ แต่ไม่ต้องรอผลพิสูจน์จากเรื่องนี้ก็ได้... เพราะความจริง... เราสามารถส่ง Bitcoin ผ่านดาวเทียมที่ลอยอยู่บนอวกาศกันได้นานแล้วนะ นั่นก็คือดาวเทียม Blockstream ซึ่งข้าได้เคยเขียนโพสต์เอาไว้แล้ว ใครที่ยังไม่ได้อ่าน เดี๋ยวจะแปะวาร์ปให้ในคอมเมนต์นะ ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
ยิ่งนับวัน การจะครอบครองสัก 1 #BTC
ยิ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ 👐💎
และหากยิ่งในอนาคตมี Demand มากขึ้น (ตามสมมุติฐาน) ในขณะที่ Supply เรารู้อยู่แล้วว่านับวันมีแต่จะผลิตใหม่ได้ลดลง ก็ยิ่งไม่แปลกที่เราอาจจะต้องใช้ Productivity และเวลาในชีวิตเรามากขึ้นไปอีกในการจะแลกมา เพราะมัน "ขาดแคลน" ขึ้นทุกวัน
#Bitcoin คือนวัตกรรมประเภทนั้น มันคือประมาณ 0.1% ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกัน ✅
🎯 ดังนั้น หากสหายของข้าผู้ใด รู้ตัวว่ามิใช่ผู้สามารถหาเงินล้านได้โดยง่าย ในขณะที่ก็ดันมีความฝันอยากจะเก็บให้ได้สัก 1 Bitcoin อยู่เช่นกัน วิธีที่ข้าแนะนำคงหนีไม่พ้นการค่อย ๆ Stack Sats เก็บหอมรอมริบเศษของ BTC ไปเรื่อย ๆ สักวันก็จะถึงฝั่งฝันเอง
✍ และแน่นอน... อย่าลืมบริหารกระแสเงินสดในชีวิตประจำวันให้ดี เพราะราคาของ BTC ขึ้นชื่อเรื่องความผันผวนระยะสั้น ต่อให้จะไม่มองเทียบเงิน Fiat ก็ไม่ควรไป All-in เพราะสภาพคล่องในชีวิตจริงก็สำคัญต่อการไปถึงเป้าหมายของเราเช่นกัน
📝 ถ้าใครไม่ได้มีเป้าหมายอะไรแบบนั้นก็ไม่ว่ากัน แต่ใครที่ตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะต้องมีให้ได้ ข้าคงขอแนะนำวิธีนี้ที่สุด ข้าคิดว่าเหมาะสำหรับคนทั่วไปที่เงินล้านไม่ได้คิดจะหาก็หาได้ง่ายดายขนาดนั้น
📌 แต่อย่าเข้าใจผิดนะสหาย !!! การที่นับวันยิ่ง "ขาดแคลน" หรือนับวันยิ่งยากจะครอบครองให้ครบ 1 BTC ได้ ไม่ได้หมายความว่า BTC จะเข้าถึงยากขึ้นสำหรับคนทั่วไปแม้แต่น้อยเลย ทุกคนยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายดายเหมือนเดิม เพราะ Bitcoin มีคุณสมบัติที่เรียกว่า "Divisability" ความสามารถในการแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยได้
👉 โดย 1 Bitcoin สามารถแบ่งได้เป็น "ร้อยล้าน Satoshi" (ทศนิยม 8 ตำแหน่ง) เลยทีเดียว ยิ่งถ้าใช้งานบน Lightning Network จะยิ่งแบ่งได้เยอะกว่าปกติมากขึ้นไปอีก ของแทร่ !!!
