Panai Lawasut's avatar
Panai Lawasut
pumpanai@siamstr.com
npub1jalt...0yfp
200 กว่าวัน เหลือ 2 นาทีกว่า ตั้งแต่เช่าที่จนมีขนมขาย ตอนแรกก็นึกสนุก กะว่าอยากมีคลิป time-lapse ตอนกระบวนการก่อสร้างอวดเก๋ ๆ เอาเข้าจริง แม่งโคตร POW กล้อง time-lapse เค้าก็มีขาย แต่มันแพงและได้แค่ภายนอก เก็บไม่ครบทุก process ฉันเลยเอามือถือถ่ายมันลิง ๆ นี่แหละ เขร้…แม่งอย่างยาก! ทำยังไงภาพจะซ้อนทับกันที่เดิม ทำยังไงจุดรวมสายตาต้องเป็นจุดเดิมเสมอ ทำยังไงเวลา pan กล้องแล้วจะไม่เวียนหัว ทำยังไงดูผ่าน ๆ แล้วจะไม่เหมือนดูคลิปที่ภาพแม่งกระตุก ไหนจะต้องวางเส้นทางกล้องให้สอดคล้องกับงานก่อสร้าง บางทีหน้างานผิดแผน กล้องกูไปต่อไม่ถูกเลย แล้วยังต้องถ่ายทุกวัน…เช้า/เย็น อย่างน้อย! ฉันกลายเป็นคนขยัน เข้าไซต์ทุกวันซะงั้น 262 วัน เกือบ 2 พันรูป เหลือ 2:39 นาที 700 กว่ารูป ช่วงแรกๆเวียนหัวหน่อย ยังจับจุดไม่ถูก ตอนแรกว่าจะให้ประธานซุปช่วยตัดให้ แต่เห็นปริมาณงานท่านประธานแล้ว ฉันทำเองละกัน ให้ suno เจนเพลงให้ ยังไม่ถูกใจแต่ก็พอฝืน ๆ ได้ ก็เราใช้ฟรีอะนะ เข้าใจได้ แล้วยังต้องมานับห้องเพลง นับจังหวะกลองให้ลงกับภาพอีก ฉันล่ะโคตรนับถือคนทำอนิเมชั่นเลย ช่วยดูหน่อย เปิดเสียงด้วย ฉันทำนาน อยากอวด 55555 #GM #siamstr #toffeecakechonburi
มีสิ่งไหนก็ทุกข์เพราะสิ่งนั้นนั่นแหละ แล้วเราก็ไม่จำซะด้วย สไลด์ไปอู่นะไม่ได้ไปสนาม Bon voyage ขับดีๆนะพี่รถยก ระวังรถผมแซง #JDMstr #siamstr image
#Toffeecakechonburi LN Monthly Report ผลประกอบการการรับไลท์นิ่งประจำเดือนกรกฎาคม กรกฎาคม 2567 มี transaction ทั้งหมด 17 ครั้ง รวม 182,471 sat สิงหาคม 2567 มี transaction ทั้งหมด 13 ครั้ง รวม 252,832 sat กันยายน 2567 มี transaction ทั้งหมด 24 ครั้ง รวม 405,032 sat เดือนที่แล้วงานรัดตัวไปหน่อย เลยไม่ได้อัปเดต เหมาๆ รวมกับเดือนนี้ไปเลยละกัน เดือนสิงหาสถิติการใช้ LN ค่อนข้างต่ำ แทบจะต่ำที่สุดเลย ในขณะที่เดือนกันยามีสถิติการใช้งานที่สูงและแทบจะสูงที่สุดเลย หลังจากเก็บสถิติเอามาพล็อตกราฟได้สักพัก ฉันเริ่มได้คำตอบให้กับสมมติฐานที่ฉันตั้งเอาไว้ตอนแรกว่า “ราคามีผลกับการใช้งาน LN” ฉันสังเกตเห็นว่า ยิ่งราคาบิทคอยสูง การใช้ LN ยิ่งเยอะขึ้น (ตั้งแต่ก่อนเก็บสถิตินะ) โดยที่ฉันเดาว่าเป็นเพราะ 2 เหตุผล ซึ่งในใจลึกๆ มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลทั้ง 2 ข้อ คือ 1. ราคาที่สูงจะดึงดูดผู้ใช้งานรายใหม่ๆ เข้ามา แต่คิดอีกที คนใช้ LN มันก็ bitcoiner ทั้งนั้น ไม่น่าจะใช่กลุ่มคนที่ถูกดึงดูดชั่วครั้งชั่วคราวด้วยราคา 