sunsets

อันนี้ไปเจอมา น่าสนใจมาก อนิเมะงานสร้างก่อนปี 2008 นี่แม่งโหดสัสจริง ๆ Redline (2009) แนวแข่งรถ Madhouse อีกแล้ว พี่เล่นวาดมือ และใช้ 24 เฟรมต่อวินาที มากกว่ามาตรฐานอนิเมะเรื่องอื่นในยุคนั้นที่ใช้ 8 เฟรมต่อวินาที ทั้งเรื่องใช้ไป 100,000 กว่าเฟรม (เริ่มผลิตปี 2002 ถึง 2009 ใช้เวลา 7 ปี) ตัวอย่างจาก Crunchyroll (ภาพแตกหน่อย) อันนี้คลิปอัพใหม่ (HD) #siamstr #siamanimestr เดี๋ยวว่างก่อนเจอกัน 😋

GM Nostr, #siamstr แรร์ไอเทมสุดพิเศษจำนวนจำกัดกำลังเดินทาง ทั้งเซิฟมี 1571 ชิ้นเท่านั้น

white flame after rain #siamstr

มีเพียงคนในอดีตเท่านั้นที่รู้ถึงความจริงของจุดกำเนิดเรื่องราวว่าคืออะไร และจะมีก็แต่คนในปัจจุบันเท่านั้นที่รู้ว่าผลลัพธ์ของเรื่องราวในอดีตเหล่านั้นเป็นอย่างไร นึกภาพออกมั้ย ก่อนจะมาเป็นเกมที่ให้เราสวมบทบาทเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องออกล่ามนุษย์และพิชิตลาสบอสตัวสุดท้ายอย่าง Dracula the Immortal King ซึ่งเกม V-Rising ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Lore ของ The Castlevania เรื่องของสิ่งมีชีวิตแพ้แสงแดด กระเทียม แร่เงิน และออกหากินในเวลากลางคืน มันมาจากตำนานผีดูดเลือดในแถบสแกนดิเนเวีย จากเรื่องราวของ วลาด จอมเสียบ และย้อนได้ไกลจนถึงตำนานพื้นบ้านในยุคเมโสโปเตเมียเมื่อ 5000 พันกว่าปีก่อนนู้นเลย ในยุโรปยุคกลาง ถึงกับเคยจริงจังในการออกตามล่าคนที่ถูกมองว่าเป็นแวมไพร์ตามนิยาม พอ ๆ กับการล่าแม่มด ซึ่งมันมาจากการหาสาเหตุของปัญหาการตายของปศุสัตว์ในหมู่บ้านไม่ได้ ว่าทำไมอยู่ ๆ สัตว์ที่เลี้ยงไว้ถึงล้มตายเป็นจำนวนมากแบบไม่มีสาเหตุ ซึ่งผลลัพธ์ของเรื่องก็ไปตกกับศพของคนตายในป่าช้าที่จะถูกขุดขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่าร่างของคนที่ตายไปแล้วกลายเป็นแวมไพร์หรือเปล่า มันมีพิธีกรรมอีกมากมายที่ถูกนำมาใช้เพื่อการยับยั้งการออกอาละวาดของแวมไพร์ ทั้งการนำเอาลิ้มไม้ทำจากไม้ชนิดเดียวกันกับที่ใช้ทำไม้กางเขนที่พระคริสต์ถูกตรึงไปวางไว้ข้าง ๆ ศพของคนตายก่อนการฝัง การนำเอากระเทียมใส่ในปากของศพที่ถูกมองว่าเป็นแวมไพร์ ไปจนถึงการขุดศพขึ้นมาเผาทำลายทิ้ง จนกระทั้งมีการออกกฎหมายจากราชวงศ์ในเรื่องของการห้ามดูหมิ่นศพคนตาย เนื่องจากแพทย์คนหนึ่งสามารถพิสูจน์หลักฐานได้ว่า แวมไพร์ไม่มีจริง ผู้คนถึงได้เลิกความเชื่อพวกนั้นไป จากตำนานนิทานพื้นบ้าน สู่ความกลัวในสิ่งที่ไม่อาจหาคำตอบ ศพคนตายที่กลายเป็นแพะรับบาป และกลายมาเป็นสื่อบันเทิงทั้งภาพยนตร์ วีดีโอเกม และอื่น ๆ และคนที่ริเริ่มเล่านิทานเรื่องผีดูดเลือดเมื่อ 5000 กว่าปีก่อน คงไม่มีทางเข้าใจว่านิทานที่เขาได้เล่า มันทำให้ผู้พัฒนาเกมใส่ Brutal Mode เพื่อปรับความยากหลังจบเกม 1 รอบมาให้ เพื่อให้เล่นได้ต่อหลัง end game และใส่ achievement สุดท้ายเป็นการจบลาสบอส Dracula the Immortal King ใน Brutal Mode ที่ level design มันห่างจากผู้เล่นถึง 2 level เนี่ย มันผ่านไม่ได้ถ้าต้องเล่นคนเดียว จริง ๆ อันหลังไม่เกี่ยวอะไรกับคนยุคเมโส เรื่องเกมนี่จะบ่นเฉย ๆ เลยเอามาเขียนโยงไปเรื่อย (pain point ของคนชอบเล่นเกม Co-op คือเพื่อนหาย) #siamstr

