สรุป #BitcoinTalk208 บิตคอยน์แพงไป หรือคุณแค่ยังไม่เข้าใจ?
ในรายการ Bitcoin Talk ตอนที่ 208 นี้ อ. พิริยะ ได้หยิบยกคำถามที่พบบ่อยในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้า โดยเฉพาะหลังจากราคา Bitcoin ได้ปรับตัวสูงขึ้น คำถามหลักคือ Bitcoin มีราคาแพงเกินไปแล้วหรือไม่ และคนตัวเล็กยังมีโอกาสในการลงทุนอยู่ไหม หรือว่า Bitcoin เป็นเรื่องสำหรับคนที่มีเงินมากเท่านั้น และท้ายที่สุด Bitcoin จะไม่ช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเลยใช่หรือไม่
อ. พิริยะ เริ่มต้นการอธิบายจากพื้นฐานเกี่ยวกับหน่วยย่อยของ Bitcoin ความสามารถในการซื้อ Bitcoin แม้จะมีเงินจำนวนน้อย และแนวคิดเกี่ยวกับการ Adoption ของ Bitcoin ในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงความแตกต่างระหว่าง "เงินสร้างง่าย" กับ "เงินสร้างยาก" เพื่อทำความเข้าใจถึงมุมมองต่อความมั่งคั่งและมูลค่าของเงิน
การแข่งขันระหว่างเงินในอดีต เช่น การเปลี่ยนจากเปลือกหอยมาเป็นเกลือหรือทองคำ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่การยอมรับทางเทคโนโลยี แต่เป็นการต่อสู้และการสังหารผู้ที่ยังคงยึดติดกับเงินแบบเก่าที่ด้อยกว่า ทองคำมีคุณสมบัติที่ดีกว่าเปลือกหอยในหลายด้าน เช่น ความคงทน Fungibility (ความเป็นหน่วยเดียวกัน) ความง่ายในการขนส่ง และความสามารถในการแบ่งหน่วยย่อย คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ผู้ที่ถือทองคำสามารถรักษาอำนาจการจับจ่ายไว้ได้ดีกว่าเมื่อเวลาผ่านไป
ระบบเงินของรัฐ (Fiat money) ในปัจจุบันไม่ได้เกิดขึ้นจากการแข่งขันในตลาดเสรีว่าเงินชนิดใดรักษาคุณค่าได้ดีที่สุด แต่เป็นการ "ยึด" (hijack) ตำแหน่งของเงินภายใต้ระบบมาตรฐานทองคำ โดยใช้กฎหมายและอำนาจรัฐ เงินของรัฐในปัจจุบันสามารถถูกผลิตขึ้นมาจากหนี้ได้ 100%
หนี้คือเงินที่เป็นสินค้าในอนาคต แต่เงินสดเป็นสินค้าปัจจุบัน ทำให้เกิดความแตกต่างด้านระยะเวลา (maturity mismatch) ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจได้ ระบบเงินเฟียตถูกออกแบบมาให้ต้องเสื่อมค่าตลอดเวลา ใครที่เก็บทรัพย์สินไว้ในรูปเงินเฟียตจะต้องสูญเสียมูลค่าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Bitcoin คือการอัปเกรดของทองคำที่มาแก้ข้อเสียของทองคำในโลกสมัยใหม่ Bitcoin มีคุณสมบัติคล้ายทองคำคือถูกควบคุมโดยกฎธรรมชาติ การผลิตต้องใช้ต้นทุนมหาศาล แต่ Bitcoin เหนือกว่าทองคำตรงที่สามารถส่งข้ามโลกได้รวดเร็ว และยากต่อการถูกยึดโดยรัฐบาล เนื่องจากเป็นดิจิทัลและไม่สามารถจับต้องได้หากรัฐไม่รู้ private key Bitcoin สามารถแบ่งหน่วยย่อยได้มากถึง 100 ล้านซาโตชิต่อ 1 Bitcoin ทำให้หน่วยที่เล็กที่สุดมีมูลค่าเพียงไม่กี่สตางค์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ Bitcoin ยังสามารถพิสูจน์ความจริงแท้ได้ง่ายกว่าทองคำมาก
Bitcoin ไม่ได้มาทำให้เงินเฟียตล่มสลาย แต่เป็น "เรือชูชีพ" หรือ "เรืออาร์ค" ที่ช่วยให้ผู้คนมีชีวิตรอดในยุคที่เงินดอลลาร์และเงินเฟียตกำลังถูกพิมพ์เพิ่มอย่างไม่หยุดยั้งและเสื่อมค่าลง
