“ระบบการเงินของตัวเอง” ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ในวันนี้ เพียงแค่เรามี MiniPC เครื่องเล็ก ๆ เพียงเครื่องเดียว ก็สามารถเริ่มต้นเป็นเจ้าของ “โหนดบิตคอยน์” ได้แล้ว
วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่า ถ้าคุณอยากติดตั้งโหนดบิตคอยน์เต็มรูปแบบจะต้องมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ?
อันดับแรกคือการรัน Bitcoin Full Node
ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่เชื่อมตรงกับเครือข่ายบิตคอยน์ มันทำให้เราสามารถตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดด้วยตัวเอง
รู้ว่าธุรกรรมนี้ถูกต้องไหม บล็อกนี้มาจากไหน
โดยไม่ต้องเชื่อใครเลยครับ
ในการรัน Bitcoin Full Node สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า
คือ พื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลของบล็อคเชนทั้งหมด
เพราะเมื่อเราเริ่มใช้งานโหนด เครื่องของเราจะต้อง ซิงค์ข้อมูลย้อนหลังทั้งหมด
ตั้งแต่บล็อคแรกในปี 2009 เลยครับ (นานมาก😱)
หมายเหตุ: ปริมาณข้อมูลเหล่านี้มีขนาดใหญ่มาก
ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ ~800 GB และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน
ดังนั้นเพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้งานระยะยาว
ผมแนะนำให้มีพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างน้อย 2 TB (ถ้ารันแต่โหนดอยู่ได้ 10ปี)
โดยเฉพาะถ้าใช้ SSD จะช่วยให้ซิงค์เร็วขึ้นและทำงานได้ราบรื่นกว่าครับ
เมื่อพร้อมแล้ว ตัวเลือกของ Bitcoin Full Node ที่นิยมใช้ก็มีหลากหลายครับ
🔹 Bitcoin Core – ตัวหลักจากทีมพัฒนาดั้งเดิม เสถียร และรองรับทุกมาตรฐาน
🔹 Bitcoin Knots – ตัวพัฒนาแยกจาก Core พร้อมฟีเจอร์เสริม
🔹 btcd – อีกทางเลือกหนึ่งเขียนด้วย Go เหมาะกับสาย dev ที่ชอบทดลองและปรับแต่ง
เมื่อคุณรัน Bitcoin Full Node ได้แล้ว
นั่นแปลว่าเราสามารถทำธุรกรรมได้ด้วยตัวเอง
ไม่ต้องผ่านโหนดคนอื่นแล้วครับ
ปลอดภัยขึ้น และที่สำคัญมี ความเป็นส่วนตัว เพราะไม่ต้องเผย address หรือ public key ให้ใครเห็น
---
ถัดมาคือ Lightning Node
ถ้าหากเราอยากให้การรับ-ส่งบิตคอยน์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ ใช้ซื้อกาแฟได้ แบบเดียวกับการโอนเงินผ่านแอปธนาคาร
เราต้องใช้ Lightning Network ครับ
Lightning คือเครือข่ายเสริมแบบ off-chain
ที่ช่วยให้การส่งบิตคอยน์เกิดขึ้นได้ทันที
ไม่ต้องรอการตรวจสอบจากทั้งเครือข่ายเหมือนธุรกรรมปกติ
เหมาะกับร้านค้า หรือการใช้งานที่ต้องทำธุรกรรมบ่อย ๆ ขนาดธุรกรรมไม่ใหญ่มาก
เพราะทั้งเร็ว ทั้งค่าธรรมเนียมต่ำ
ซอฟต์แวร์ที่ใช้กับ Lightning มีให้เลือก เช่น
🔸 LND – ใช้งานง่าย มีเอกสารครบ เหมาะกับผู้เริ่มต้น
🔸 Core Lightning (CLN) – เบา ปรับแต่งได้หลากหลาย เหมาะกับ dev ที่อยาก custom
---
นอกจากนี้ ถ้าอยากให้โหนดของเรามีลูกเล่นที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ก็ยังมีเครื่องมือเสริมอีกมากมายให้เลือกใช้ดังนี้ครับ
🔹 Electrum Server – ให้ wallet อย่าง Electrum หรือ Sparrow เชื่อมตรงกับโหนดของเราเอง
🔹 Explorer ส่วนตัว – เช่น BTC RPC Explorer หรือ mempool.space ที่ให้คุณดู block, mempool, ธุรกรรมต่าง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งเว็บคนอื่น
🔹 Web Dashboard – จัดการ node ผ่านหน้าเว็บได้สบาย ๆ เช่น Ride the Lightning, ThunderHub หรือ LNDg
---
แล้วถ้าคุณอยากให้บริการ wallet กับเพื่อน ๆ ชุมชนรอบตัวเรา หรืออยากเปิดรับบิตคอย์ในร้านค้า?
เราสามารถใช้:
🔸 LNbits – สร้างระบบหลายบัญชี รองรับผู้ใช้หลายคน
🔸 BTCPay Server – รับบิตคอยน์แบบไม่ต้องผ่านตัวกลาง ใช้งานในร้านค้าหรือเว็บไซต์ได้ทันที
---
ทั้งหมดนี้... คือสิ่งที่เราสามารถติดตั้งได้
บน MiniPC เครื่องเล็ก ๆ แค่เครื่องเดียว
แค่มี Bitcoin Full Node, Lightning Node และเครื่องมืออื่น ๆ เราก็พร้อมจะเป็นเจ้าของระบบการเงินของตัวเอง” อย่างแท้จริงครับ
---
ถ้าใครสนใจ อยากลองตั้งโหนดด้วยตัวเอง
คอมเมนต์ไว้ หรือทักมาคุยกันได้เลยครับ
ไว้กันใหม่ครับ
#siamstr
ในวันนี้ เพียงแค่เรามี MiniPC เครื่องเล็ก ๆ เพียงเครื่องเดียว ก็สามารถเริ่มต้นเป็นเจ้าของ “โหนดบิตคอยน์” ได้แล้ว
วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่า ถ้าคุณอยากติดตั้งโหนดบิตคอยน์เต็มรูปแบบจะต้องมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ?