ดังนั้น แม้ในอนาคตเราอาจยิ่งขาดแคลนและหาครอบครองจนครบ 1 BTC ได้ยากขึ้น แต่นวัตกรรมนี้จะยัง "เหลือใช้" เพียงพอสำหรับทุกคนบนโลกอย่างแน่นอน พูดแล้วก็ขอตัวไปสร้าง Productivity เพื่อ Stack Sats เพิ่มก่อนนะสหาย ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #iPhone17 #siamstr
เชื่อไหมสหาย ? ข้าเคยโพสต์ภาพนี้เมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นฝั่ง "เงินสด 10 ล้านบาท" ชนะขาดลอย !!! 😆
แต่ตัดภาพมาดูวันนี้สิ... อย่าว่าแต่ในอีก 5 ปีเลย จากวันนั้นที่โพสต์ยังผ่านไปไม่ทันถึง 2 ปี ราคา 5 #BTC ตอนนี้ทะลุเกิน 17.8 ล้านบาทแล้ว !!! 🚀
ไม่รู้ว่า #Bitcoin มันโตไว... หรือมูลค่าของเงินสดมันหดตัวเร็วกว่าที่คิดกันแน่... 😅
#พ่อมดคริปโต #siamstr
ไม่สน... จะเทียบ !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#Bitcoin #BTC #iPhone17 #พ่อมดคริปโต #siamstr
สหาย... เราไม่จำเป็นต้องมีทีเดียว
ให้ครบเต็ม 1 #Bitcoin ก็ได้นะ 🥰
1 #BTC = 100 ล้าน Satoshi หรือ Sat
หมายความว่า 1 Bitcoin มีทศนิยมได้
สูงสุดถึง "8 ตำแหน่ง" แต่ยังไม่หมด...
บนเทคโนโลยี Off-chain อย่างเช่น
Lightning Network มีได้มากกว่านั้น
โดย 1 Satoshi ยังแบ่งย่อยลงไปได้อีก
ถึง "4 ทศนิยม" เรียกว่า "millisatoshi"
เรียกย่อ ๆ ว่าหน่วย "msat" ก็ได้นะ
โดย 1 Sat แบ่งเป็น 1,000 msat ✍️
โอ้... ตึงเปรี๊ยะ !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
Thanks to the @Angor Pitch Contest, even though we're not the winner, we're really proud to be there, spreading how our game can impact the world and fix how people will learn about #Bitcoin! 🎉
What impresses me the most? It's the fact that this could be the first time the board game "Age of Bitcoin" is presented to international Bitcoiners in person. Many people come to us right after the pitch with ambition and interest to learn more about our project. That's gifts! Thank you, everyone. You're all so sweet. ❤
Every feedback, every mind opened to try the game, and every contact we've exchanged, all are the tresures that really means a lot for us. 😊
Surely we will go further, so let's see how bigger we could build it up! Mates, I want your supports to reach out to people interested in Bitcoin worldwide! Let's serve them the orange pills sugar-coated with fun and laughter. That's the "Age of Bitcoin!" 🔥🎯
Big thanks to BLC Chiang Mai and prof. Piriya. You're the really big supporter for us.
#AgeofBitcoin #BTC #siamstr
ครบรอบ 11 ปี เปิดตัว Opendime หรือ "#Bitcoin อัดแท่ง" ที่ไม่ต้องง้ออินเทอร์เน็ต !!! 🍢🪙
เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) ถือเป็นวันครบรอบ 11 ปี พอดิบพอดี ของอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เราสามารถส่ง #BTC หากันได้ นำไปใช้จ่ายได้ โดยอาจจะไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ต !!! เหมือนยื่นเงินสดให้กันมือต่อมือเลย !!! 👏
โดยในปี 2014 ได้มีการเปิดตัว Opendime หรือที่มักรู้จักและถูกเรียกว่า "Bitcoin Stick" มากกว่า เพราะมันเป็น "แท่ง USB" ที่บรรจุ Private Key สำหรับเข้าถึง Bitcoin บนบล็อกเชนเอาไว้นั่นเอง !!! 🔌
Private Key จะถูกสร้างในอุปกรณ์ Opendime นั่นแหละ และมันจะไม่โชว์ให้ใครเห็นด้วย !!! ทำให้ค่อนข้างหายห่วงเรื่องคีย์รั่วไหล (ถ้าไม่ไปทำอะไรพิเรนจนเปิดช่องโหว่ได้อะนะ...)
