ผมทำมานานแล้วจำไม่ได้ว่ากี่ปีแต่เกิน 1 ปี ไม่ได้สม่ำเสมอทำตามความพร้อม และโอกาสของร่างกายแต่ก็พยายามทำ เกือบทุกวัน ทำเกือบ 1 ชั่วโมง ส่วนใหญ่จะทำประมาณ 3:30 - 4:30 รู้สึกได้พักจริงที่การนอนให้เรา ไม่ได้มันเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลก แต่พยายามระลึกไว้ที่กาย เพราะมัน คือการเกิดและดับของจิตสังขาร บางวันก็นั่งไม่สงบเลยฟุ่งอะไรก็ไม่รู้ ใจมันอยากเลิกนั่งไปทำอย่างอื่น บางวันสงบนิ่งนั่งได้เรื่อย ๆ แต่เวลาจำกัด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่เวลาออกจากสมาธิ บางครั้งมองที่ขาเวลาเหยียด มันดูชืด ๆ ยังกะศพ ที่แน่ ๆ เวลาฟังหลวงปู่ท่านเทศน์เกี่ยวกับ การปฏิบัติมันเข้าใจมากขึ้นเองเรื่อย ๆ ไม่รู้เพราะจิตมันเอามาเทียบกับตอนปฏิบัติ หรือไม่ เมื่อนานมาแล้วซึ่งตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว ตอนนั้นทำเล่นในรถยนต์ตอนเช้า จิตรวมเข้าสู่ความสงบมาก ๆ มันว่าง ๆ เหมือนเป็นอีกโลกจริง ๆ แต่มีสติสมบูรณ์ อยากรู้อารมณ์ทางกาย มันเลือกได้สัมผัสค่อยข้างชัดเจน ไม่ว่าเสียง แสง แต่มันอยู่ห่างออกไป แต่เราเลือกที่จะรับรู้หรือไม่ก็ได้ เคยถามผู้สอนธรรมะท่านหนึ่งได้คาดเดาว่า น่าจะเผลอเข้าอัปนาสมาธิ หากท่านใดมีคำแนะนำเพื่อพัฒนาต่อไป จะขอบคุณมากครับ

Replies (2)

แอด เห็น ผู้หญิง สวยๆ ไม่สวย ไปแล้ว เคยฟัง ของ หลวงปู่ ปราโมทย์ มั่ง ท่านบอกว่า อาบน้ำ คือ ปลง สังขาร พอ ใส่ชุดใหม่ คือ บังสกุล ให้ระลึกแบบนี้จะไปไว เนื้อความอาจไม่ตรงนะ จำได้คร่าวๆ
จะนอมจิตไปแบบนั้นเพื่อเจริญอสุภะกรรมฐานก็ได้ แต่ของผมมันเห็นเองอาจจะเพราะนั่งนานไป จิตมันคุ้นชินกับนาม และขัดสมาธินานเลือด เลี้ยงขาน้อย พอออกจากสมาธิแล้วเหยียดขา ขามันเลยดูชืด ๆ เหมือนก่อนอะไรก็ไม่รู้เหมือน ศพเลย แต่ยังไม่ถึงขันเห็นมันเน่าแบบพระอริยสงฆ์