เมื่อนักกฎหมายต้องมาช้ำรัก ความวายป่วงทางจิตใจ จึงผลักดันให้สร้างสรรค์ บทความตัดพ้อความรัก version นักกฎหมาย อารัมภบทมายาวแล้ว ขอนำบทความที่สุดแสนจะชอกช้ำ ตรอมตรม ทุรนทุราย จนต้องนอนร้องให้จมกองน้ำตา และบทกลอนที่ได้จากการ ร่วมกันสุมหัวกันประพันธ์ ระหว่างนักกฎหมายผู้ช้ำรัก กับ Chat gpt บทความมีดังนี้
“เธอเป็นคนนะ ! เธอไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ ต่อให้นายคุยกับเธอ โดย สงบ เปิดเผย เจตนาเป็นแฟนเธอ ตั้งสิบปี นายก็ไม่ใช่แฟนเธอ นายก็เป็นได้แค่พี่ชาย และคำเสนอของนาย กับคำสนองของเธอ ไม่สอดคล้องต้องตรงกันที่จะทำให้นายเป็นแฟนเธอได้ นายเสนอจะเป็นแฟน แต่คำสนองของเธอกลับให้นายเป็นได้แค่ พี่ชาย55555LOL”
จะนั่งรอ จนสิบปี ที่พี่ชอบ
ยังไม่รอด สักรอบ จากใจน้อง
เจตนา เปิดเผยไป ไม่หม่นหมอง
แต่คำสนอง... กลับเป็นได้ แค่พี่ชาย
ถึงสงบ... ก็ยังกลบ ไม่มิดหวัง
ถึงตั้งใจ ก็ยังพัง ไม่ต้องอาย
ถึงสิบกับ ความชัดถ้อย คำวาจา
กฎหมายใจ เธอไม่รับ ไว้สักที
ใช่เธอคือ อสังหาฯ ที่จะครอง
จ่ายดาวน์มอง สิบปี ไม่มีที่
ความเป็นแฟน คือสัญญา ที่ต้องมี
คำเสนอ พี่ไม่มี หลักฐานเลย
เธอแจ้งเตือน “ขอบคุณค่ะ พี่เข้าใจ”
ถ้าเป็นศาล คงตัดสิน ไม่เปิดเผย
พี่แสดง เจตนาชัด ทุกเขตเลย
แต่จำเลย เธอ...ไม่ให้ สิทธิ์รักเลย
อยากเป็นแฟน แต่ระบบ มันไม่รับ
ข้อกฎหมาย รักลับ มันตัดเฉย
เธอบอกพี่ คือคนดี ไม่เคยเลย
แต่ไม่เคย อยู่ในเขต “คู่ครองใจ”
พี่คือพี่ พี่คือพี่ พี่แค่พี่
พี่ไม่มี สิทธิ์แม้เป็น “เพื่อนตาย”
สงบเปิด เผย...เอาไว้ ใช้สอบปลาย
แต่สอบใจ เธอเท่าไหร่ ...พี่ก็ศูนย์
โอ้คำเสนอ... พี่เขียน เป็นกฎหมาย
เธอกลับยิ้ม แล้วไม่เซ็น... เหมือนลื่นฝุ่น
คำสนอง ของเธอคือ "อย่ามายุ่ง"
พี่ก็จบ ในฐานะ “หมวดพี่ชาย”
บทเรียนรัก ไม่เขียนไว้ ในรัฐธรรมนูญ
สองเจตน์จูน ไม่ตรง ก็ไม่ผ่าน
คำเสนอ คนหนึ่งถึง จะอ่อนหวาน
ถ้าคำสนอง ไม่นำพา... ก็ไม่มี“สาระรัก”
#siamstr #SIAMSTR #ชอกช้ำระกำใจทุรนทุรายตรอมตรมเศร้าโศกาโศกศัลย์หม่นหมองระทมทุกข์
The Story of Stray Dog
npub1dc3n...aer7
I am just someone who is the fucking nobody.
Notes (12)
ถ้าพรุ่งนี้เงินทุกบาทที่คุณถืออยู่ สามารถถูกระงับ ถูกล็อค หรือลบ หรือถูกโปรแกรม บังคับให้คุณซื้ออะไรได้ ซื้ออะไรไม่ได้ ในคลิกเดียว คุณคิดว่าคุณยังมีเสรีภาพอยู่หรือไม่ ?
