hipknox_
8 months ago
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า..
โปรดประทานดวงใจชื่นบาน..
ขอพระคุณของพระองค์สัมผัสที่ดวงใจข้า..
และโปรดให้ความทุกข์ตรม..
หลุดออกจากภายในใจของข้า..
โปรดยึดข้าไว้..
ด้วยความรักของพระองค์..
และโปรดให้ข้าได้โบยบินดั่งนกอินทรีย์..
ไปพร้อมกับพระองค์..
ด้วยความรักของพระองค์..
ความจริงร่วมเชิงอัตวิสัยจะทรงพลังเฉพาะเมื่ออยู่ในเครือข่ายของมัน แต่จะไร้ซึ่งพลังเมื่อมันไปอยู่ในเครือข่ายอื่น
คิดและเชื่อมโยงอะไรเรื่อยเปื่อย ทำงานต่อดีกว่า
"Space Elevator" Constantin Tsiolkovsky, 1857-1935
"Spaceline" Japan concept, 2019
เดี๋ยวนะ.. หรือว่าหอบาเบลมันจะเป็น? พวกเขาคิดจะไปอวกาศกันตั้งแต่ยุคเมโสฯกันเลยหรอ (มโน)
ปล. ใครเคยดู Gundam 00 จะได้เห็นคอนเซ็ปต์ของการใช้งานลิฟท์วงโครจรที่ถูกใช้เป็นระบบขนส่งขึ้นอวกาศ และใช้เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
ให้ตายเถอะ ทำงานเยอะเกินไปแน่ ๆ #siamstr

#siamstr
ออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่ค่อยรู้เรื่องของแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์-สังคม-การปกครอง เท่าไหร่ พยายามจะอ่านเท่าที่ทำได้
มันจะมีเรื่องของ Kibbutz - คิบบุตช์ ชุมชนเกษตรกรรมของชาวยิวในอิสราเอลที่คนไทยไปเป็นแรงงานกัน ผมไปอ่านเจอในหนังสือ Israei ของ Noa Tisby เขียนถึงเรื่องที่คุณยายของเธอเล่าว่า เธอเป็นชาวยิวในยุโรปกลุ่ม ๆ แรก ๆ ที่ตัดสินใจอพยพออกจากยุโรปมาตั้งรกรากในปาเลสไตน์ในเวลานั้นเป็นชาวยิวพวกแรก ๆ ที่เริ่มตั้งชุมชนคิบบุตช์จากที่ดินอันรกร้างว่างเปล่าของพื้นที่แถบทะเลทราย "ด้วยอุดมการณ์ของสังคมนิยมอย่างแรงกล้า"
แรก ๆ ที่ผมอ่านผมก็รู้สึกหยี้กับคำว่าสังคมนิยมนะ แต่พอมาเจอ quote จากหนังสือ Political Catoonomics แล้วเปลี่ยนความคิดเลย ในเมื่อแรงงานก็คือทุนประเภทหนึ่ง (ถึงพวกเขาจะไม่เรียกแบบนั้นก็เถอะ) จะแปลกอะไรที่ผู้อพยพ คนที่เคยเป็นกรรมกรหรือเกษตรกรที่มีเพียงแรงงาน ไม่ได้มีเงินทุน จะเริ่มต้นสร้างชุมชนบนผืนดินที่ว่างเปล่ามันก็ต้องร่วมแรงกันสร้างให้เกิดอะไรสักอย่างขึ้นมาก่อน ที่อยู่เพื่ออาศัย การเกษตรเพื่ออาหาร ก่อนที่จะใช้ระบบการแจกจ่ายทรัพยากรที่ได้มาให้กับคนที่ลงแรงไปตามความจำเป็น ฟังดูสมเหตุสมผลดีคือชุมชนเล็ก ๆ มีกระท่อม 1 ถึง 2 หลัง กับครอบครัว 2 ถึง 3 ครอบครัว มันก็สามารถบริหารจัดการทรัพยากรที่หามาได้อย่างจำกัดให้มีความเหมาะสมได้อยู่แล้ว เห็น ๆ กันอยู่ว่าใครทำอะไร หรือใครไม่ทำอะไร (แตกต่างจากสังคมนิยมแบบรัฐเป็นศูนย์กลาง) ซึ่งชุมชนเกิดใหม่จะยังไม่สามารถไปถึงจุดที่มีการเก็บสะสมทรัพยากรได้อย่างเพียงพอจะให้มีระบบเศรษฐกิจแบบปิด เกิดเป็นตลาดการแลกเปลี่ยนระหว่างชุมชนที่จะทำให้ระบบของเงินทุนทำงานในภายหลัง