ไม่โชว์ Private Key แต่มันจะโชว์แค่ตัว Public Key หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือโชว์ "เลขกระเป๋า" สำหรับให้โอน Bitcoin เข้าไปเก็บในตัวมันเท่านั้นเอง (อันนี้เปรียบเทียบให้เห็นภาพเฉย ๆ นะ) 🔒
พูดไปคงพอเห็นภาพกันเนอะ... แต่ความจริง Bitcoin ที่โอนไปก็เก็บอยู่บนบล็อกเชนนั่นแหละ คือโอนไปยัง Public Key ที่เป็นเลขกระเป๋าที่เชื่อมโยงมาจาก Private Key ที่ตัวอุปกรณ์มันซ่อนไว้อีกที ความจริงไม่ได้มี Bitcoin วิ่งตรงเข้าไปในแท่งหรอกนะ55555 🤣
แล้วเวลาส่ง Bitcoin ให้กัน ส่งยังไง ? ก็ส่งมันทั้งแท่งนั่นแหละ !!! ยื่นแท่งให้กันเหมือนยื่นเงินสดเลย5555555 💵
การยื่นแท่ง Opendime ให้กัน ก็เหมือนการยื่น Private Key ให้เจ้าของคนใหม่ เพื่อให้เขาสามารถเข้าถึงและมีสิทธิ์ในการควบคุม Bitcoin จำนวนนั้นได้นั่นแหละสหาย 💰
คนที่รับต่อไปก็สามารถตรวจสอบได้ว่า "มันโดนเปิดไปแล้วหรือยัง ?" โดยการไขฝาออกแล้วแกะแท่งซีลด้านในออกมาได้เลย ถ้าซีลมันโดนเปิดไปแล้วก็แสดงว่าแท่งนั้นมีคนรู้ Private Key ไปแล้วเรียบร้อย ไม่ควรรับ !!! 👀
นอกจากตรวจสอบว่า Private Key ยังปลอดภัยอยู่ภายใต้แท่งซีลด้านในแล้ว ยังสามารถตรวจบนเครือข่ายบล็อกเชนได้ด้วยว่า BTC ยังอยู่ใน Public Key ของตัว Opendime หรือเปล่า (โดยหากใครมีข้อมูลบล็อกเชนเป็นปัจจุบันอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องง้ออินเทอร์เน็ตในการตรวจสอบด้วย) ✍️
ไว้หากสถานการณ์ปกติ สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ อยากจะงัดเอา Bitcoin ด้านในเคลื่อนย้ายแบบ On-chain ภายหลังก็แล้วแต่เลย หรือต่อให้ไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ได้แหละ ก็ส่งต่อแบบ Off-chain กันไปเรื่อย ๆ หรือถ้าอยาก On-chain จริง ๆ ก็ต้องอาศัยอุปกรณ์อื่น ๆ ช่วยเพิ่มอีก (เคยทำไว้เป็นซีรีส์ เดี๋ยวเอามาแปะให้อ่านใต้โพสต์นะ) 📝
และสำหรับโพส์นี้ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ ขอย้อนหลังสุขสันต์วันครบรอบ 11 ปีกับการเปิดตัว Bitcoin อัดแท่ง อย่าง Opendime !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstrให้บัตร NFC #Bitcoin แทนซองงานแต่ง ! ❤
เอาไปแตะ Zap Lightning ได้เลย เท่มะ ? 🔥
สหาย... วันนี้ข้าขอลงย้อนหลังหน่อย ความจริงงานแต่งที่พูดถึงนี้เกิดขึ้นเมื่อนานแล้ว แต่ก็อยากแชร์สิ่งนี้กับทุกคน ❤
พอดีตอนนั้นตัวข้าและเหล่าแกงค์ได้บุกไปหาสมาชิกในทีม ที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าว !!! ขนไปกันทั้งโขยง ไม่ว่าจะเป็นท่านพี่ @BitToon (เจ้าของไอเดีย) และคนอื่น ๆ ในทีม ขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยเด้อ !!! 🎉
พวกข้าได้ร่วมกันโอน Sats ลงใน NFC การ์ด แล้วให้ไปทั้งใบแทนซองงานแต่ง เพื่อที่เจ้าบ่าวจะได้เอาไปใช้แตะเพื่อ Zap ผ่าน Lightning Network ได้เท่ ๆ คูล ๆ ฟีลแตะบัตรช็อปปิ้งอะสหาย สะดวกมากเลย หรือจะเก็บ #BTC เอาไว้ก็ได้นะ สุดยอดไปเลยเนอะ !!! 😍
👉 ใครที่อยากได้บัตรใส่ Bitcoin เท่ ๆ ลายสวยแบบนี้ ไปตำกันได้ทั้งที่ #CitadelCoffee, @ลานกรองมันส์ , และ #Chitbeer กันเลยสหาย !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
.