บางท่านเห็นชื่อบทความผมแล้วคงคิดว่าผมบ้า มึงไปโดนตัวใหนมาวะ ? ใครมันจะไปทำอย่างนั้นวะ ? ระแวงไปเอง งี้เง้า ไร้สาระ แล้วแต่ท่านจะคิดครับ เพราะมันคือเสรีภาพของท่าน แต่ผมขอยืนยันไว้ว่า ภายใน 5 ปี อย่างเร็ว 10 เป็นอย่างช้า ประเทศไทยจะได้ใช้เงินรูปแบบนั้น และเมื่อถึงเวลานั้นเสรีภาพที่ท่านมีอยู่จะสูญสลาย เหมือนกับผงฝุ่นที่โดนลมพัด เงินชนิดใหม่นี้ พวกเขาจะให้ชื่อมันว่า “Thai Bath Digital” แต่ผมขอเรียกมันว่า “ว่าที่เงินอุบาทว์ในอนาคต”
ผมขอให้สิ่งที่ผมคาดการณ์ไว้ไม่เกิดขึ้น ผมอยากจะภาวนาว่าจริง ๆ แล้วผมโง่ที่คาดการณ์ว่าอนาคตจะเป็นแบบนั้น แต่ดูจากแนวโน้มในปัจจุบันแล้วมีความเป็นไปได้ที่สิ่งนี้จะเป็นความจริงมากยิ่งขึ้น ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้น เงินก็จะแปลงร่างเป็น “แส้” และ “ตรวน” ในสิ่งอันเดียวกัน มันทำได้ทั้ง ตรึงท่านไว้ให้อยู่กับที่ ที่ใดที่หนึ่ง และขณะเดียวกันมันก็เฆี่ยนหลังของท่าน อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ว่าท่านจะหลับ หรือตื่น และเมื่อไหร่ท่านไม่ทำตัวเป็นเด็กที่น่ารักของ “รัฐ” ท่านก็จะยิ่งโดนลงโทษหนักขึ้น
เด็กดื้อต้องโดนลงโทษ พวกเขา (รัฐ) จะอ้างว่าพวกเขาต้องสร้าง “เงินอุบาทว์” ตัวนี้ขึ้นมาเพื่อไว้สำหรับควบคุมเด็กดื้อ (พวกรับเปิดบัญชีม้า อาชญากรทั้งหลาย พวกscammer พวกคนไม่ยอมจ่ายภาษี) หรือลงโทษพวกเด็กดื้อพวกนี้ พวกเขาจะอ้างว่าเพื่อที่จะป้องกันความเสียหาย เหตุผลนี้มันฟังดูสวยหรู ผมขอยอมรับว่าเหตุผลข้อนี้เป็นเหตุผลที่ดี ที่ทำให้ “รัฐ” สมควรที่จะสร้างเงินประเภทนี้
ตั้งแต่เริ่มต้นบทความจะมาถึงย่อหน้านี้ ผมด่า ผมต่อว่า สาปส่ง เจ้า “CBDC” อยู่ฝ่ายเดียวก็จะดูไม่เป็นธรรมและดูมีอคติ ผมขอเล่าถึงข้อดีของมันก่อน และจะยกตัวอย่างข้อเสียให้พวกท่านฟัง เพื่อพวกท่านจะได้ชั่งน้ำหนักได้ด้วยตัวพวกท่านเอง ว่าเจ้า “CBDC” มันดีหรือร้าย
ข้อดี
1.ความโปร่งใส เงินทุกบาททุกสตางค์สามารถติดตามได้ ลดการฟอกเงิน หลีกเลี่ยงภาษี
2.ลดต้นทุนระบบธนาคาร โอนเงินรวดเร็ว ไม่มีคนกลาง
3.ประชาชนเข้าถึงการเงินอย่างทั่วถึง คนไม่มีบัญชีธนาคารก็มี เงินดิจิม่อน เฮ้ย ! เงินดิจิทัล ได้
4.ควบคุมเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูดเงิน-ปล่อยเงิน ได้แบบ realtime
ทั้งหมดนี้ สวยหรูในทางทฤษฎี ย้ำ ทางทฤษฎีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าอยู่ในมือ “รัฐ” ที่ยึดหลักนิติธรรม และเคารพสิทธิเสรีภาพ แต่ความจริงมันน่าเศร้า โลกความเป็นจริงกับโลกทางทฤษฎีมักจะต่างกันอยู่เสมอ
ข้อเสีย
1.ควบคุมพฤติกรรมผ่านเงิน รัฐสามารถกำหนด เงินของคุณ ให้ใช้ได้เฉพาะบางอย่าง เช่นใช้ได้เฉพาะซื้ออาหาร หรือกำหนด ว่าช่วงเวลาตั้งแต่ 12.00-17.00 ห้ามซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามซื้อหนังสือที่มีหลักคิดทางการเมืองเป็นภัยกับรัฐนั้น เป็นต้น
2.ตั้งวันหมดอายุของเงิน เช่นเงินที่แจกอาจมีเวลาหมดอายุ ต้องใช้ภายใน 30 วันมิฉะนั้นจะถูกลบทิ้ง เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ บังคับข่มขืนใจให้การะทำการซื้ออะไร หรือไม่ซื้ออะไร ! (WTF)