2. ราคาที่สูงขึ้นจะทำให้ใช้ sat น้อยลงในการซื้อขนม เรียกได้ว่าขนมราคาถูกลงโดยปริยาย แต่คิดอีกที bitcoiner ที่ไหนจะอยากใช้ sat ตอนราคามันสูงๆ เทียบเท่าการรีบร้อนขายตอนมันกำลังขึ้นเลยนะ หรือว่าราคาไม่ได้เกี่ยวกับการใช้งาน? วันนี้พล็อตกราฟของ 2 เดือนล่าสุด (รูปที่ 2 กราฟแรก) ค่อนข้างแปลกใจ ในช่วงเดือนแรกๆ ที่ LN ราคา 66-67 sat ต่อ 1 บาท การใช้งานต่ำมาก และการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นสวนทางกับปริมาณ sat ต่อ 1 บาท (ฉันใช้หน่วย sat/บาท มันก็จะงงหน่อย แต่ฉันว่ามันบอกการเสื่อมค่าของเงินเฟียตได้ชัดเจนดี) และเคลื่อนที่สัมพันธ์กันแบบสวนทางแทบทุกเดือน จะมีเดือนกันยาที่แปลกไป อันนั้นฉันว่าเป็นควันหลงจากงาน TBC2024 เห็นแบบนี้แล้วฉันค่อนข้างมั่นใจว่าการเสื่อมค่าของเงินเฟียตมีผลกับ adoption ลองดูกันยาวๆ ก็ได้ ตัวเลขนี้ยังถือว่าน้อยและสั้นมาก แต่ถ้าถึงวันหนึ่งที่มากพอแล้วกราฟยังคงเคลื่อนที่ไปแบบนี้อยู่ วันนั้นมันจะเป็น Fact ไม่ใช่ความรู้สึก ไม่ใช่คิดเอา แต่เป็นสถิติและตัวเลขที่เกิดขึ้นจริง แล้ววันนั้นคำพูดที่ว่า “ถ้าบิทคอยราคามีแต่ขึ้น ใครจะเอามาใช้” หรือ “เงินฝืดแล้วคนจะไม่ใช้เงิน” จะถูกฉันเถียงอย่างเต็มปากเต็มคำ มีเรื่องน่าสนใจอีกนิด สาขาระยองที่มียอดขายเงินบาทแค่ 5-6% ของยอดขายทุกสาขารวมกัน แต่กลับมียอดใช้งาน LN มากกว่าสาขาอย่างชลบุรีหรือศรีราชาที่มียอดขายมากกว่าหลายเท่าตัว ฉันรู้สึกถึงความอะไรบางอย่างของ bitcoiner ระยองอยู่ รู้สึกว่า bitcoiner ที่นี่ต้องไม่ธรรมดา ฉันว่าน่าสนใจมากว่าคอมมูแถวนั้นเขาคุยกันยังไง หรือถ้าไม่เคยคุยกันเลย ฉันก็อยากส่งสัญญาณให้ว่า แถวระยองมี bitcoiner ค่อนข้างหนาแน่นกว่าที่อื่นนะ เราควรมาเจอกันหน่อย จริงๆ ทั้งประเทศนี่แหละ ใครมาได้มาเจอกันหน่อย ฉันว่า adoption ของจริงเกิดจาก consequence ของการได้เจอกันนี่แหละ หวังว่า #east102 คงได้เจอทุกคน #GN #siamstr
image Effect มันได้!!! ไม่มีแม้แต่อย่างเดียวที่ไม่ได้ถูกคิดมาล่วงหน้า ถ้าจะมีก็คงเป็นสาขานี้จะคืนทุนเมื่อไหร่ ซึ่งไม่ต้องคิด ฉัน low time พอ 😎 #siamstr #toffeecakechonburi
ผมว่า Jakk ใช้คำได้ถูกต้องที่สุด “งาน #TBC2024 เหมือนได้กลับบ้าน” ผมเป็นคนชอบอยู่คนเดียว ผมรู้สึกว่าสกิลการเข้าสังคมของผมไม่ค่อยได้ มันปั้นหน้าไม่ถูก ไม่รู้จะคุยอะไร คิดเยอะไปว่าถ้าชวนคุยเรื่องนู่นเรื่องนี้มันจะละลาบละล้วงมั้ย จะมีกลุ่มเพื่อนอยู่ไม่กี่คนที่ผมรู้สึกสบายใจด้วย ที่จะคุยกันยาวๆ มีรายการเข้ามาขอสัมภาษณ์เรื่องร้านเยอะอยู่นะ ผมก็จะให้น้องชายกับแฟนเป็นคนออกหน้า