ไม่ทันไลฟ์อาจารย์มากี่ Ep. แล้วนะ #siamstr

ในขณะที่ความสนใจของผู้คนบนสื่อโซเชียลมีเดียกำลังให้ความสนใจกับคลิปวีดีโอของวัตถุปริศนาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าของไทยว่าเป็น UFO/UAP รึเปล่า? ข้าพเจ้า.. What if?: ถ้าหากว่า MiG-29 ของพม่า สามารถหลุดการสกัดจาก F-16 ของทัพอากาศที่ขึ้นบินจากตาคลีมาได้ และด้วยการทำความเร็วในการบินสูงสุด จะสามารถบินจนถึงคลังน้ำมันพระโขนงภายในเวลาราว ๆ 12 ถึง 25 นาที จะเกิดอะไรตามมาบ้าง? What if?: ถ้าหากว่ากัมพูชาสามารถขน PHL-03 มาติดตั้งบริเวณชายแดนตรงข้ามบุรีรัมย์ โดยถูกปล่อยให้มันเกิดขึ้น PHL-03 จะสามารถยิงได้ไกลถึงกองบิน F-16 ที่โคราช ซึ่งเป็นจุดจอด F-16 จำนวน 2 กองบิน (30 ลำ)(ข้อมูลเก่าปี 2022) จะส่งผลอย่างไรบ้างต่อมุมมองที่มีต่อฝ่ายบริหารขณะนี้? สื่ออาจใช้ล้างสมองผู้คน ส่วนสงครามจะสร้างความชอบธรรมของผู้ปกครอง ขอให้มันเป็นเพียงแค่คำถามภายในหัว

เทพีแห่งราตรีกาล นิกซ์ (อังกฤษ: Nyx; กรีกโบราณ: Νύξ, นุกซ์; ละติน: Nox) ได้ให้กำเนิด ฮิปนอส (อังกฤษ: Hypnos, กรีก: Ὕπνος) ผู้เป็นเทพแห่งการนอนหลับ และน้องชายฝาแฝดของเขา ทานาทอส (อังกฤษ: Thanatos, กรีกโบราณ: θάνατος) เทพแห่งความตายอันสงบ พลังแห่งการนอนหลับของฮิปนอส สามารถสยบได้แม้แต่มหาเทพแห่งโอลิมปัสอย่างซุส ในมหากาพย์ Iliad เมื่อเฮร่าต้องการจะช่วยเหลือพวกชาวกรีกในสงครามกรุงทอย นางได้ขอร้องให้ฮิปนอสช่วยทำให้ซุสหลับไหลเพื่อให้ชาวกรีกมีโอกาสได้เปรียบ ณ ยอดเขาไอด้า เฮร่าได้หลอกล่อให้ซุสหลงไหลด้วยสายตาและความงาม ในขณะที่ฮิปนอสจำแลงกายเป็นนก ใช้พลังแห่งหมอกทำให้ซุสหลับลงในอ้อมกอดของเฮร่า เปิดโอกาสให้เทพองค์อื่น ๆ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือกองทัพของกรีก ขนาดซุสยังพ่ายแพ้ให้กับการหลับไหลของฮิปนอส ทำไมคุณถึงยังไม่นอนครับฮิปน็อกซ์? #siamstr

มีคนเอา Paradise Lost มาแปลไทยแล้ว กำลังอยากรู้เลยว่างานกวีที่อิงเรื่องราวทางศาสนาส่งผลยังไงบ้างต่อคติความเชื่อที่เคยมีอยู่เดิมในยุคใหม่ Time Publishing : สำนักพิมพ์เวลา (รออ่านฉบับตัวอย่าง) / จะมี e-book Veritas Publishing (มีตัวอย่างแล้ว) ปล. สิ่งที่กำลังคิด ขอแทก #siamstr เผื่อว่ามีคนสนใจหนังสือ หรืออยากหาอะไรอ่าน

สำนักพิมพ์เวลา

สำนักพิมพ์เวลา. 23,929 likes · 531 talking about this. Book

Veritas Publishing

Veritas Publishing. 1,687 likes · 4 talking about this. สำนักพิมพ์หน&#...