3.รัฐรู้หมดว่าเงินของคุณอยู่ที่ใหน CBDC ทุกหน่วย (อาจจะเป็น บาท หยวน ดอลล่าร์) จะมีข้อมูลว่า ใครครอบครอง ซื้ออะไร ที่ใหน เมื่อไหร่ ซื้อเท่าไหร่ ไม่มีความลับ ไม่มีพื้นที่ปลอดภัย จินตนาการสมมุติคุณเป็นผู้นำฝ่ายค้านของรัฐที่เป็นเผด็จการและรัฐนั้นใช้ CBDC เป็นระบบการชำระเงินที่แพร่หลายภายในประเทศ (WTF)
4.รัฐสามารถ ลบเงินของใครทิ้งก็ได้ ถ้ารัฐบอกว่าคุณ ทำตัวไม่น่ารักต้องจับไปตีก้น เงินของคุณ ก็จะอันตรธานหายไปในพริบตาเพียง 1 click ต่อให้เงินนั้นจะเป็นเงินที่คุณได้รับมาจาก โคตรพ่อ โคตรแม่ จากกองมรดกก็ตาม
5.ใช้ร่วมกับ AI และ Big Data เพื่อจัดการมวลชน หากดัน “รัฐ” มีความคิดสร้างสรรค์ ผูกข้อมูล CBDC กับระบบ AI วิเคราะห์ พฤติกรรมของประชากรทุกคน คุณอาจจะถูกจำแนกว่าเป็น “ภัยทางความคิด” โดยที่กระผมยังไม่ได้คิดHearอะไรเลย โดยที่ยังไม่ทำอะไรเลยผิดเลย คล้ายกับในหนัง เรื่อง Minority Report เท่ากับว่าคุณจะถูกจับก่อนกระทำความผิด
สรุป
ถ้า รัฐธรรมนูญ แข็งแกร่ง ผลลัพธ์ CBDC อาจเป็นเครื่องมือที่ดี
แต่ถ้า “รัฐ” ไม่โปร่งใส CBDC จะกลายเป็นเครื่องมือควบคุมพฤติกรรมประชาชนที่ดีที่สุด เท่าที่มนุษยชาติเคยคิดค้นขึ้นมา ดีกว่า ศาสนา ดีกว่า กฎหมาย ดีกว่า ศีลธรรม
และถ้าคุณฝืนหัวจิตหัวใจอ่านบทความนี้จนจบ โดยที่คุณไม่ใช่ bitcoiner คุณจะอุทานว่า “นี่กูอ่านเหี้ยไรวะเนี่ย !”
และถ้าคุณอยากรู้ว่าผมไปโดนตัวใหนมา ผมก็จะบอกว่า ผมไปโดน คนใส่แว่นคนหนึ่งที่เคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย พร้อมกับพรรคพวกของเขา กับ ข้าราชการท่านหนึ่ง ที่ดองเบียร์เป็นงานอดิเรก พ่นพิษใส่ 5555555LOL
รักเธอนะ BOT อย่าโกรธเค้านะ เค้าพูดแรงไปหน่อย. เธออย่าอคติกับ BTC ได้มั้ยอ่ะ? เดี๋ยวนี้มีทั้ง Lightning network ใหน จะ leyer 3 cashu เธอจะสู้ไหวเหรอ ? ฉันลืมไปเธอชอบที่จะควบคุมอยู่แล้ว เธอคงไม่ยอมปล่อยให้ใครๆ มีอำนาจเหนือเธอหรอก แต่ที่กับ FED แล้วยอมเขาจังเลยนะ
#BTC #bitcoin #siamstr #SIAMSTR #CBDC #rightshift #BOT #BankOfThailand #อุ๋ยลืมไปBOTเขาไม่รู้จักnostr #เงินอุบาทว์"คนเลว" มักจะหาความชอบธรรมให้ตนเอง โดยการสร้างเหตุผลที่ผิดเพี้ยนเข้าข้างตนเอง เพื่อให้ตนเองดูดี หรือไม่ก็เพื่อให้ตนเองได้ทำเลวต่อไป.
วจีมาร: อย่าใส่ใจในคำลวง
๏ อหังการ ผลาญจิต คิดโอหัง
วาจาพลั้ง ปั้นแต่ง แกล้งบิดเบือน
สร้างชอบธรรม คำลวง ดั่งลางเลือน
เหมือนแชเชือน เหยียบย่ำ ซ้ำทำพาล
เหตุผลพิ กลพิการ มาอ้างอิง
หลอกผู้ทน ผู้ฟัง ยังรำคาญ
หัวเราะเยาะ เหยียดหยัน คำคนพาล
ช่างโอหัง บังอาจ มิอาจทน
ทำชั่วช้า สามานย์ ซ่านฤทัย
ยังผูกใจ อ้างชอบ ธรรมข่มคน
หวังเพียงให้ ตัวรอด พ้นบ่วงตน
ช่างน่าปน เปื้อนนัก พักลงดิน
วจีมาร ผลาญผ่อง พิกลหนัก
ช่างน่าชัง คำบิดเบือน ที่ได้ยิน
เหยียบย่ำซ้ำ ความดี บัดสีสิ้น
กาลเวลา ผลาญกิน ไม่คืนคลาย
อันความเลว เรื้อรัง มิยั่งยืน
กรรมจักคืน สนองพลัน อย่าหวั่นไหว
อย่าใส่ใจ คำลวง ที่ปั่นไป
ปล่อยเขาไป ตามกรรม ที่ทำมา
โอ้ท่านเอ๋ย... จงอย่า ได้ใส่ใจ
คำใดใด จากวจี มารชั่วช้า
สัตว์โลกย่อม เป็นไป ตามชะตา
กรรมนำพา... อย่าตรอง ให้ปวดใจ
#siamstr #SIAMSTR #บางคนชั่วแล้วยังปากแจ๋ว
ทำไมถึงซื้อ BTC กันทุกราคา DCA แบบหลับหูหลับตา ?
