Thread

Zero-JS Hypermedia Browser

Relays: 5
Replies: 0
Generated: 14:24:46
มาต่อกันที่ Part2 สำหรับซีรีย์ ‘ภัยคุกคามต่อBitcoin’ ครั้งนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุด นั่นก็คือ “ Quantum Computing “ มาดูรายละเอียดกันเลยครับ Quantum computing มีศักยภาพในการส่งผลกระทบต่อ Bitcoin และเทคโนโลยีบล็อกเชนในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยและการเข้ารหัส ดังนี้: 1. การคุกคามต่อการเข้ารหัส (Cryptographic Security) Bitcoin ใช้การเข้ารหัสสองแบบหลัก: • Elliptic Curve Digital Signature Algorithm (ECDSA): ใช้สำหรับการสร้างลายเซ็นดิจิทัล • SHA-256: ใช้สำหรับการทำงานของ Proof of Work และการแฮช ควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถใช้ Shor’s Algorithm ในการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ ECDSA ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่: • การถอดรหัส Private Key จาก Public Key • การขโมย Bitcoin จากกระเป๋าที่ไม่ได้ใช้งาน (inactive wallets) 2. Proof of Work (PoW) และ SHA-256 แม้ว่าควอนตัมคอมพิวเตอร์จะไม่เก่งในการแฮชเท่ากับการถอดรหัสลับ แต่สามารถใช้ Grover’s Algorithm เพื่อเร่งการค้นหาผลลัพธ์ของ SHA-256 ได้ถึง 50% ซึ่งอาจทำให้การขุด Bitcoin และการสร้างบล็อกใหม่มีความไม่สมดุล 3. การโจมตีระบบบล็อกเชน (Blockchain Vulnerabilities) ควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถโจมตีในระดับเครือข่ายได้ เช่น: • การย้อนกลับธุรกรรม (Reversing Transactions) • การสร้าง Fork ใหม่ของบล็อกเชน 4. มาตรการป้องกันและการปรับตัว • Quantum-Resistant Cryptography: มีการพัฒนาการเข้ารหัสที่ทนทานต่อควอนตัม เช่น Post-Quantum Cryptography • การอัปเกรดโปรโตคอล: ชุมชน Bitcoin อาจพิจารณาปรับเปลี่ยนโปรโตคอล เพื่อรองรับภัยคุกคามจากควอนตัม • การใช้งานมัลติซิก (Multi-signature): เพื่อลดความเสี่ยงที่มาจากการเข้าถึงคีย์เพียงตัวเดียว บทสรุป Quantum computing เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อความปลอดภัยของ Bitcoin และบล็อกเชนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เทคโนโลยีควอนตัมยังอยู่ในขั้นพัฒนา และยังต้องใช้เวลาหลายปีในการเข้าถึงศักยภาพที่สามารถคุกคามระบบเหล่านี้ได้ แต่ความตื่นตัวและการเตรียมการล่วงหน้า เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีการเข้ารหัสใหม่ จะเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงในอนาคต image #siamstr #wherostr #nostr #bitcoin #siamplaystation
2024-12-21 10:45:33 from 1 relay(s)
Login to reply