#พ่อมดคริปโต #siamstr
สหาย... วันนี้ข้าขอลงย้อนหลังหน่อย ความจริงงานแต่งที่พูดถึงนี้เกิดขึ้นเมื่อนานแล้ว แต่ก็อยากแชร์สิ่งนี้กับทุกคน ❤
พอดีตอนนั้นตัวข้าและเหล่าแกงค์ได้บุกไปหาสมาชิกในทีม ที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าว !!! ขนไปกันทั้งโขยง ไม่ว่าจะเป็นท่านพี่ @BitToon (เจ้าของไอเดีย) และคนอื่น ๆ ในทีม ขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยเด้อ !!! 🎉
พวกข้าได้ร่วมกันโอน Sats ลงใน NFC การ์ด แล้วให้ไปทั้งใบแทนซองงานแต่ง เพื่อที่เจ้าบ่าวจะได้เอาไปใช้แตะเพื่อ Zap ผ่าน Lightning Network ได้เท่ ๆ คูล ๆ ฟีลแตะบัตรช็อปปิ้งอะสหาย สะดวกมากเลย หรือจะเก็บ #BTC เอาไว้ก็ได้นะ สุดยอดไปเลยเนอะ !!! 😍
👉 ใครที่อยากได้บัตรใส่ Bitcoin เท่ ๆ ลายสวยแบบนี้ ไปตำกันได้ทั้งที่ #CitadelCoffee, @ลานกรองมันส์ , และ #Chitbeer กันเลยสหาย !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
.
#พ่อมดคริปโต #siamstrโพสต์นี้ ลงย้อนหลัง ความจริฝต้องลงตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. แล้วสหาย... แต่งืม !!! 😂
ซาโตชิ นากาโมโตะ จดทะเบียนเว็บไซต์ #Bitcoin เว็บแรกของโลกด้วยตัวเอง ! (ครบ 17 ปี) ! 🎂
วันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา... นับเป็นวันครบรอบวันเกิด 17 ปีของเว็บไซต์ Bitcoin.org เอ้า ! ฮู้เร !!! 🎉
✍ หลายคนคงรู้จักเว็บนี้กันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นเว็บเกี่ยวกับ #BTC เว็บแรกของโลก ซึ่งผู้ที่จดทะเบียนเว็บขึ้นมาก็ไม่ใช่ใคร เป็นตัวผู้สร้าง Bitcoin เอง นั่นคือ Satoshi Nakamoto โดยจดร่วมกันกับมิตรสหายท่านหนึ่งที่ชื่อ Martti Malmi หรือที่ชุมชน Bitcoin มักรู้จักกันในนาม Sirius เขาเป็นผู้มีส่วนร่วมในเครือข่าย Bitcoin ยุคแรก ๆ และช่วยงานซาโตชิแบบค่อนข้างใกล้ชิดตอนสมัย Bitcoin อยู่ในช่วงเริ่มพัฒนาใหม่ ๆ (ใกล้ชิดในที่นี้หมายถึงค่อนข้างสนิทนะ ไม่ใช่เอาตัวไปทำงานใกล้ซาโตชิตัวจริง55555)
วันที่จดก็คือวันที่ 18 ส.ค. 2008 โน่น !!! ตอนนั้น Bitcoin ยังไม่ทันเป็นรูปเป็นร่าง ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแบบทุกวันนี้เลยสหาย 💭