อันดับแรกคือการรัน Bitcoin Full Node
ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่เชื่อมตรงกับเครือข่ายบิตคอยน์ มันทำให้เราสามารถตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดด้วยตัวเอง
รู้ว่าธุรกรรมนี้ถูกต้องไหม บล็อกนี้มาจากไหน
โดยไม่ต้องเชื่อใครเลยครับ
ในการรัน Bitcoin Full Node สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า
คือ พื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลของบล็อคเชนทั้งหมด
เพราะเมื่อเราเริ่มใช้งานโหนด เครื่องของเราจะต้อง ซิงค์ข้อมูลย้อนหลังทั้งหมด
ตั้งแต่บล็อคแรกในปี 2009 เลยครับ (นานมาก😱)
หมายเหตุ: ปริมาณข้อมูลเหล่านี้มีขนาดใหญ่มาก
ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ ~800 GB และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน
ดังนั้นเพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้งานระยะยาว
ผมแนะนำให้มีพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างน้อย 2 TB (ถ้ารันแต่โหนดอยู่ได้ 10ปี)
โดยเฉพาะถ้าใช้ SSD จะช่วยให้ซิงค์เร็วขึ้นและทำงานได้ราบรื่นกว่าครับ
เมื่อพร้อมแล้ว ตัวเลือกของ Bitcoin Full Node ที่นิยมใช้ก็มีหลากหลายครับ
🔹 Bitcoin Core – ตัวหลักจากทีมพัฒนาดั้งเดิม เสถียร และรองรับทุกมาตรฐาน
🔹 Bitcoin Knots – ตัวพัฒนาแยกจาก Core พร้อมฟีเจอร์เสริม
🔹 btcd – อีกทางเลือกหนึ่งเขียนด้วย Go เหมาะกับสาย dev ที่ชอบทดลองและปรับแต่ง
เมื่อคุณรัน Bitcoin Full Node ได้แล้ว
นั่นแปลว่าเราสามารถทำธุรกรรมได้ด้วยตัวเอง
ไม่ต้องผ่านโหนดคนอื่นแล้วครับ
ปลอดภัยขึ้น และที่สำคัญมี ความเป็นส่วนตัว เพราะไม่ต้องเผย address หรือ public key ให้ใครเห็น
---
ถัดมาคือ Lightning Node
ถ้าหากเราอยากให้การรับ-ส่งบิตคอยน์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ ใช้ซื้อกาแฟได้ แบบเดียวกับการโอนเงินผ่านแอปธนาคาร
เราต้องใช้ Lightning Network ครับ
Lightning คือเครือข่ายเสริมแบบ off-chain
ที่ช่วยให้การส่งบิตคอยน์เกิดขึ้นได้ทันที
ไม่ต้องรอการตรวจสอบจากทั้งเครือข่ายเหมือนธุรกรรมปกติ
เหมาะกับร้านค้า หรือการใช้งานที่ต้องทำธุรกรรมบ่อย ๆ ขนาดธุรกรรมไม่ใหญ่มาก
เพราะทั้งเร็ว ทั้งค่าธรรมเนียมต่ำ
ซอฟต์แวร์ที่ใช้กับ Lightning มีให้เลือก เช่น
🔸 LND – ใช้งานง่าย มีเอกสารครบ เหมาะกับผู้เริ่มต้น
🔸 Core Lightning (CLN) – เบา ปรับแต่งได้หลากหลาย เหมาะกับ dev ที่อยาก custom
---
นอกจากนี้ ถ้าอยากให้โหนดของเรามีลูกเล่นที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ก็ยังมีเครื่องมือเสริมอีกมากมายให้เลือกใช้ดังนี้ครับ
🔹 Electrum Server – ให้ wallet อย่าง Electrum หรือ Sparrow เชื่อมตรงกับโหนดของเราเอง
🔹 Explorer ส่วนตัว – เช่น BTC RPC Explorer หรือ mempool.space ที่ให้คุณดู block, mempool, ธุรกรรมต่าง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งเว็บคนอื่น
🔹 Web Dashboard – จัดการ node ผ่านหน้าเว็บได้สบาย ๆ เช่น Ride the Lightning, ThunderHub หรือ LNDg
---
แล้วถ้าคุณอยากให้บริการ wallet กับเพื่อน ๆ ชุมชนรอบตัวเรา หรืออยากเปิดรับบิตคอย์ในร้านค้า?
เราสามารถใช้:
🔸 LNbits – สร้างระบบหลายบัญชี รองรับผู้ใช้หลายคน
🔸 BTCPay Server – รับบิตคอยน์แบบไม่ต้องผ่านตัวกลาง ใช้งานในร้านค้าหรือเว็บไซต์ได้ทันที
---
ทั้งหมดนี้... คือสิ่งที่เราสามารถติดตั้งได้
บน MiniPC เครื่องเล็ก ๆ แค่เครื่องเดียว
แค่มี Bitcoin Full Node, Lightning Node และเครื่องมืออื่น ๆ เราก็พร้อมจะเป็นเจ้าของระบบการเงินของตัวเอง” อย่างแท้จริงครับ
---
ถ้าใครสนใจ อยากลองตั้งโหนดด้วยตัวเอง
คอมเมนต์ไว้ หรือทักมาคุยกันได้เลยครับ
ไว้กันใหม่ครับ
#siamstr