คนเรา.. ถ้าทำดี แล้วพูดให้คนอื่นฟังว่าตัวเองทำดี โพสลงโซเชี่ยล พยายามสื่อสารว่าเราเนี่ย ตั้งใจทำดีนะ อันนี้คือ จะแยกเป็น การทำดีจริงๆ หรือ การ PR ตนเอง? ในแง่ว่าทำดีแล้วบอกต่อ ก็เหมือนบอกบุญป่ะ แต่จะคิดอีกอย่างก็ เอ็งทำดีอะไรก็ช่าง รู้แค่ตัวเองก็พอแล้วปะ ไปเที่ยวบอกคนนั้นคนนี้ว่าตัวเองทำดี ลงคลิปยูทูป โพสเฟสบุ๊ค อันนั้นดูโปรโมตตัวเองไปหน่อยไหม อืม.. แต่ว่านะ บางคนเขาทำเป็นหลัก 70-80 ปี ผลลัพท์มันก็ได้แหละว่าเราเชื่อหมดใจในความดีของเขาแล้วไม่ได้ตั้งคำถามกับความดีที่ไม่เมคเซ้นในบางเรื่องด้วย บางครั้งทำดีมากๆเข้า ผู้คนรับรู้มากๆเข้า นอกจากจะกลายเป็นเพียงการชื่นชม มันยังอีโวเป็นลัทธิคลั่งบุคคลด้วย มีใครตอบเราได้บ้างไหม สรุป การทำดีแล้วบอกต่อ คือการPR หรือการมีเจตนาที่ดี บอกบุญเฉยๆ ? #siamstr image

Replies (9)

ในสายของเด็กการตลาด ตีความว่า การทำดีก็ทำไป แต่เมื่อไหร่ที่เอาไปบอกต่อ ไปโพส ก็คือ การโปรโมต เป็นการพยายามทำให้ชาวบ้านรู้ว่าฉันเนี่ยเป็นคนดีนะ จงชื่นชอบและสนับสนุนฉัน ถ้าคิดไม่ออก ดูกรณีพิมรี่พายได้ การทำคอนเท้นคอนใจเอยใดๆ ไทม์มิ่งค่อนข้างเป๊ะ เป็นกระแสเลยแหละ
โอ้ รู้จักของดีแบบนี้ด้วยเหรอคะ รสนิยมไม่ธรรมดา 🤭
สักวันต้องเป็นวันของประชาชนครับ | | |
มันก็ self interest ของเขานี่ ไม่ชอบใจก็เลิกติดตาม กดซ่อน กดบล็อก
ผมว่าเดี๋ยวนี้มันแยกยากอะมั้ง เพราะ social media มันเข้าถึงง่าย ทำไรนิดหน่อยก้โพสละ ดีป่าวไม่รู้ แต่อย่างน้อยมันก้เป็น achievement อันนึงที่เค้าก้ออยากจดจำและแบ่งปันด้วยมั้ง แต่บางทีพอคนดังมีแสง มันก้มีคนอื่นมาตามติดชีวิตด้วย มา repost ด้วจ จนมันอาจดูเลยเถิดไปหน่อย มั้ง แต่ถ้าในสมัย cold war อันนี้ผมเห็นด้วยนะว่าดูยังไงก้ PR propaganda และ IO เพราะ “ทั่นผู้นั้น” มีทุกอย่างอยู่ในมืออะ แม้จะเชื่องบ้างไม่เชื่องบ้างเผลอๆแว้งกัดเจ้าของด้วย แต่คือมันก้ทำได้ไง (ส่วนตัวผมว่าตอนนั้นมันต้องทำแล้วด้วย เพราะถ้าไม่ทำ ทุกคนก้ไม่รอด “ทั่นผู้นั้น”ก้ไม่รอด) และมันดันดีเกินไปจนตอนนี้มันเป็นการบูชาตัว “ทั่นผู้นั่น” ไปละ เมื่อเทียบกับคนธรรมดาๆ ที่ทำไรไม่ค่อยบอกกัน อย่างมากก้รู้กันแค่ในละแวกใกล้เคียง ดีหน่อยก้ประกาศลงวิทยุท้องถิ่น
ไม่เชิงค่ะ บางอย่างก็ไม่สามารถบล็อกได้ เช่น รูปที่มีทุกบ้าน.. 😁