👉 แต่ต่อมา... ช่วงปี 2011 ที่ซาโตชิบอกลาทุกคน (ด้วยความสบายใจ) และถอยออกจากโปรเจ็กต์ Bitcoin พร้อมปล่อยให้มันเติบโตด้วยตนเอง ไปพร้อมกับเหล่าชุมชนที่เขาเชื่อถือว่ามีเจตจำนงที่ดี วันนั้นเขาไม่ได้หายไปแต่ตัว แต่ยังส่งมอบเว็บไซต์ Bitcoin .org ให้แก่เหล่าสมาชิกชุมชน Bitcoin ที่เขาไว้ใจด้วย โดยกระจายการควบคุมให้กับหลายคนนะสหาย เพื่อให้มั่นใจว่าการควบคุมเว็บไซต์จะไม่กระจุกอยู่จุดเดียว และรักษาเนื้อหารวมถึงตัวเว็บไซต์ให้เป็นกลางและน่าเชื่อถืออยู่เสมอ
📝 สถานะปัจจุบัน... อันนี้รู้ไว้นิดนึงก็ดีว่าเว็บไซต์ดังกล่าวถูกดูแลโดยกลุ่มคนนิรนาม (pseudonymous) ที่รู้จักกันในนาม "Cøbra" ดังนั้นการจัดการหลังบ้านทั้งหมดก็อาจจะมีส่วนที่ไม่ได้ตรวจสอบได้แบบสาธารณะทั้งหมด และก็คาดว่าเป็นกลุ่มคนไม่กี่คนเท่านั้น ทุกวันนี้เว็บดังกล่าวเน้นเอาไว้อ่านข้อมูลและดูเล่น ๆ พอได้อยู่ แต่ใครจะไปทำอะไรบนเว็บไซต์ดังกล่าว เช่น ดาวน์โหลด Bitcoin Core มารัน อันนี้ต้องระมัดระวังและตรวจสอบกันดูให้ดีด้วยนะ เพราะเว็บไซต์นี้ก็เคยมีประวัติการถูกแฮ็คมา และเคยมี Bitcoin Core เวอร์ชั่นอันตรายที่เป็นของปลอมสอดไส้หลุดขึ้นไปให้ดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์อีกด้วย (ปัจจุบันไม่รู้ยังอยู่ไหม แต่ไม่ยุ่งดีที่สุด)
มาร่วมยินดีกับเว็บไซต์ดังกล่าวที่ทำหน้าที่มาจนครบ 17 ปีกันย้อนหลังกันเถอะสหาย !!! มันยังคงเป็นเว็บไซต์ที่ให้เนื้อหาเกี่ยวกับเหรียญสีส้มอ้วนกลม ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพทางการเงินแก่คนนับล้านทั่วโลกเสมอมา ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
ซาโตชิ นากาโมโตะ จดทะเบียนเว็บไซต์ #Bitcoin เว็บแรกของโลกด้วยตัวเอง ! (ครบ 17 ปี) ! 🎂
วันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา... นับเป็นวันครบรอบวันเกิด 17 ปีของเว็บไซต์ Bitcoin.org เอ้า ! ฮู้เร !!! 🎉
✍ หลายคนคงรู้จักเว็บนี้กันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นเว็บเกี่ยวกับ #BTC เว็บแรกของโลก ซึ่งผู้ที่จดทะเบียนเว็บขึ้นมาก็ไม่ใช่ใคร เป็นตัวผู้สร้าง Bitcoin เอง นั่นคือ Satoshi Nakamoto โดยจดร่วมกันกับมิตรสหายท่านหนึ่งที่ชื่อ Martti Malmi หรือที่ชุมชน Bitcoin มักรู้จักกันในนาม Sirius เขาเป็นผู้มีส่วนร่วมในเครือข่าย Bitcoin ยุคแรก ๆ และช่วยงานซาโตชิแบบค่อนข้างใกล้ชิดตอนสมัย Bitcoin อยู่ในช่วงเริ่มพัฒนาใหม่ ๆ (ใกล้ชิดในที่นี้หมายถึงค่อนข้างสนิทนะ ไม่ใช่เอาตัวไปทำงานใกล้ซาโตชิตัวจริง55555)