คนที่ถามคำถามนี้แก่เหล่า bitcoiner (ผู้ถือครอง bitcoin) ส่วนมากจะถามด้วยสีหน้า แววตา น้ำเสียง บ่งบอกถึงความสงสัยสุดขีด (เหมือนจริงๆแล้วเขาอยากจะใช้คำถามว่า “มึงไปโดนตัวใหนมาวะถึงซื้อ BTC ได้ทุกราคาบ้าอะป่าว ?”)
สิ่งที่ทำให้เหล่า bitcoiner สามารถทำการ DCA ได้ทุกเดือนโดยไม่มีความกังวลก็เพราะว่า BTC มันไม่เน่า มันไม่ยืดได้ หดได้เหมือนเงินที่ “รัฐ” สร้างขึ้นมาให้ผู้ถูกปกครองของพวกเขาใช้ หรือพูดง่ายๆมันไม่เสื่อมค่า ค่าของมันจะคงที่อยู่ตลอด แต่ที่ราคามันขึ้นมันลงเป็นเพราะ เรื่องของ อุปสงค์ อุปทาน ณ ขณะนั้น
แล้วไม่กลัวเหรอว่ามันเป็นแชร์ลูกโซ่ จับต้องก็ไม่ได้ ใครก็ไม่รู้เสกเหรียญขึ้นมา ?
ถ้าจะให้อธิบาย สติปัญญาของผมก็คงไม่มากพอที่จะอธิบายได้อย่างละเอียดให้คุณเข้าใจได้ แรกๆ bitcoiner ก็ตั้งคำถามกันแบบนี้ทุกคนไม่เพียงแต่ตั้งคำถาม ส่วนใหญ่มักจะสาปส่งด้วยซ้ำ BTC ทุกเหรียญที่เกิดขึ้นมาไม่ได้เกิดจากการ เสกขึ้นโดยการมีคนๆ หนึ่ง พิมพ์โค้ด แล้วกดกระแทกปุ่ม ENTER ดังปั้ง ! แล้วเหรียญ BTC เกิดขึ้นมา แต่การเกิดมีขึ้นมาของ BTC แต่ละเหรียญ มีราคาที่ต้องจ่าย ต้องมีการลงทุนเครื่องขุด ลงทุนพลังงาน และถ้าหากทำเป็นอุตสาหกรรม ก็ต้องมีการจ้างแรงงาน ต้องมีการลงทุนที่ดินสถานที่ตั้งเหมือง ซึ่งไม่ต่างจากการทำเหมืองขุดทอง ซึ่งถ้าติดตามข่าว ก็คงพอจะได้ยินข่าวเหมืองขุดเถื่อนลักลอบต่อไฟ จากการไฟฟ้า มาใช้ในการทำเหมือง BTC สร้างความเสียหายหลักล้านบาท ฉะนั้นแล้วเมื่อการเกิดของมันต้องมีการลงทุน ลงแรง จริงๆ ไม่ได้เกิดจากการเสกเอาได้ง่าย อย่างนั้นแล้ว คนที่ทำอาชีพขุด BTC ขายก็ไม่ยอมที่จะขาย BTC ให้ต่ำกว่าต้นทุนที่ใช้ในการขุด และ BTC จะมีการ halving (ลดรางวัลที่ได้จากขุดครึ่งหนึ่ง) ทุก 210,000 block และเมื่อปริมาณที่ได้จากการขุดมันลดลงทุกสี่ปี ก็เป็นการบังคับโดยปริยายให้บรรดาเหมืองขุด ต้องทำการอัปเกรดเครื่องขุดของตนให้แรงขึ้นเพื่อที่จะได้ขุดได้เหรียญเท่าเดิม และพลังงานไฟฟ้าก็ต้องใช้เพิ่มขึ้นอีกเพื่อให้ได้เหรียญจำนวนเท่าเดิม เมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้น นักขุดก็ไม่ยอมที่จะขาย BTC ในราคาที่ต่ำกว่าทุนที่ตนเองจ่ายไป และกระบวนการนี้ก็จะเกิดขึ้นทุกสี่ปี ไม่มีใครสามารถยับยั้งมันได้ถ้าหาไม่ได้รับความยินยอม จาก Node ทุก ๆ Node ซึ่งถ้าจะให้อธิบายต่อก็คงต้องพิมพ์กันเป็นหลายสิบหน้ากระดาษ
แล้วมีเหตุผลอะไรที่ทำให้มั่นใจใน BTC อีก ?
เพราะมันเป็นระบบเงินที่ทุกคนใช้เงินระบบนี้มีสถานะเท่าเทียมกัน ไม่มีใครที่ใช้เงินประเภทเดียวกันกับเราคนใดคนหนึ่ง ที่สามารถจะมีอายัดบัญชีเราได้ หรือยกเลิกธุรกรรมที่เราทำไปได้ มันเป็นเงินที่เป็นเงินของผู้ใช้จริงๆ ไม่มีข้อกำหนดว่าถ้าถอน BTC เกิน 2,000,000 sat แล้วต้องรายงานการถอน ไปยัง satoshi Nakamoto (ผู้สร้าง BTC) และเช่นเดียวกันต่อให้เขาเป็นผู้สร้าง BTC เมื่อ code มันรันไปแล้ว เขาไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เขาก็เป็นแค่ผู้ใช้ธรรมดาคนหนึ่งในระบบเงินชนิดนี้ และต่อให้เขาแก้ไขเปลี่ยนแปลง code และ รัน code ที่เขาแก้ไขใหม่ลงบน Node เขาสามารถทำได้ แต่ว่าจะมีใครจะทำตามเขามั้ย? เพราะถ้าไม่มีใครยอม รัน code ใหม่ตามเขา node ที่เขารัน ก็เท่ากับไม่มีใครคบไม่สามารถใช้การได้.
