GM #siamstr 🧠 The Power of Positive Thinking – Norman Vincent Peale หนังสือเล่มนี้มีรากฐานสำคัญมาจากหลักคำสอนในพระคัมภีร์ไบเบิล(The Bible) ของคริสต์ศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนด์ สอนให้เราคิดบวก ผมขอสรุปเนื้อหา ดังนี้
1. เชื่อมั่นในตัวเอง: ผู้เขียนสอนให้เริ่มต้นจาก “ความเชื่อในศักยภาพของตนเอง” เพราะความสงสัยคือศัตรูของความสำเร็จ การพูดกับตัวเองด้วยคำยืนยันบวก (Positive Affirmation) เช่น “ฉันทำได้” จะสร้างพลังในใจ ควรฝึกจินตนาการถึงความสำเร็จซ้ำ ๆ เพื่อโปรแกรมจิตใต้สำนึกให้กล้าเผชิญปัญหา ความมั่นใจไม่ใช่สิ่งที่มีโดยกำเนิด แต่สร้างได้จากการคิดและการฝึกฝนทุกวัน
2. ใจที่สงบสร้างพลัง: พลังใจเกิดจากจิตที่สงบและไม่ว้าวุ่น การฝึกสมาธิ สวดมนต์ หรือใช้เวลาสงบคนเดียว ช่วยคืนพลังและความชัดเจนทางความคิด เมื่อใจสงบจะควบคุมอารมณ์และตัดสินใจได้ดีขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าความวุ่นวายในใจคือต้นเหตุของความเหนื่อยล้า และการกลับมาหาความเงียบคือ วิธีชาร์จพลังที่แท้จริง
3. จะมีพลังงานคงที่ได้อย่างไร: พลังชีวิตมาจาก “ทัศนคติที่ถูกต้อง” ไม่ใช่ร่างกายเพียงอย่างเดียว การมองทุกอย่างในแง่ดีจะช่วยให้ร่างกายตอบสนองอย่างมีพลัง ผู้เขียนแนะนำให้หลีกเลี่ยงคนหรือสื่อที่ส่งพลังลบ และเลือกอยู่กับสิ่งที่เติมพลังใจแทน การพักผ่อนที่แท้จริงคือการปล่อยวางทางจิตใจ
4. ลองใช้พลังของการสวดภาวนา: การสวดภาวนาไม่ใช่เพียงพิธีกรรม แต่คือการเชื่อมต่อกับพลังสูงสุดที่อยู่ภายใน การภาวนาอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ใจนิ่ง มั่นคง และมีความหวังใหม่ ผู้เขียนเสนอให้เริ่มต้นวันด้วยคำภาวนาแห่งความขอบคุณ เพราะ “ศรัทธา + การภาวนา” จะสร้างแรงผลักดันทางบวกมหาศาลในชีวิต
5. จะสร้างความสุขให้ตัวเองได้อย่างไร: ความสุขไม่ใช่สิ่งที่ต้องค้นหา แต่เป็นสิ่งที่ “สร้างได้” จากภายใน การให้อภัย การรู้จักพอ และการมองด้านดีในทุกเหตุการณ์คือรากฐานของความสุขแท้จริง คนที่คิดบวกจะมองทุกปัญหาเป็นโอกาส ผู้เขียนแนะให้ยิ้มแม้ในวันที่เหนื่อย เพราะรอยยิ้มเปลี่ยนพลังในใจได้จริง
6. เลิกโกรธและเลิกกังวล: ความโกรธและความกังวลทำลายพลังชีวิตมากที่สุด การให้อภัยคือการปลดปล่อยตัวเอง ไม่ใช่การยอมแพ้ ผู้เขียนเสนอเทคนิค “หายใจลึก–นับหนึ่งถึงสิบ” ก่อนตอบสนองอารมณ์ลบ และใช้การสวดภาวนาเพื่อลดความกลัวภายใน เมื่อควบคุมอารมณ์ได้ จะเกิดสมดุลทางจิตใจ
7. ฝันให้ไกล ไปให้ถึง: ทุกสิ่งเริ่มจากความฝัน ผู้เขียนย้ำให้ตั้งเป้าหมายใหญ่และชัดเจน จากนั้นแบ่งเป็นขั้นตอนเล็ก ๆ ที่ทำได้จริง การเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของตัวเองคือพลังดึงดูดโอกาส ฝันบวกต้องมาพร้อมการลงมือทำ และอย่าปล่อยให้ความกลัวมาขวางความฝัน
8. ฉันไม่เชื่อในความพ่ายแพ้: ความล้มเหลวเป็นเพียงสถานการณ์ ไม่ใช่ตัวตน ผู้เขียนชี้ว่าคนที่คิดบวกจะไม่ยอมแพ้ แต่เรียนรู้และกลับมามีแรงกว่าเดิม เขาแนะนำให้ใช้คำพูดกับตัวเองว่า “ฉันจะพยายามอีกครั้ง” ทุกครั้งที่ผิดพลาด เพราะพลังของการไม่ยอมแพ้คือรากของความสำเร็จทุกชนิด