วันที่จดก็คือวันที่ 18 ส.ค. 2008 โน่น !!! ตอนนั้น Bitcoin ยังไม่ทันเป็นรูปเป็นร่าง ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแบบทุกวันนี้เลยสหาย 💭
👉 แต่ต่อมา... ช่วงปี 2011 ที่ซาโตชิบอกลาทุกคน (ด้วยความสบายใจ) และถอยออกจากโปรเจ็กต์ Bitcoin พร้อมปล่อยให้มันเติบโตด้วยตนเอง ไปพร้อมกับเหล่าชุมชนที่เขาเชื่อถือว่ามีเจตจำนงที่ดี วันนั้นเขาไม่ได้หายไปแต่ตัว แต่ยังส่งมอบเว็บไซต์ Bitcoin .org ให้แก่เหล่าสมาชิกชุมชน Bitcoin ที่เขาไว้ใจด้วย โดยกระจายการควบคุมให้กับหลายคนนะสหาย เพื่อให้มั่นใจว่าการควบคุมเว็บไซต์จะไม่กระจุกอยู่จุดเดียว และรักษาเนื้อหารวมถึงตัวเว็บไซต์ให้เป็นกลางและน่าเชื่อถืออยู่เสมอ
📝 สถานะปัจจุบัน... อันนี้รู้ไว้นิดนึงก็ดีว่าเว็บไซต์ดังกล่าวถูกดูแลโดยกลุ่มคนนิรนาม (pseudonymous) ที่รู้จักกันในนาม "Cøbra" ดังนั้นการจัดการหลังบ้านทั้งหมดก็อาจจะมีส่วนที่ไม่ได้ตรวจสอบได้แบบสาธารณะทั้งหมด และก็คาดว่าเป็นกลุ่มคนไม่กี่คนเท่านั้น ทุกวันนี้เว็บดังกล่าวเน้นเอาไว้อ่านข้อมูลและดูเล่น ๆ พอได้อยู่ แต่ใครจะไปทำอะไรบนเว็บไซต์ดังกล่าว เช่น ดาวน์โหลด Bitcoin Core มารัน อันนี้ต้องระมัดระวังและตรวจสอบกันดูให้ดีด้วยนะ เพราะเว็บไซต์นี้ก็เคยมีประวัติการถูกแฮ็คมา และเคยมี Bitcoin Core เวอร์ชั่นอันตรายที่เป็นของปลอมสอดไส้หลุดขึ้นไปให้ดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์อีกด้วย (ปัจจุบันไม่รู้ยังอยู่ไหม แต่ไม่ยุ่งดีที่สุด)
มาร่วมยินดีกับเว็บไซต์ดังกล่าวที่ทำหน้าที่มาจนครบ 17 ปีกันย้อนหลังกันเถอะสหาย !!! มันยังคงเป็นเว็บไซต์ที่ให้เนื้อหาเกี่ยวกับเหรียญสีส้มอ้วนกลม ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพทางการเงินแก่คนนับล้านทั่วโลกเสมอมา ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr
สัญลักษณ์ #Bitcoin โผล่บนเกมปี 1991 ! แถม Hal Finney ยังอาจอยู่เบื้องหลังด้วย ! 😲
📌 รู้จักกับสกุลเงิน Buckazoids:
✍️ Buckazoids (บัคกาซอยด์) เป็นสกุลเงินในเกมที่ปรากฏในซีรีส์เกม Space Quest ของค่าย Sierra On-Line สกุลเงินนี้เป็นเหรียญแผ่นทองคำที่มีสัญลักษณ์ “₿” แนวตั้ง แบบสัญลักษณ์ของ Bitcoin เป๊ะ ๆ เลย !!! (น่าสนใจ... หรือแค่อาจจะบังเอิญ ?) 👀
📌 เนื้อเรื่อง Buckazoids ก็น่าสนใจ:
✍️ ในจักรวาลของเกม สกุลเงิน Buckazoids คือสกุลเงินสากลที่ใช้กันทั่วทั้งแกแล็กซี !!! (ฮั่นน่อว... มีความเทคฯ มีความ Sci-fi...)