ส่วนหนึ่งก็อยาก keep low profile แต่จริงๆ คือสกิลในที่สาธารณะของผมมันไม่ได้จริงๆ พักหลังเป็นหนักมาก ยิ่งผมสามารถถอยตัวออกมาจากหน้าร้านได้ 100% ผมยิ่งไม่พยายามผูกมิตรกับใครเพิ่ม ซัพพลายเออร์ของร้านผมส่วนใหญ่ไม่รู้จักผม ทั้งๆ ที่ชื่อบนสลิปโอนเป็นชื่อผมทั้งหมด เคยมีเจ้านึงเอากระเช้าปีใหม่มาให้ เจอผมโดยบังเอิญ แต่ก็พยายามถามหาแฟนผม เพราะไม่รู้จักผม 5555 (ผมให้แฟนดูเรื่องจัดซื้อ เอาไว้เป็นบัฟเฟอร์อีกที) ผมไม่ได้ซีเรียส ผมว่ามัน success ซะอีก ผมไม่ต้องการให้การตัดสินใจเลือกใช้ซัพพลายเออร์เจ้าไหนขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ ส่วนหนึ่งก็เป็นกลยุทธ์ในการบริหาร แต่อีกส่วนใหญ่คือผมไม่อยากจะต้องมาคุยกับใครต่อใคร จะเรียกว่าเป็นแค่พ่อค้าขายขนมแต่เสือกทำตัวเข้าถึงยากก็ไม่ผิดนัก 55555 ยิ่งพอเป็นบิทคอยเนอร์แล้วด้วยนั้น… (ผมว่าทุกคนเข้าใจ) ผมไม่รู้จะใช้คำพูดยังไงไม่ให้ดูเย่อหยิ่งโอหัง แต่การที่ผมคุยกับใครคือผมให้เกียรติมาก และก็เชื่อเถอะว่าจากที่ผมเล่ามา มันทำให้ผมเข้าใจทุกคนที่มาในงานเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่มาคนเดียวว่ามันต้องใช้ความกล้าหาญแค่ไหน มันถึงทำให้ผมประทับใจมากเวลาที่หลายๆ ท่านที่เข้ามาคุยกับผม ผมก็ถือว่าท่านให้เกียรติผมมาก บางทีอาจต้องรวบรวมความกล้า บางทีอาจต้องใช้ความไว้วางใจ และผมก็ต้องขอโทษไว้ตรงนี้เลย สกิลการเข้าสังคมของผมมันไม่ได้จริงๆ หลายๆ ทีบรรยากาศการสนทนากันมันอาจดูอึดอัด ไม่มีอะไรจะคุย แต่ผมนับถือและประทับใจทุกท่านจริงๆ และเชื่อว่าคงไม่มีใครถือสาใคร คงไม่มีใครรู้สึกว่าบางคนทำตัวเข้าไม่ถึง เพราะบรรยากาศโดยรวมมัน “เหมือนได้กลับบ้านจริงๆ” ไม่รู้ RS ทำได้ยังไง แต่ผมรู้สึกอยากจะคุยกับใครก็ได้ หรือใครอยากจะมาคุยกับเราก็ได้ ทั้งหมดทั้งมวลมันมีแต่ความให้เกียรติกัน ไว้วางใจ และให้กำลังใจกัน อย่างเช่น Hipnok มาเปิดตัว พี่จตุพลเปิดหน้า แชมป์เอารูปที่ไม่คิดจะขายมาขาย หรือแม้แต่ผมเองที่รู้สึกอยากคุยกับคนนู้นคนนี้ขึ้นมา (แม้จะทำได้ไม่ดีก็เถอะ) ไม่รู้ต้องนับว่าเป็นการให้เกียรติและไว้วางใจคอมมูขนาดไหน หรืออีกมุมคือ มันต้องเป็นคอมมูแบบไหนที่ทำให้คนทั้งคอมมูให้เกียรติและไว้วางใจซึ่งกันและกันได้ขนาดนี้ ต้องทำยังไงให้ทุกคนรู้สึกว่าได้กลับบ้าน ซึ่งจริงๆ ข้างนอกนั้นเราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรบั่นทอนเราซะขนาดนั้นนะ ความรู้สึกเหมือนตอนที่ผมทำงานอยู่ในกรุงเทพ แล้วมันสุดทางละ ไม่ไหวละ จนพ่อชวนกลับมาบ้าน วินาทีที่ถึงบ้านมันรู้สึกสบายใจ มันรู้สึกปลอดภัย ทั้งๆ ที่ที่บ้านก็ไม่ได้จะมีเงินดูแลผมกับแฟนและลูกสาวอีกคนเพิ่มได้นะ แต่ว่ามันรู้สึกว่าเราอยู่ในที่ของเราแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวบ้านตอนนั้นก็ไม่ใช่ของเราไปแล้วด้วยซ้ำ ยิ่งได้มีคนคุยกับเรา มันก็มีทั้งเรื่องปัญหาและเรื่องที่สนุกปนๆ กันไป แบบครอบครัวปกติเค้าคุยกันนั่นแหละ แต่สำคัญคือมีคนรับฟังและเข้าใจความรู้สึกเรา หรืออย่างน้อยก็พยายามเข้าใจ ไอ้ความสบายใจนี่ไม่ใช่รู้สึกไปเองนะ มันเป็นการทำงานของร่างกายในระดับฮอร์โมนเลย ออกซิโทซิน เป็นฮอร์โมนที่มักเรียกกันว่า “ฮอร์โมนแห่งความรัก” เพราะมันจะหลั่งออกมาจากสมองเมื่อเรามีปฏิสัมพันธ์หรือใกล้ชิดกับคนที่เรารัก การกอด การจับมือ หรือแม้แต่การใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มันมีบทบาทสำคัญในด้านอารมณ์ ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย ไว้วางใจ และมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคนรอบข้าง คนที่อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น อยู่ในบ้านที่เป็นบ้านจริงๆ จะมีแนวโน้มที่ออกซิโทซินจะหลั่งออกมาอยู่เนืองๆ ความรู้สึกนี้จะเรียกเป็นภาษาพูดคงจะเป็น อบอุ่น สบายใจ ปลอดภัย ไม่โดดเดี่ยว ที่สำคัญมันยับยั้งคอร์ติซอล ฮอร์โมนแห่งความเครียด เมื่อระดับความเครียดลดลง ส่งผลให้สมองปลอดโปร่ง คิดอะไรได้ชัดเจนขึ้น ปัญหาในชีวิตผมเริ่มคลี่คลายจริงๆ หลังจากผมกลับมาอยู่ที่บ้านนี่เอง ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นคนรอบข้างต่างหากที่เป็นปัจจัย และไอ้ฮอร์โมนตัวเดียวกันนี้ ความรู้สึกเดียวกันนี้ เกิดขึ้นกับผมตลอดเวลาที่อยู่ในงาน และผมมั่นใจว่าเกิดขึ้นกับทุกคนเช่นกัน “ความรู้สึกได้กลับบ้าน” ไม่ใช่ความยิ่งใหญ่ของงานหรือความอลังการของเวที แต่เป็นคนในคอมมูต่างหากที่เป็นบ้าน ถ้าแบบนั้นรูปแบบงานจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญแล้ว ที่ไหนมีคอมมู ที่นั่นก็พาเรากลับบ้านได้ทั้งนั้น ตอนนี้ฉันคิดถึงพ่อเฉยเลยว่ะ #GN #siamstr image
เมื่อลูกสาวฉันขอเบิกเงิน เด็กสมัยนี้ 🙄 บางทีฉันก็หวงซาโตชิฉันนะ #siamstr #GN image
“รูปนี้ผมไม่ขายอะพี่…” แชมป์เคยบอกผมไว้ตอนวาดรูปนี้เสร็จ ผมเชื่อว่าใครก็ตามที่รู้จักแชมป์เหมือนผม ก็คงทำแบบเดียวกัน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนที่ผมยังสนุกกับการเล่าเรื่องบิทคอยน์ให้คนรอบตัวฟัง ผมได้คุยกับคนมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ฟังแล้วผ่านไป แต่แชมป์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่กลายเป็นเหยื่อของผมในวันนั้น แชมป์เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจฟังและอินไปกับผมจริง ๆ และตามสูตร จบด้วยการส่งคลิป อ.