ซึ่ง skip ต่อมา ชุมชนก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนผ่านมายอมรับระบบทุนนิยมแบบผสมในภายหลังจากสิ่งเร้าภายนอก ถึงแม้ว่าคุณยายของเธอจะไม่ได้ชอบมันเท่าไหร่นัก (เป็นนักอุดมการณ์สังคมนิยมที่ใฝ่ฝันถึงความเท่าเทียมกันในชุมชนอย่างแรงกล้า แต่ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่าประสบการณ์ชีวิตแบบไหนที่ทำให้คุณยายไม่ชอบระบบของทุนนิยม หรืออาจจะเป็นเพราะแนวคิดของ Karl Marx ที่กำลังมีอิทธิพลกับแรงงานในยุคนั้น)
จริง ๆ มีให้คิดต่ออีกหลายมิติเลย ทั้งเป็นช่วงที่โลกเพียงจะออกจาก Gold Standard, ทุนภายนอกจากเงินเฟียตที่ทะลักเข้าไปยังเศรษฐกิจระบบปิดของชุมชนขนาดเล็กแบบฉับพลัน (แบบโอคีฟกับเกาะแยบ?), อื่น ๆ แต่คงต้องอ่านอีกสักหลาย ๆ รอบหน่อย คิดอะไรเพิ่มได้เดี๋ยวไว้ว่าง ๆ มาเขียนอีกแล้วกัน
Lazarus เป็นอนิเมะแนว Sci-Fi จำนวน 13 ตอน ที่ได้สตูดิโอ MAPPA ผู้รังสรรค์งานภาพของอนิเมะชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Chainsaw Man, Shingeki no Kyojin, Jujutsu Kaisen, Vindland Saga และอื่น ๆ มาช่วยสร้างงานภาพ
เนื้อเรื่องย่อ : ในปี 2052 ดร.สกินเนอร์ นักประสาทวิทยาอัจฉริยะเป็นผู้คิดค้นและพัฒนายาที่ใช้ระงับอาการเจ็บปวดได้อย่างสมบูรณ์แบบ "Hapna (ฮาพูน่า)" ทำให้โลกเข้าสู่ยุคแห่งความสงบสุข ก่อนที่เขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเป็นเวลา 3 ปี
หลังการปรากฏตัวอีกครั้ง ดร.สกินเนอร์ ได้แถลงการถึงผลข้างเคียงของการใช้ยาระงับอาการเจ็บปวดที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน โดยผู้ที่มีการใช้ยาตัวนี้ทุก ๆ คนจะเสียชีวิตภายใน 30 วัน และเงื่อนไขในการยับยั้งวิกฤตครั้งนี้คือต้องตามหาตัวของเขาให้เจอเพื่อไปเอายารักษาผลข้างเคียงของฮาพูน่าที่เขาได้เตรียมเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว และเพื่อยับยั้งเหตุการณ์นี้ ทีม Lazarus จึงถูกจัดตั้งขึ้นประกอบไปด้วยสมาชิก 5 คน เพื่อออกตามหาตัวของ ดร.
ดร. สกินเนอร์ "ผมจะเป็นผู้เป่าแตร์ลำดับที่เจ็ด"
ส่วนตัวชอบสไตล์งานภาพของ Cowboy Bepop, Samurai Champloo ของคุณ Wananabe อยู่แล้วคงไม่พลาด แถมดนตรีประกอบฉากเกือบทุกเรื่องล้วนเป็นแนวดนตรี Jazz ผสม ๆ กับ Hip-hop เข้ากันได้ดีกับฉากต่อสู้ภายในเรื่องอีก เปิดมา Ep.1 ก็สนุกเลย แถมพล็อตเรื่องยังคุ้น ๆ เหมือนเกิดขึ้นจริงเมื่อ 2019 ที่ผ่านมานี่เอง
ตัวอย่างจาก Adult Swim
ดูมูฟเม้นซะก่อน แค่เสพงานภาพก็ฟินแล้ว