(ผิดถูกประการใดช่วยชี้แนะด้วยครับ)
และถ้าคุณไม่ใช่bitcoiner แต่คุณฝืนจิตฝืนใจ อ่านจนจบคุณจะบ่นว่า นี่มันเหี้ยไรวะเนี่ย !
ขอบคุณที่ยอมสละทรัพยากรที่มีค่าสุดของมนุษย์(เวลา) เพื่ออ่านบทความของผม
รักนะ จุ๋บ ๆ 555555555555 LOL
#siamstr #SIAMSTR #BTC #bitcoin #bitcoiner #rightshift
#แด่bitcoinerมนุษย์ที่มักถูกมองเป็นคนบ้า #แด่ตัวกูนะคืนนี้ยังไม่หลับไม่นอนทั้งๆที่พรุ่งนี้มีนัดสำคัญ
เคยหน้ามืด ตามัว เชื่อคำลวง
ให้เขาปวง ปั่นหัว เหมือนวัวควาย
เป็นเครื่องมือ อำมหิต คิดทำลาย
กมลหมาย หลงผิด คิดภาคภูมิ
ฟ้องคนจน พ้นทาง อย่างหน้าด้าน
สัญญาผสาน ปลอมแปลง ไม่เกรงข่ม
ต้นหมดสิ้น แต่ดอกเบี้ย คอยทับถม
ใจระบม ฝืนทำไป ได้นานวัน
อ้างคำกล่าว "กูไม่ทำ คนอื่นทำ"
หลอกจิตพร่ำ ผิดชอบ ไม่ตอบฉัน
ตระบัดสัตย์ ปณิธาน ที่เคยปั้น
ผดุงครรภ์ ยุติธรรม... จำเลือนไป
แรงกดดัน บีบคั้น พลันต้องพัก
จำจากหลัก อาชีพ ที่เคยใฝ่
ทนายความ ที่เคยสา บานด้วยใจ
ต้องถอยไกล สามปี ที่จากจร
เมื่อหวนคืน วงการ ผ่านอีกครา
เห็นน้ำตา คนยากไร้ ใคร่ขอพร
ถูกรังแก ถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นอ้อน
ไร้เงินวอน จำยอม ทำไม่เห็น
หลับหูตา ทำเฉย เชยเมยไป
ทั้งรู้ใจ ว่าความจริง ยากบำเพ็ญ
ความยุติ ธรรมหาได้ ยากลำเค็ญ
นี่คือความ จริงแท้ แก่ตาตน
โอ้ท่านเอย ผู้ใฝ่ ศึกษาศาสตร์
กฎหมายชาติ คือหลักปัก ผดุงผล
อย่าหลงเล่ห์ โลกีย์ นี้มืดมน
จงเป็นคน เที่ยงธรรม นำปัญญา
แด่ท่านผู้ ทำหน้าที่ ชี้นำธรรม
โปรดจดจำ หลักสัจจา อย่าหลงหา
จะทนทำ... หรือก้าวข้าม สู่ศรัทธา
ข้าขอลา... มิเป็น เครื่องมือใคร!
"สติ" ก็ เปรียบเทียบ เสมือนกับ "ฝายกั้นน้ำ หรือเขื่อน" ที่มีหน้าที่ในการกักเก็บน้ำ
"ปัญญา ความรู้" เปรียบเทียบเสมือนกับ "น้ำ"
คนแต่ละคนก็จะมีที่กักเก็บน้ำไม่เหมือนกัน ใครมีสติ ไม่ค่อยมั่นคง ไม่จดจ่อ ฟุ้งซ่าน ก็เปรียบเสมือนกับมีฝายเป็นที่กักเก็บน้ำ ใครมีสติ มั่นคง แน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน จดจ่อ ก็เปรียบเสมือน กับมีเขื่อนเป็นที่กักเก็บน้ำ
และไม่เป็นที่แน่นอนว่าที่กักเก็บน้ำของแต่ละคนจะมั่นคงถาวรไปตลอด บางทีที่เห็นว่าบางคนมีเขื่อนไว้กักเก็บน้ำ วันดีคืนดี เขื่อนอาจจะแตกก็ได้หาก คนๆนั้นต้องประสบพบเจอกับอะไร ที่ไปกระทบต่อเขื่อน หรือ ฝาย ของเขาเหล่านั้น เช่น ความรัก ความโลภ ความโกรธ ความอยากครอบครอง ความสูญเสีย ความผิดหวัง ความโดดเดี่ยว
และเช่นเดี่ยว บางคนก็มีเขื่อนเป็นที่เป็นที่กักเก็บน้ำ แต่เวลาที่เขาระบายน้ำออกเขากลับเลือกที่จะระบายน้ำออกโดย เปิดประตูเขื่อนเต็มที่ทุกบาน การทำเช่นนี้ก็จะทำให้คนที่อยู่ใต้เขื่อน ก็ต้องประสบเคาระห์กรรม เจอน้ำบ่าไหลหลากท่วม ฉับพลัน คนเช่นนี้ก็ไม่ต่างกับคนที่มี สติ แน่วแน่ จดจ่อ ไม่ฟุ้งซ่าน ศึกษาหาความรู้ไว้ในตัวได้มาก แต่เมื่อเขานำความรู้ที่มีไปใช้ประโยชน์ กลับไม่นึกคำนึงถึงบุคคลอื่น ว่าจะได้รับความเดือดร้อนอย่างไร ใช้ความรู้ที่ตนมี หาประโยชน์เข้าตนเองเพียงอย่างเดียว ไม่ต่างกับการกดขี่ ข่มเหงคนอื่น แต่การกดขี่มเหงนี้ ไม่ได้ใช้ อำนาจ ไม่ได้ใช้อาวุธ ไม่ได้ใช้ความกลัว แต่ อาจจะใช้แค่ ปากกา กับ กระดาษ.