✍️ ถูกสร้างขึ้นบนดาวเคราะห์ Xenon เป็นดาวเคราะห์สมมุติในเกม ที่แสนห่างไกล และเป็นดาวที่ล้ำสมัยแบบโลกอนาคตมาก ๆ (เอาล่ะ... มีความโลกอนาคต55555)
✍️ ใช้เพื่อ "ซื้อสินค้า, จ่ายค่าบริการ, และให้ทิป" (คุ้น ๆ ไหม ? 55555)
📌 ธีมทีเด็ดของเงิน Buckazoids:
✍️ แม้จะเป็นสกุลเงินที่ใช้กันทั่วทั้งแกแล็กซี แต่สกุลเงินนี้มีความ "เสียดสี" และ "ตลกร้าย" เพราะสกุลเงินนี้จะ "เดี๋ยวเฟ้อ เดี๋ยวฝืด" Supply ไม่แน่นอนสักที แถมเฟ้อและฝืดรุนแรงด้วย ทำให้ราคาข้าวของ "ผันผวนไม่หยุด" เงินที่เคยซื้อสินค้าบางอย่างได้ วางแผนไว้ว่าจะกลับมาซื้อ แปปเดียวซื้อไม่ได้แล้ว สินค้าราคาขึ้น55555 สถานการณ์คล้ายดาวเคราะห์ดวงไหนนะสหาย 🤣
📌 แวะมารู้จักกับ Hal Finney:
✍️ พ่อหนุ่ม Hal Finney คือบุคคลแรกเริ่มผู้ขับเคลื่อนโปรเจ็กต์สกุลเงิน Bitcoin (ถ้าไม่นับ Satoshi ที่เป็นผู้สร้าง...) และมีชื่อเสียงในหมู่ไซเฟอร์พังค์ (Cypherpunk) แถมยังติดท๊อปบุคคลที่มักโดนสงสัยบ่อยที่สุดเลย... ว่าเขานี่แหละคือ Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin !!!
📌 หรือ Hal Finney จะอยู่เบื้องหลัง:
✍️ ในประวัติของ Hal Finney ช่วงประมาณก่อนปี 1990 เขาเป็นโปรแกรมเมอร์และนักพัฒนาเกม !!! (จำช่วงเวลาที่เขาทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเกมไว้ให้ดีนะสหาย)
✍️ ซึ่งช่วงเวลามันแอบเหลื่อมกับดีไซน์เหรียญ Buckazoids มากสหาย !!! เพราะเกม Space Quest IV นี่แหละ... มันเป็นภาคแรกในประวัติศาสตร์ที่ทุกคนได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเหรียญ Buckazoids ว่ามีรูปสัญลักษณ์เหมือน Bitcoin อยู่บนเหรียญ !!! และภาคนี้มาในปี 1991 !!! (เฮ้ย !!! ช่วงเวลามันแอบตรงกันแปลก ๆ !!!)
✍️ ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคสาม (1986-1989) ยังไม่มีรูปสัญลักษณ์นั้นบนเหรียญ Buckazoids เลย !!! เพราะภาคเก่า ๆ เป็นตัวหนังสือเป็นหลัก ไม่ได้มีภาพกราฟฟิครูปเหรียญที่มีตัว B หรืออะไรแต่อย่างใดเลย
✍️ หลังจากภาคในปี 1991 เป็นต้นมา... ภาคใหม่ ๆ ที่ออกมา... ก็ยึดภาพกราฟฟิคนั้นที่เป็นเหรียญทองมีสัญลักษณ์เหมือน Bitcoin เป๊ะ ๆ ตลอดมาจนถึงภาคปัจจุบันเลย
📌 ความเชื่อมโยงกับ Hal Finney:
✍️ จากทั้งธีมเกม ทั้งเนื้อเรื่องของเหรียญ Buckazoids ทั้งคอนเซ็ปต์ที่เสียดสีเงินที่ Supply ไม่แน่นอน รวมถึงดีไซน์สัญลักษณ์ที่เหมือน Bitcoin เป๊ะ ๆ เลย แถมยังออกมาตอนช่วงเวลาที่บังเอิญเกินเหตุอีก... หลายคนบนอินเทอร์เน็ตถึงขั้นจับผิดว่า... Hal Finney นี่แหละ... ผู้อยู่เบื้องหลังสกุลเงิน Buckazoids ในเกม Space Quest IV ในปี 1991 !!!