ต้ำ ให้เขาดูต่อ เรารู้กันดีว่ามีน้อยคนนักที่จะดูคลิปที่เราส่งให้ แต่แชมป์ดูจนจบ (ผมส่งไป 4 คลิป เป็นซีรีส์ที่ป้ายยาดีมาก) จากนั้นแชมป์เริ่มมีคำถามมาไม่หยุด ทั้งเชิงกลไกและปรัชญา ลึกขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้กลายเป็นว่าผมต้องถามเขาแทนแล้ว แชมป์ค่อย ๆ กลายเป็นบิทคอยน์เนอร์ขึ้นเรื่อยๆ และเป็นบิทคอยน์เนอร์ที่เป็นบิทคอยน์เอนร์มากที่สุดคนหนึ่งที่ผมรู้จัก วิถีของแชมป์เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่เรื่องการเงิน แต่มันครอบคลุมถึงครอบครัว สุขภาพ ธรรมะ และความเข้าใจต่อโลกและผู้คนรอบตัว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “การเข้าใจตนเอง” แชมป์ซื่อสัตย์กับตัวเองมาก หากคุณต้องบริหารโรงงานใหญ่โตของครอบครัว มีพนักงานเป็นร้อย การตัดสินใจหยุดทุกอย่างแล้วมาสร้าง POW ในสิ่งที่ตัวเองถนัดนั้นต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก เพราะรู้ว่า POW สำคัญ รู้ว่ามันต้องใช้เวลา และรู้ว่าความยั่งยืนมีราคาที่ต้องจ่าย และสิ่งสำคัญที่สุดคือ “รู้ว่านี่จะเป็นตัวอย่างให้คนรอบตัว” ในบริบทเดียวกับแชมป์ มีไม่กี่คนที่กล้าทำแบบนี้ และผมก็คงเป็นหนึ่งในคนที่ไม่กล้า แชมป์ใช้เวลาแถบทั้งหมดที่สตูดิโอสอนศิลปะ อยู่มันทั้งวันจนมีโต๊ะอธิการบดีเป็นของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่มันเป็นแค่นักเรียนหนึ่งคน เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติ การยอมรับ และความไว้วางใจที่คนรอบข้างมีให้กับแชมป์ แชมป์มักจะส่งรูปผลงานมาให้ผมดูเรื่อย ๆ หลายครั้งก็เอางานมาให้ผมเลยด้วยซ้ำ จนวันหนึ่งเขาบอกว่าจะทำโปรเจ็กต์ใหญ่ บอกว่าภาพนี้จะเป็นรูปที่ใช้ "ป้ายยา" เล่าเรื่องตั้งแต่ประวัติศาสตร์การเงินจนถึงกลไกของบิทคอยน์ ผมก็นึกภาพไม่ออกหรอกว่ามันจะเป็นยังไง แต่แชมป์อัพเดตความคืบหน้าให้ผมตลอด เริ่มจากภาพร่างที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ไปจนถึงภาพของซาโตชิ มีหินไรไมต์ เหรียญทอง เครื่องปริ้นเงิน บิทคอยน์ HW จนถึงค่า difficulty 8 เดือน!!! ที่แชมป์อัพเดตผมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผมจะไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่ตั้งแต่แรก แต่ทุกครั้งที่เขาส่งมา มันเต็มไปด้วยพลังและความสุขที่ได้ทำอะไรบางอย่างให้ถึงเป้าหมาย