ผมนำบทความที่ผมเขียนขึ้นเองนี้ต่อยอดต่อ ด้วยการ นำไปให้ gemini(Ai) อ่าน แล้วใส่คำสั่งให้นำเนือความ นัยยะจากบทความของผมแต่งเป็น กลอนแปด ละนี้คือกลอนที่ gemini ประพันธ์ขึ้นมา
สติเฉกเขื่อนแก้ว: นำปัญญาเพื่อมวลชน
๏ ณ ดินแดน ผืนฟ้ากว้าง คราประสงค์
ชีวิตคง ดำเนิน ค่ากว่าไหน
"สติ"นั้นดุจ "เขื่อน"แก้ว คู่ความใน
เก็บ"ปัญญา" ใสสะอาด ดังธารา
บ้างมีฝาย รายล้อม ล่องลอยจิต
ไม่แนบชิด มั่นคง คงห่างหา
ฟุ้งซ่านไป ในกระแส โลกมายา
ปัญญาพา จมดิ่ง มิถึงตรอง
บ้างมีเขื่อน ตระหง่าน กลางใจมั่น
เก็บคุณอนันต์ ความรู้ ไว้คู่ผอง
แน่วแน่แนบ แนบใจ ให้ใจปอง
ไม่ลอยล่อง ตามลม สังคมลวง
แต่เขื่อนแกร่ง แม้มั่นคง มิถาวร
ยามลมร้อน โหมพัด มาติดบ่วง
ราคะโลภ โกรธหลง ซัดถมทวง
เขื่อนอาจล่วง พลันพัง ดังโรมรัน
รักที่ล้ม โลภที่ครอบ โกรธที่ฝัง
สิ่งหวังพัง ความสูญเสีย พาเหหัน
ความโดดเดี่ยว กระแทกจิต คิดผกผัน
เขื่อนแห่งฉันท์ อาจแตกแหลก มิเหลือรอย
บางผู้รู้มี ยอดเขื่อน เพียรสร้างสรรค์
เก็บความรู้ พลันพร้อม ยอมกล่าวถ้อย
แต่ยามใช้ ระบายหมาย ไม่ปล่อย
ประตูร้อย เปิดกว้าง สร้างภัยคน
ดุจกระแส ธารา บ่าหลากท่วม
ชนทุกข์ซวม เดือดร้อน ร่อนสับสน
ใช้ปัญญา เพื่อตน ไม่เห็นผล
กดขี่คน ด้วยปากกา และกระดาษ
ไม่ใช้ดาบ อำนาจฟาด ฟันใคร
แต่ใช้ใจ ที่แกร่งกล้า พาอาจหาญ
เขียนขีดเค้น ความเดือดร้อน รอนรอนราน
จากผู้รู้ ผู้ชาญ พาลกดข่ม
โอ้ท่านชน ทั้งหลาย ผู้ใฝ่รู้
จงตรองดู เขื่อนสติ ที่ตนสร้าง
จะกักเก็บ ปัญญาใส ไว้เคียงข้าง
หรือปล่อยวาง ทำลาย มวลประชา
#siamstr #SIAMSTR #nostr #NOSTR #สติ #ปัญญา #ความรู้
#เขื่อน #น้ำ
ใครๆก็แต่งกลอนแปดได้
ผมได้ลองใส่คำสั่งให้ gemini แต่งกลอนแปด เกี่ยวกับ หลักกาลมสูตร
ด้วยสติปัญญาของหมาจรตัวนี้ ถ้าจะให้แต่งกลอนแปดหลายบทขนาดนี้คงต้องใช้เวลาเป็น เดือน ไม่ก็เป็นปี ผมขอเอาบทกลอนที่ gemini ประพันธ์ขึ้นมาแบ่งปันให้พวกท่านได้อ่าน
อย่าเพิ่งเชื่อ เอยถ้อย คำร่ำขาน
เรื่องเล่าขาน ผ่านหู รู้ทันเล่ห์
สารพัน ข่าวสาร ที่คะเน
อย่าอ่อนเปลี้ย เชื่อง่าย ดายไปเลย