✍️ แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงการพยายามเชื่อมโยงและสันนิษฐานกันไปเท่านั้นนะสหาย เพราะก็ยังไม่มีใครที่สามารถให้หลักฐานข้อมูลแน่ชัดแบบดิ้นไม่หลุดได้เลยสักคน ไม่เคยมีประวัติว่า Hal Finney เกี่ยวข้องกับเกม Space Quest IV หรือค่ายเกม Sierra On-Line เลยสักครั้ง
✍️ แต่ด้วยช่วงเวลาที่เป็นนักพัฒนาเกมอยู่พอดิบพอดีช่วงนั้น ทำให้หลายคนตั้งทฤษฎีว่า "ก็อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับเกม แต่ได้แรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ในเกม แล้วเอามาทำ Bitcoin ก็ได้" อารมณ์แบบอยู่ในอุตสาหกรรมเกมพอดี ก็อินกับเกมอยู่พอดี แรงบันดาลใจจะได้มาจากเกมไหนสักเกมที่เนื้อเรื่องมันตรงใจ จิกกัดเงินในโลกจริง ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
📝 ก็โยงกันไปโน่น ก็ไม่มีอะไรการันตีว่ามันผิดอะนะ... แม้สัญลักษณ์ Bitcoin มันจะมาเกิดและคิดกันทีหลังโดยสมาชิกต่าง ๆ ในชุมชน หลังจากโปรเจ็กต์มันเกิดขึ้นมาแล้วก็เถอะ...
แล้วพวกเจ้าเชื่อทฤษฎีนี้หรือไม่สหาย ? มีใครคิดว่าการเชื่อมโยงนี้มันมีมูลจะจริงหรือแอบมีช่องโหว่อย่างไรบ้าง ? โพสต์นี้เขียนขึ้นมาเพื่อความบันเทิงล้วน ๆ นะ เรื่องไหนจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อพื้นฐานของ Bitcoin เลย ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตพวกเราด้วย คิดเสียว่าหาเรื่องสนุกมาคุยเล่นกันก็พอ ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต
บุกเบิกการทำฟันด้วย #Bitcoin !!! 🦷
เกิดขึ้น "วันนี้" เมื่อ 13 ปีก่อน !!! 😲
วันนี้ เดือนนี้ แต่เป็นเมื่อ 13 ปีที่แล้ว (8 ส.ค. 2012) ได้มีสถานพยาบาลเอกชนแห่งแรกของโลกที่เปิดให้ลูกค้าชำระค่าบริการเป็น #BTC โดยผู้ที่บุกเบิกเป็นหมอฟันในประเทศฟินแลนด์ เป็นคลินิกทันตแพทย์ที่มีชื่อว่า คลินิกไมดาน (ภาษาฟินแลนด์: meidanklinikka แปลว่า "คลินิกของเรา" ???) 🇫🇮
ซึ่งในปัจจุบันก็ปิดหน้าเว็บไปแล้ว และหาข้อมูลไม่ได้เลย พอจะมีรีวิวเป็นภาษาฟินแลนด์อยู่บ้าง แต่เป็นรีวิวเชิงด่ากระเจิง ประมาณว่าขูดฟันรุนแรง ทำลูกค้าเจ็บเหงือก เลือดออก กินข้าวไม่ได้ไปหลายวัน อะผ่าม ผ่าม ผ่าม !!! 🤣
ไหนใครมี BTC แล้วอยากลองบินไปใช้บริการกันดูบ้างสหาย ? (ถ้ามองข้ามรีวิวด้านบนได้ รวมถึงถ้ามันยังเปิดให้บริการอยู่อะนะ) ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙♂️
#พ่อมดคริปโต #siamstr