9. จะเลิกนิสัยวิตกกังวลได้อย่างไร: การกังวลเกิดจากการคิดซ้ำในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น วิธีแก้คือหันจิตไปที่ “การกระทำ” และ “ศรัทธา” แทน การเขียนสิ่งที่กังวลลงกระดาษ แล้วเผาทิ้ง เป็นการปล่อยทางจิตใจอย่างหนึ่ง ผู้เขียนย้ำว่าความเชื่อในพลังบวกจะดับความกลัวและความวิตกได้จริง
10. พลังในการแก้ปัญหา: ปัญหาเป็นเครื่องทดสอบศรัทธาและสติปัญญา ผู้เขียนเสนอให้หยุดก่อนตอบสนอง หายใจลึก และขอแนวทางจากพระเจ้าในใจ การมองปัญหาอย่างสร้างสรรค์จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ และหลายครั้งทางออกอยู่ในสิ่งเรียบง่ายที่สุด การมีศรัทธาจะทำให้ไม่จมในความทุกข์
11. จะใช้ศรัทธาเพื่อการบำบัดได้อย่างไร: ศรัทธามีพลังเยียวยาร่างกายและจิตใจ การเชื่อในพลังแห่งความรัก ความเมตตา และการให้อภัยสามารถลดความเครียดและโรคทางใจได้ ผู้เขียนเล่าว่าคนจำนวนมากหายจากโรคเพราะเปลี่ยนใจให้เป็นบวก ความเชื่อจึงเป็นยารักษาใจที่ดีที่สุด
12. เมื่อพลังชีวิตลดลง ลองปฏิบัติตามเคล็ดลับเพื่อสุขภาพนี้: เคล็ดลับคือการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และใช้เวลาท่ามกลางธรรมชาติ การปล่อยวางสิ่งที่ควบคุมไม่ได้จะช่วยให้ใจฟื้นตัวเร็ว ผู้เขียนย้ำให้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความขอบคุณ และจบวันด้วยการให้อภัย เพื่อชำระจิตใจให้เบา
13. เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน: สิ่งที่เราคิดคือสิ่งที่เราดึงดูดเข้ามา ผู้เขียนอธิบายว่าการเปลี่ยนมุมมองจากลบเป็นบวกจะเปลี่ยนผลลัพธ์ชีวิตทั้งหมด ใช้คำพูดเชิงบวกแทนคำบ่น ฝึกมองปัญหาเป็นโอกาส และใช้จินตนาการสร้างภาพชีวิตที่ต้องการอยู่เสมอ
14. ผ่อนคลายเพื่อให้มีพลัง: การผ่อนคลายคือหัวใจของประสิทธิภาพ การใช้ชีวิตที่เคร่งเครียดทำให้หมดพลังเร็ว ผู้เขียนแนะนำให้หาเวลานั่งเงียบ ๆ ทุกวัน ปล่อยความคิดฟุ้งซ่าน แล้วพลังจะกลับคืนโดยธรรมชาติ คนที่รู้จักพักคือคนที่รู้จักชนะในระยะยาว
15. ทำอย่างไรให้ผู้คนชอบพอคุณ: ความคิดบวกสะท้อนผ่านรอยยิ้ม น้ำเสียง และท่าทีต่อผู้อื่น ผู้เขียนเสนอให้ “สนใจคนอื่นก่อน” ด้วยความจริงใจ เพราะคนจะรู้สึกถึงความอบอุ่นนั้นได้ การชมอย่างจริงใจและการฟังด้วยใจคือเคล็ดลับสร้างความสัมพันธ์ดี
16. ใบสั่งยารักษาโรคใจ: โรคใจเกิดจากความเครียด ความกลัว และความรู้สึกผิด วิธีรักษาคือให้อภัยตัวเอง และยอมรับว่าทุกคนมีข้อผิดพลาด การภาวนาและการพูดคุยกับพระเจ้าจะช่วยเยียวยาจิตใจ เมื่อใจสงบ ร่างกายและชีวิตทั้งหมดย่อมดีขึ้นตาม
17. จะใช้พลังที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร: พลังสูงสุดในชีวิตคือ “ศรัทธาและความรัก” ผู้เขียนปิดท้ายด้วยการชี้ว่า เมื่อเราวางใจในพระเจ้าและคิดบวกต่อโลก เราจะดึงดูดสิ่งดีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ชีวิตที่มีพลังบวกคือชีวิตที่มีแสงนำทาง และเปลี่ยนทั้งตนเองและคนรอบข้างได้จริง
ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ หนังสือเล่มนี้ ผมชอบ 1 ประโยคในนี้มากๆ คือ “โยนหัวใจของเราข้ามขีดจำกัดไปก่อน แล้วร่างกายของเราจะตามไปเอง”เมื่อใจที่มุ่งมั่น มีศรัทธาในตัวเอง แล้วลงมือทำ ทุกอย่างจะสำเร็จได้ ลองหาอ่านกันดูนะครับ 🙂…ถ้าผมอ่านเล่มไหนเห็นว่าดี มีประโยชน์ ขออนุญาตมาแชร์ให้ชาวทุ่งม่วงอีกนะครับ🙏❤️