เชื่อสืบมา ว่าดี มีแต่เก่า
ตามเขาเล่า ตามกัน หวั่นเฉลย
ประเพณี บอกไว้ ให้ละเลย
สิ่งเฉลย จริงแท้ แค่มองผ่าน
ข่าวลือเล่า เคล้าตาม ความตื่นเต้น
ใครเด่นดัง อ้างถ้อย ถ้อยคำหวาน
พิศดูเพียง หน้าตา พาเบิกบาน
ล้วนกังวาน เสียงลวง ดวงปัญญา
อ้างตำรับ ตำรา มาอวดอ้าง
เหมือนสร้างทาง ให้หลง ทิศที่มา
ปักษ์ใจเชื่อ แท้จริง สิ่งนำพา
จะก้าวหน้า หรือถอย คอยพินิจ
ตรรกะเอย คาดเดา เอาเองหนอ
เหมือนรอคอย ลมปาก พากลับผิด
ความคาดคะ เนนั้นพลัน บดบังทิศ
หลงไปคิด เชื่อตาม ความรู้สึก
เชื่อเพราะเห็น คนดี มีอำนาจ
หรือสามารถ โวหาร ชวนครุ่นคึก
เชื่อเพราะว่า เป็นครู คู่สำนึก
อย่าลึกซึ้ง หลงไป ในมายา
ยุคสมัย เปลี่ยนผัน โลกผันแปร
ข่าวสารแท้ จริงเท็จ เกลื่อนทั่วหล้า
ในโซเชียลไซเบอร์ โลกมายา
ชวนเชื่อพา ใจให้ปัก ดักปัญญา
เสพข่าวสาร ผ่านหน้า จอสี่เหลี่ยม
เหมือนคล้อยเตรียม หลงตาม ยามอ่อนล้า
แหล่งที่มา ไม่สน คนนำพา
ปล่อยชีวา ให้เขา ชี้ทางเดิน
เมื่อข่าวปลอม ปั่นหัว ชวนหวาดหวั่น
ใจมัวหมอง ผ่องผุด สุดห่างเหิน
ความจริงแท้ เลือนหาย ไม่เผชิญ
ปล่อยดำเนิน ชีวิต ตามสิ่งลวง
กาลามสูตร เตือนจิต คิดไตร่ตรอง
ให้ท่านมอง สองด้าน อย่าติดบ่วง
ใช้ปัญญา ชั่งใจ ให้สมควร
ชีวิตคุณ ใช้หลักนี้ เป็นเข็มทิศบ้างไหมเอย?
#siamstr #nostr #SIAMSTR #bitcoin #BITCOINER #BTC #btc
#อย่าเชื่อใครง่ายนะจ่ะ
คนที่แค่มองตาก็รู้ใจ
ในชีวิตคุณนึกถึงแววตาที่ผมกล่าวมาได้กี่คู่ ? ปัจจุบันคุณยังได้ติดต่อเขาอีกมั้ย ? ติดต่อครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ? สำหรับผมแล้วความแปลกประหลาดของผมคือ ผู้ที่เป็นเจ้าของแววตาที่ผมมองแล้วรู้ใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ ภรรยา แม่ พ่อ พี่ น้อง น้า ป้า บุคคลเหล่านี้เขามีความสำคัญที่ไม่ต่างกับเจ้าของดวงตาคู่ที่มองแล้วรู้ใจซึ่งกันและกัน แต่เรามักจะไม่บอกทุกเรื่องให้บุคคลเหล่านี้ เรื่อง ความมืดมนในจิตใจของเรา เรื่องความทุกข์ ของเรา เราไม่อยากให้พวกเขารู้ว่า เราเลวได้แค่ใหน ? ชั่วได้ขนาดใหน ? และเราตรอมตรมอยู่กับความทุกข์ขนาดใหน ?