ในประเด็นว่า Bitcoin แพงไปหรือไม่ การวัดค่า Bitcoin กับเงินบาทหรือดอลลาร์แล้วรู้สึกว่าแพง เป็นเพราะตัวหน่วยวัดเอง (เงินเฟียต) ก็กำลังเสื่อมค่าลง อ. พิริยะ ระบุว่า "ยิ่งคุณถือ (เงินเฟียต) ไปเรื่อยๆ (Bitcoin) มันก็ยิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ" สำหรับคนที่มีเงินน้อย "คุณไม่จำเป็นต้องซื้อ 1 Bitcoin" คุณสามารถซื้อหน่วยย่อยที่เรียกว่า ซาโตชิ ได้ด้วยเงินจำนวนน้อยนิด เช่น 1 บาท หรือหลักสิบ หลักร้อย หลักพันบาท แม้แต่มหาเศรษฐีทั่วโลกเมื่อรวมกันแล้ว ก็ยังไม่สามารถถือ Bitcoin ได้คนละ 1 Bitcoin ด้วยซ้ำจากจำนวนประชากรโลกทั้งหมด
ข้อมูลจาก River Financial ที่ระบุว่า Bitcoin Adoption ทั่วโลกในปี 2025 ยังอยู่ที่เพียงประมาณ 3% เทียบเท่ากับ Online Banking ในปี 1996 หรือ Social Media ในปี 2005 ถ้าเปรียบเทียบ Bitcoin กับ Adoption Curve ของอินเทอร์เน็ตในยุคปี 1990 เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น (early) มากๆ มูลค่าตลาดปัจจุบันของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ Total Addressable Market Cap ในฐานะ Store Value เพียงอย่างเดียว อาจสูงถึง 225 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายถึงยังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีกประมาณ 36 เท่า (ตามการวิเคราะห์แบบ Conservative ของ River Financial)
สำหรับข้อกังวลเรื่องความเหลื่อมล้ำและการที่คนจนอาจไม่มีโอกาส อ. พิริยะ มองว่านี่เป็นการมองปัญหาที่ตื้นเขิน ในระบบ "เงินสร้างง่าย" (Fiat) คนจะโฟกัสที่ตัวเลขเงินที่เพิ่มขึ้น แต่กลับซื้อของได้น้อยลง อำนาจการจับจ่ายลดลง และความมั่งคั่งถูกรวมศูนย์ไปที่คนกลุ่มน้อยที่สามารถให้เงินงอกเงยจากหนี้ได้โดยไม่ต้องรับความเสี่ยง ตรงกันข้าม ในระบบ "เงินสร้างยาก" (Hard Money) เงินนั้นผลิตยาก ต้นทุนสูง คนจะไม่นำกำลังการผลิตไปผลิตเงิน แต่จะไปผลิตสินค้าและบริการ ทำให้ของถูกลง เงินที่อยู่ในกระเป๋าสามารถซื้อได้มากขึ้น คนที่มีเงินสร้างยากจำนวนมาก (เช่น Bitcoin หรือทองคำ) ทางเดียวที่มันจะเกิดประโยชน์คือต้องนำออกมาใช้หรือลงทุนในกิจการที่สร้างประโยชน์ ทำให้เกิด Social Mobility และการพัฒนาสังคมอย่างแท้จริง
การจะถือ Bitcoin ได้ในระยะยาวต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ Bitcoin ยังอยู่ในช่วงที่มีความผันผวนสูง ซึ่งทำหน้าที่คัดกรองผู้ถือให้เหลือแต่คนที่เข้าใจอย่างแท้จริง เพื่อปกป้องเครือข่ายจากการโจมตี "บิตคอยน์ไม่ใช่เรื่องของการแสวงหาผลกำไร หรือว่าการหวังรวยรัดรวยเร็วอีกต่อไป มันคือมันคือทางในการมีชีวิตรอดทางหนึ่ง" แนะนำให้ "เก็บออม" ใน Bitcoin ด้วยเงินที่ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิต แต่เป็นเงินที่ต้องการเก็บรักษา
ท้ายสุด อ. พิริยะ ย้ำว่า Bitcoin มีเพียงชนิดเดียวเท่านั้น เหรียญอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดไม่ใช่ Bitcoin เหรียญอื่นๆ ส่วนใหญ่เปรียบเสมือนว่าเป็นธุรกิจ Startup ที่ต้องพิจารณาความคุ้มค่าและความเสี่ยงเหมือนกับการลงทุนในหุ้น Startup ทั่วไป
#SiamStr #SorawichToday
สรุปจากไลฟ์ : https://www.youtube.com/live/02sRBu-UBWs
สั่งซื้อหนังสือ #TheBitcoinStandard คลิก
📌 bit.ly/TheBitcoinStandard-Shopee
สั่งซื้อหนังสือ #เศรษฐศาสตร์เล่มเดียวจบ คลิก
📌 bit.ly/EIOL-Shopee
สั่งซื้อหนังสือ #เงินเฟ้อคือคดีอาญา คลิก
📌 bit.ly/InflationIsACrime-Shopee

