🤯🧡 ในภาพคือ เหรียญโบราณจากยุคต่าง ๆ ของยุโรป โดยเฉพาะ เหรียญกรีก โรมัน และไบแซนไทน์ (Byzantine) ซึ่งหลายเหรียญทำจาก ทองคำและเงินแท้ ใช้เป็น “เงินตราจริง” ในสมัยก่อนยุคธนบัตรหรือระบบธนาคารกลาง
มาดูแบ่งตามยุคกันครับ 👇
⸻
🏛️ เหรียญในภาพ (ย่อจากที่เห็น)
1. LEON I Sólido (ค.ศ. 457–474)
→ เหรียญทองคำจากจักรวรรดิไบแซนไทน์ ใช้ในยุคที่กรุงโรมตะวันออกรุ่งเรือง
→ “Solidus” เป็นหน่วยเงินหลัก ใช้กันนานกว่าพันปี เพราะมีเสถียรภาพจากทองคำแท้
2. ANASTASIO I Sólido (ค.ศ. 491–518)
→ ราชวงศ์ต่อจากเลออนที่ 1 เหรียญทองประเภทเดียวกัน
→ ใช้ชำระภาษี การค้า และทหารทั่วจักรวรรดิ
3. GRECIA CLÁSICA (เหรียญกรีกโบราณ เช่น FILIPO II, ALEJANDRO III)
→ เหรียญเงิน “Drachma” หรือ “Tetradrachma” ที่มีใบหน้าของเทพหรือกษัตริย์
→ ใช้แพร่หลายทั่วทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถือว่าเป็น “reserve currency” ของโลกยุคนั้น
4. MACEDONIA, PERSIA ฯลฯ
→ เป็นเหรียญยุคก่อนโรมัน สะท้อนยุคที่อำนาจเปลี่ยนมือแต่ “เงินโลหะมีค่า” ยังเป็นตัวแทนมูลค่าเหมือนเดิม
⸻
💰 มุมมองทาง “ประวัติศาสตร์การเงิน”
• เหรียญเหล่านี้คือ “sound money” หรือ “เงินแข็ง” — มี มูลค่าจากเนื้อโลหะจริง (intrinsic value)
• แต่ข้อเสียคือ ไม่สะดวกในการเคลื่อนย้าย และ ควบคุมได้โดยรัฐหรือกษัตริย์
ถ้าจะให้เห็นภาพวิวัฒนาการของเงิน อาจแบ่งเป็นยุค ๆ ได้ดังนี้
🪙 1. ยุคเงินแท้ (Commodity Money)
ช่วงแรกของประวัติศาสตร์
คนใช้ ทองคำ เงิน และทองแดงจริง ๆ เป็น “เงิน”
→ เช่น เหรียญที่ Nut ถ่ายมานั่นแหละ — มีค่าเพราะมัน “เป็นทองคำจริง”
ถ้าในมือมีทอง 1 เหรียญ = มีมูลค่าจริงในตัวเอง
⸻
💵 2. ยุคธนบัตรที่ “แทนทอง” (Gold-backed money)
ต่อมา พอทองคำหนัก พกยาก
คนเริ่มฝากทองไว้กับคลัง แล้วออก “ใบรับฝาก” หรือ “ธนบัตร” มาแทน
→ ธนบัตร 1 ใบ = ตัวแทนของทองคำจริงที่ฝากไว้
เช่น 1 ดอลลาร์ = แลกทองได้ 1/35 ออนซ์
นี่คือระบบที่เรียกว่า
“Gold Standard” (มาตรฐานทองคำ)
⸻
🧾 3. ยุค Fiat Money (เงินกระดาษล้วน)
ต่อมา รัฐบาลเริ่ม “พิมพ์ธนบัตรเกินทอง” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
จนสุดท้ายปี 1971 — สหรัฐ (ภายใต้ประธานาธิบดี Nixon)
ประกาศเลิกผูกค่าเงินกับทองคำโดยสิ้นเชิง
หลังจากนั้น:
เงินดอลลาร์ และเงินทุกสกุลในโลก
“ไม่มีทองคำหนุนหลัง” อีกต่อไป
มีค่าแค่เพราะ “รัฐบาลประกาศให้มีค่า”
คำว่า “Fiat” มาจากภาษาละติน แปลว่า “ให้มันเป็นเช่นนั้น”
คือ รัฐบาลพูดว่า “นี่คือเงินนะ” แล้วทุกคนต้องยอมรับ
⸻
📉 4. ผลของระบบ Fiat
• รัฐสามารถ “พิมพ์เงิน” ได้ไม่จำกัด
• ค่าเงินจึง “เสื่อม” ตามเวลา (เงินเฟ้อ)
• คนเก็บเงินสดจะ “จนลง” เงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัว
⸻
₿ มุมมองของ Bitcoiner
Bitcoiner จะมองเหรียญเหล่านี้ด้วยความเคารพ เพราะมันคือ “เงินจริง” รุ่นบุกเบิก —
แต่ก็จะมองว่าเป็น “proto-Bitcoin” หรือ “ต้นแบบของเงิน sound money” ที่สุดท้ายถูกทำลายโดยระบบรวมศูนย์ เช่นเดียวกับทองในยุคต่อมา
ดังนั้น bitcoiner เห็นว่า:
“สิ่งเหล่านี้คือบทเรียนของเงินรุ่นก่อน ที่ถูกควบคุมและสูญเสียเสรีภาพ — Bitcoin คือวิวัฒนาการของ sound money ที่เป็นดิจิทัลและอิสระจากรัฐ”
🧡🧡🧡#siamstr
Login to reply
Replies (1)