แชมป์ไม่รู้ตัวหรอกว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมหยิบกีตาร์ขึ้นมาฝึกเล่นเพลงที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเล่นได้ ตอนอายุ 40 และที่สำคัญที่สุด แชมป์เป็นตัวอย่างของคนที่กล้าทำในสิ่งที่รักอย่างเต็มที่และสุดหัวใจให้ทุกคนในคอมมูเห็น ทุกคนน่าจะเห็นชัดเจนถึงผลลัพธ์ของการทำสิ่งที่ตัวเองรักจากแชมป์ คุณเห็นความสุขที่แชมป์แสดงออกมาหรือเปล่า? มีใครเคยคุยกับแชมป์แล้วรู้สึกเครียดบ้างไหม? มีแม้แต่คนเดียวไหมที่ไม่สนุกเวลาอยู่กับแชมป์? Community เกิดขึ้นได้จากการ communicate คุณเห็นพลังของการอยากสื่อสารกับคนอื่นจากแชมป์ไหม? ผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้เพื่ออวยแชมป์ (เพียงอย่างเดียว) แต่การสร้าง community จำเป็นต้องสร้าง demand ให้คนอยากสื่อสารกับคุณ คุณสร้าง POW มากพอหรือยัง จนคนอื่นอยากคุยกับคุณเรื่องนั้น? ถ้ามันมากพอ ความต้องการที่จะสื่อสารกับคุณจะมาเอง และมันจะมาพร้อมความเชื่อมั่นและไว้วางใจ หลังจากนั้นคุณจะพาเขาไปทางไหนก็ได้ ต่อให้โกหก คนยังเชื่อเลย เชื่อผมสิ! แต่ถ้าคุณคุยกับใครแล้วเขายังไม่คล้อยตาม อย่าเพิ่งโทษทัศนคติของเขา นั่นเป็นเพราะตัวคุณยังไม่ใหญ่พอ ต้องกลับไปเพิ่ม POW ของตัวเองให้มากขึ้นแล้ว ผมว่า @Jakk Goodday มองขาดในเรื่องนี้ และเห็นพลังนี้ของแชมป์ (แม่งโดนใยเหนียวเลย 555) แชมป์บอกผมว่าภาพนี้จะไม่ขาย มันวาดภาพนี้ให้ดูไม่ค่อยเข้าใจ เพื่อให้คนมาถาม แล้วจะได้เล่าเรื่องให้ฟัง และเก็บภาพไว้ที่แกลเลอรี่แบบนี้ ซึ่งภาพนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดี แชมป์ป้ายยาไปหลายคนแล้ว มีหลายคนในทุ่งม่วงนี้ที่มาจากโรงเรียนศิลปะของเขา ภาพนี้ถูกแขวนอยู่ในแกลเลอรี่ของสตูดิโอศิลปะ เทียบเคียงกับผลงานระดับครูอีกหลายสิบภาพ ถ้าเป็นผมคงภูมิใจมาก แล้ววันนั้นแชมป์ก็เลือกที่จะนำภาพไปประมูล นี่คือ demand ที่ Right Shift สร้างได้สำเร็จ และมันมากพอที่แชมป์จะยอมยกเกียรตินี้ให้กับ RS และแชมป์ก็สร้าง demand มากพอสำหรับผมเช่นกัน @PIGROCK ... “กูภูมิใจในตัวมึงมาก” … ไม่รู้ว่ากูมีสิทธิ์พูดคำนี้ไหม แต่กูรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ปล.รู้มั้ยว่า Address ที่ผมโอนเงินประมูลไป คือ address ที่อยู่บนรูปนั่นแหละ อย่างเท่ห์..!!!! #siamstr #TBC2024 image
ฉันได้งานจารย์แชมป์เพิ่มอีกแล้ว จะเรียกว่างานก็ไม่ถูก เพราะนี้คือจานสี เข้…อย่างคูล!!! สิ่งถูกสร้างด้วย POW จะเก็บ values อนู่ในตัวมันได้เสมอไป เตรียมตัวอิจฉาฉันวันที่งานจารย์แชมป์ มี values มากกว่า bitcoin ได้เลย 5555555 ขอบคุณ @PIGROCK #siamstr
#GM นานๆจะได้กินกาแฟร้านนี้ซักที image