สำหรับผมแล้วคนที่ผมแล้วคนที่ผม มองตาแล้วรู้ใจซึ่งกันและกันว่าต่างฝ่ายต่างคิดอะไร คือเพื่อน เพื่อนที่เห็นผมล้มลุกคลุกคลาน กันมาตลอด เพื่อนที่คบกับผมมาตั้งแต่วันที่ผมยังเป็นแค่คนธรรมดาไม่มีศักยภาพ หรือความสำคัญอะไร เพื่อนผมเหล่านี้มักจะติดต่อหาตัวอยาก นัดพบเจอยาก โทรไปก็รับคุยกันคำ สองคำก็วางสาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เมื่อไหร่เพื่อนผมเหล่านี้รับรู้ว่าผมมีปัญหาพวกเขามักจะติดต่อมาเอง
บางครั้งเราก็คิดถึงแววตาเหล่านั้น แววตาที่เราพูดอะไรที่ทุกข์ใจออกไป แล้วรับฟัง สบตา มีสมาธิรับฟังอยู่กับสิ่งที่เราพูด และรู้คำตอบของคนฟังทันทีที่เห็นแววตาตอนนั้น เป็นอะไรที่ ฟิน อิ่มเอม ตื่นตัน ไม่ต่างกับการที่รู้ว่า คนที่เราแอบรักเขาก็รักเรา
ช่วงนี้ผมคงทุกข์ใจมาก เฝ้านึกถึงแววตาเหล่านั้นอยู่ทุกคืน แต่เจ้าของแววตาเหล่านั้นต่างก็แยกย้ายกันไปเติบโต มีหน้าที่ที่รับผิดชอบ ผมอาจจะเป็นคนแปลก ประหลาด ไม่ระบายเรื่องทุกข์ใจ ให้คนในครอบครัวฟัง ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างรู้ใจซึ่งกันและกัน
ผมขอบังอาจใช้คำว่า "เรา" ในบทความนี้แทนตัวผมและพวกท่านทั้งหลายที่สละเวลาอ่านบทความนี้ ผมตระหนักดีว่าบางท่านก็ไม่ได้มีแนวคิดเหมือนผมที่ต้องระบายเรื่องทุกข์ใจ เรื่องที่เราทำไม่ดีไว้ให้เพื่อนสนิทฟังเท่านั้น บางท่านอาจสามารถระบายให้คนใกล้ตัวฟังได้ ซึ่งผมเองก็อยากจะให้มันเป็นแบบนั้น
#siamstr #SIAMSTR #nostr #มองตาก็รู้ใจ
น้องแมวจรผู้สู้ชีวิต ณ กระบี่


"เงินกองโต"
เมื่ออยู่ในมือพนักงานสอบสวนผู้ชั่วช้า ถูกที่ และ ถูกเวลา ความผิดอญาที่เกิดขึ้น(ความชั่ว) ก็จะถูกพัดปลิว หายไปเหมือนฝุ่นที่โดนลมพัด คงเหลือแต่ ท่านยมพบาลที่เงยหน้ามองขึ้นมาจากนรก มองเห็น และจดจำความชั่วนั้นเอาไว้ เพื่อจะรอพิพากษาคนเลวคนนั้นเมื่อเวลาของมันมาถึง แต่ใดๆ แล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่า นรก และ สวรรค์ มีจริงหรือไม่ ? 5555555555 LOL
#siamstr #แด่ความ(อ)ยุติธรรม
อยากจะเขียนเรื่อง CBDC แต่ยังไม่รู้จะเรียบเรียงยังไง ให้คนที่ยังไม่ตื่นรู้ถึงการมาของมันในอนาคต โคตรอันตรายขนาดใหน อยากเขียนด้วยสำนวนที่คนนอกวงการ คริปโต อ่านรู้เรื่อง อยากให้บทความมันเป็นที่กล่าวถึง อยากให้คนไทยตื่น ไม่รู้จะเรียบเรียงอย่างไร ให้ เผ็ด แสบ จี้กลางอก BOT พยายามมาเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว 55555555LOL
#siamstr #SIAMSTR #BTC #btc
#bitcoin #BITCOIN #rightshift
#CBDCว่าที่เงินอุบาทว์ในอนาคต
#เมื่อก่อนรวยยันโคตรพ่อโคตรแม่ยุคCBDCจนยันโคตรลูกโคตรหลาน
สันดาน
จริงๆแล้วคำว่า "สันดาน" ทำไมคนส่วนใหญ่มักจะนำไปใช้กับความหมายในทางที่ไม่ดี ทั้งที่ จริงๆ แล้วคำว่า "สันดาน" หมายถึงนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก นิสัยที่แก้ไม่ได้ เมื่อเข้าใจความหมายของมันแล้วก็จะรู้ถึงความทรงพลังของมัน ยิ่งใช้คู่กับวลี "มาแต่อ้อนแต่ออก" จะยิ่งทรงพลัง ทำไมเราชอบดูถูกดูแคลนคำว่า "สันดาน" โดยมักจะนำไปใช้กับเรื่องนิสัยไม่ดี นิสัยที่น่ารังเกียจ เช่นเรามักจะ พูดกันว่า "คนนี้มันชั่วโดยสันดาน ชั่วมาแต่อ้อนแต่ออก" ทำไมเราถึงไม่พูด ว่า "เขาเป็นพ่อพระเป็นคนดีโดยสันดาน เป็นคนดีมาแต่อ้อนแต่ออก" ผมขอทวงคืนความเป็นธรรม ให้คำว่า "สันดาน" ขอความร่วมมือพี่ๆ น้อง ณ ทุ่งม่วงแห่งนี้ นำคำว่า "สันดาน" ไปใช้ในทางสร้างสรรค์ ไม่จำเป็นต้องนำคำว่า "สันดาน" ใช้ในการดูหมิ่นดูแคลนผู้อื่นเพียงเท่านั้น
สุดท้ายนี้ผมขอทิ้งท้ายว่า
"ถึงผมจะไม่ได้เป็น "คนดี" โดยสันดาน ไม่ได้ดีมาแต่อ้อนแต่ออก แต่ผมก็ "จน "โดยสันดาน "จน" มาแต่อ้อนแต่ออก จน ตั้งแต่เริ่มจำความได้ และที่สำคัญผม "หล่อ" โดยสันดาน"
5555555555555LOL
#siamstr #Siamstr #แมวพิมพ์ #ภาษาไทยมันดิ้นได้ #ภาษาไทยมันช่างสวยงาม #ก็คนมันหล่อโดยสันดานอะนะ #ช่วงนี้ไม่ได้กินยามาหลายวันแล้วอารมณ์เลยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย555555