เดือนแห่งความหลากหลาย, แสวงหาความรู้ที่หลากหลาย #siamstr #Crackersbooks เมื่อ "สหรัฐอเมริกา" ส่งออก "ประชาธิปไตย": การเผยแพร่ประชาธิปไตย NED และไทย พรีวิว: ขนาดเล่มกระทัดรัดพกพาสะดวก (ขนาดประมาณมังงะแต่บางกว่า) 92 หน้า ปล. อีกเล่มที่พรีฯยังไม่มา ปล.2 ไปตำกันได้ที่นี่ https://www.crackersbooks-shop.com/search?page=1&filter=%7B%7D สำหรับใครที่สนใจ และอยากจ่ายเป็น sats ทัก Messenger ไปหาพี่เขาได้เลย

#siamstr

gods ? ในเนื้อเพลงที่มีชื่อตามสวนจากตำนานของพระเจ้าหนึ่งเดียว

No sugar added by default. #siamstr

This is blowing my mind: โปรดใช้วิจารณญาณ, ข้าพเจ้าเพียงเขียนไปตามการข้อสังเกตของข้าพเจ้าเท่านั้น #Siamstr ก่อนที่ภาพจำของเทพเจ้าจากตำนานกรีกอย่าง Zeus จะกลายมาเป็นเทพเจ้าผู้ขี้เล่นและเจ้าชู้แบบที่เราจดจำในปัจจุบัน ตามรากอันเก่าแก่ของงานเขียน Theogony โดย Hesiod เทพเจ้าผู้มีนามว่า Zeus (Δίας / Ζεύς) นั้นเป็นราชันผู้รักษาความยุติธรรมและกฎแห่งธรรมชาติ ผู้ลงทัณฑ์ใครก็ตามที่ล่วงละเมิดกฎแห่งจักรวาล เขาเป็นผู้วางระเบียบใหม่ให้กับสรวงสวรรค์ โลก มหาสมุทร และยมโลก หลังการเอาชนะสงครามกับเหล่าไททัน ถ้าหากว่าคุณนั้นรู้จักกับพระเจ้าแห่งสงครามอย่าง YHWH ของชาวยิวที่ทำลายอียิปต์ด้วยภัยพิบัติ 10 ประการ นำพาชาวยิวออกจากการเป็นทาสสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา และเป็นผู้วางกฎระเบียบสำหรับชนชาติยิวที่เป็นการฐานการดำเนินชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับ Zeus ในจักรวาลของกรีกแล้วมีความโหดเหี้ยมและน่ายำเกรงแทบจะไม่แตกต่างกัน วิวัฒนาการในอัตลักษณ์ของ Zeus จากตัวตนที่น่าหวาดหวั่น ถูกปรับเปลี่ยนให้มีบุคลิกของความเป็นมนุษย์มากขึ้นผ่านความซับซ้อนของอารมณ์ความรู้สึกที่แสดงออกมา ความโกรธ ความขัดแย้งจากภายใน และความสัมพันธ์กับผู้หญิงมากมายเมื่อเข้าสู่ยุคสมัยของกวีอย่าง Homer (จาก Iliad, Odyssey) มันเป็นช่วงที่วรรณกรรมกรีกเริ่มสะท้อนภาพของมนุษยธรรมมากขึ้น จากตัวตนที่เปรียบเสมือนพลังของธรรมชาติเพียงอย่างเดียวจากเดิมก็มีมิติของการเป็นตัวละครที่มีบทบาทมีชีวิตเป็นของตนเองที่จะต้องดำเนินเรื่องราวภายใต้กฎแห่งโชคชะตากับความรู้สึกในแบบของมนุษย์ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนและศาสนาแบบรัฐนั้นถูกลดทอนอำนาจลง Zeus ก็กลายเป็นเพียงสัญลักษณ์ทางวรรณกรรมมากกว่าจะเป็นเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเคยเคารพบูชา นักเขียนอย่าง Ovid ได้นำเอาตำนานการเกี้ยวพาราสีของ Zeus นำมาเขียนอย่างเปิดเผย และทำให้มันกลายเป็นเรื่องสนุก ตลกขบขัน และหลังจากยุค Renaissance เป็นต้นมา ภาพจำของเทพเจ้าจอมเจ้าชู้ก็ปรากฏกลายเป็นภาพจำของ Zeus ตลอดมา สิ่ง ๆ นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่กับเทพเจ้าในระบบของพหุเทวนิยม จากตำนานสู่เทพเจ้าในวรรณกรรมสอนใจ จากบทกวีสู่เทพเจ้าประจำศาสนาแห่งรัฐ ก่อนจะถูกลดทอนลงเป็นเพียงตัวละครสมมติที่สร้างความบันเทิง อะไรคล้าย ๆ กันนี้ยังปรากฏให้เห็นได้แม้แต่จะเป็นพระเจ้าในรูปแบบของเอกเทวนิยมที่ผู้คนต่างเชื่อว่ามาจากรากฐานเดียวกัน ถ้าหากจะลองพิจารณาถึงรูปแบบของคุณลักษณะบางอย่าง และจากมุมมองทางประวัติศาสตร์ เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปที่ไม่เหมือนเดิม คุณลักษณะที่ไม่เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเรานั้นต้องการจะเชื่อว่าพระเจ้าองค์นี้คือพระเจ้าองค์เดียวกันเสมอมาเพียงหนึ่งเดียวก็ตาม สิ่งที่เรียกว่า "พระเจ้า" หรือ "เทพเจ้า" ตัวตนผู้มีอำนาจอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง จากคำตอบของคำถามที่เราใช้เพื่ออธิบายปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เราอธิบายไม่ได้ สู่ตัวตนทางอำนาจที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเผ่าพันธ์เพื่อการยึดโยงเป็นศูนย์รวมความศรัทธา เทพเจ้าของชนเผ่าที่พ้ายแพ้จะกลับกลายเป็นเทพเจ้าชั้นรองซึ่งถูกลดบทบาทลง แม้แต่ Zeus เองที่เคยเป็นเทพเจ้าของกรีก แต่เมื่อโรมันเข้ามามีบทบาทแทนที่ โรมันที่รับเอาคติความเชื่อที่มีต่อ Zeus จากกรีก ก็นำมาเรียกใหม่เป็น Jupiter Jupiter ของโรมันนั้นถูกตั้งให้เป็นเทพเจ้าสูงสุดแห่งรัฐ เทพเจ้าที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็จะต้องทำการบูชาและให้ความสำคัญก่อนเทพเจ้าประจำบุคคลเสมอ ถึงแม้ว่ารัฐจะเปิดกว้างในเรื่องของความศรัทธาส่วนบุคคลที่มีต่อเทพเจ้าอันหลากหลายองค์อื่น ๆ ก็ตาม สิ่งนี้เป็นไปเพื่อความยิ่งใหญ่ยืนยงของรัฐ ประชาชนจึงจำเป็นจะต้องให้ความเคารพบูชาเทพเจ้าของรัฐ จนกระทั้ง Jupiter เทพเจ้าในระบบของพหุเทวะได้พ้ายแพ้ให้กับพระเจ้าเพียงหนึ่งเดียวในรูปแบบของคติความเชื่อแบบเอกเทวะ แต่ไม่ใช่เพราะสงครามการยึดครองหรือการเปลี่ยนผู้ปกครอง แต่จากการมองเห็นการรวมศูนย์อำนาจรูปแบบใหม่ผ่านพลังแห่งศรัทธาใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน "ความศรัทธานั้นทรงพลัง เมื่อมีผู้คนที่ยอมตายได้เพื่อความเชื่อ" ศรัทธาของผู้คนที่บูชาเทพเจ้าสูงสุดแห่งรัฐไปตามหน้าที่ จะสู้อะไรกับศรัทธาจากผู้คนที่ยอมตายได้เพื่อพิสูจน์ความเชื่อของตน และจะดีแค่ไหนหากจะสามารถรวมศูนย์ความศรัทธาอันยิ่งใหญ่นั้น รวมมันเข้ากับการสร้างระบบความเชื่อที่ทรงพลัง ที่ผู้คนพร้อมจะยอมตายได้เพื่อมัน เริ่มแรกนั้นเป็นไปเพื่อการป้องกันความวุ่นวาย ความปรารถนาดีของรัฐที่มีต่อความสงบเรียบร้อยของผู้คน เป็นการลดความขัดแย้งจากความเชื่ออันหลากหลายจึงพยายามจะรวมให้มีศูนย์กลางทางความเชื่อ จนกระทั้งอำนาจที่ได้มานั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะรับผิดชอบ

"บัดนี้ ความศรัทธาคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นหลักฐานแห่งความมั่นใจ ว่าสิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง" - ฮีบรู 11:1

Update AI #siamstr