ถ้าชีวิตยังลำบาก ไม่มั่นคงมีบิทคอย สําคัญกว่า มีบ้าน - sats and sound EP35
Disclaimer บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น อ้างอิงจากมุมมองของผมเท่านั้นนะครับ
คอนเท้นนี้คิดว่าคงมีคนเห็นต่างมากมายแน่นอน เพราะมายเซ็ตของคนส่วนใหญ่จะเป็นระบบเฟียตที่ฝังรากลึก ต่างจากผมที่ออกมาจาก Matrix นั้นแล้ว
บ้านคือ หนึ่งในปัจจัยสี่ ที่เราท่องกันมาตั้งแต่เด็กว่า มันมีความจําเป็นต่อชีวิตใช่มั้ย
ปัจจัยสี่มี อาหาร เครื่องนุ่งหุ่ม ยารักษาโรค และที่อยู่อาศัย
ในปัจจุบันมีปัจจัยที่ห้า หรือหกไปแล้วเช่น ต้องมีอินเทอร์เน็ต ต้องมีมือถือไรงี้
แต่ถ้าให้รวบปัจจัยสี่หรือปัจจัยหกทั้งก้อนแล้ว
สิ่งสําคัญในการดํารงชีพของเราทุกคนในโลกนี้คือ "เงินที่ดี"
เพราะถ้าเรามีเงินที่ดี เงินที่ไม่เสื่อมค่าลง
เราสามารถซื้อปัจจัยทุกอย่างที่กล่าวมาเลย ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีได้สบายๆ
แต่โชคร้ายที่ในปัจจุบันเราอยู่ในระบบเงินเฟียต ระบบที่ออกแบบมาให้ทุกคนจนลงเรื่อยๆแบบไม่รู้ตัว
สิ่งนี้แหละเมื่อเบิกเนตร ทําให้ผมเปลี่ยนความคิดใหม่ที่ว่า ถ้าชีวิตยังลําบาก ไม่มั่นคง มีบิทคอย สําคัญกว่า มีบ้าน
อยากให้ทุกคนลองอ่าน สิ่งนี้มีประโยชน์ครับ
ตัวผมในอดีตที่ยังเป็นมนุษย์เงินเฟียตที่เสื่อมค่า ก็ถูกปลูกฝังมาไม่ต่างจากทุกคนว่า
การมีบ้านนั้น เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่แสดงถึงความมั่นคงในชีวิต
ยิ่งมีบ้าน อยู่อาศัยในที่ดีด้วยแล้ว คุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้นไปอีก
อันนี้จริงที่สุดครับ ผมจึงขวนขวายหาเงินทํางานอย่างหนักเพื่อจะมีบ้านดีๆสักหลัง
แต่ช่วงเวลาที่ผมเริ่มทํางานและเติบโตขึ้นมา มีการพิมเงินเกิดขึ้นตลอดเวลา
ส่งผลให้มูลค่าเงินเฟียตที่ผมทํางานหามาอย่างยากลำบาก การซื้อบ้านแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
จึงต้องเปลี่ยนแผนเป็น ผ่อนบ้าน แทน ซึ่งพอมาผ่อนจริงๆ มันตึงมือกว่าที่คิดนะครับ
เงินเรายังไม่ทันได้ใช้ หายไปแล้ว 30-60%
หาเงินเพิ่มก็แล้ว ขยันก็แล้ว สุดท้ายมานั่งคิดว่า การมีบ้านเป็นของตัวเองในยุคเงินเฟียตไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ผมก็เป็นมนุษย์เงินเฟียตที่สู้ เก็บเงินตั้งหน้าตั้งตาผ่อน จนเวลาผ่านไป หลายปี
เกิดคําถามว่า บ้านก็ผ่อนไหว แต่ทําไมไม่รู้สึกมั่นคงเลยสักนิด
ผมเกิดคําถามเรื่องความรู้สึกไม่มั่นคงซ้ำๆ พยายามหาคําตอบจนได้มาเจอกับบิทคอย เมื่อได้ลงหลุมกระต่าย
ผมได้พบความจริงหลายอย่างที่เคยรู้ครับ
- การพิมเงิน เงินเฟ้อทําให้ทุกคนในระบบจนลงตลอดเวลา โดยมีคนไม่อยากบอกให้พวกเรารู้ แถมเราหยุดการพิมเงินและเงินเฟ้อไม่ได้ด้วย
- เงินเฟียตในมือมูลค่าลดลงทุกปี ผ่านไป 10 ปีเงินที่เก็บมา อํานาจการจับจ่ายลดลงครึ่งนึง ของไม่ได้แพงขึ้น แต่เงินในมือเรามันเสื่อมค่าลง
- เงินในบัญชีเราตัวเลขมันเท่าเดิม อาจจะเพิ่มขึ้นจากการขยันเก็บออม แต่ไม่ทันเงินเฟ้อ ประกาศเงินเฟ้อ 2-3% แต่ข้อมูลจริง
ปริมาณเงินที่เพิ่มเข้ามาในระบบ 7-8%
- การลงทุนในสินทรัพย์อย่างหุ้นที่เติบโตดีมาตลอด แท้ที่จริงแล้ว มันโตเพราะเงินที่พิมเข้ามาและอัดเข้าไปในระบบ ไม่ได้โตเพราะผลประกอบการของบริษัท ดังนั้นเราจะได้เห็นความมั่งคั่งปลอมๆที่สามารถขึ้นลงได้ตามใจของนายทุน และคนมีอํานาจ
นี่แหละเหตุผลที่ลงทุนหุ้นมา 10 ปี มันอยู่ที่เดิมแถมแพ้เงินเฟ้อด้วย
- เงินเฟียตที่เสื่อมค่า ทําให้คนซื้อบ้านกันไม่ได้แล้ว จึงต้องผ่อนธนาคารพร้อมภาระผูกพัน 30 ปี หลายคนมองว่า ก็ปกตินะ
แต่ผมมองว่า 30 ปีนี้มันทําให้เราเสียโอกาสในการนําเงินไปวางในสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า
ถ้าไม่รู้ค่าเสียโอกาสมหาศาล
ผมเห็นด้วยที่บ้านคือสินทรัพย์ที่เป็นแหล่งเก็บเงินหรือ Store of Value ที่คนรู้จักมายาวนาน แถมสามารถอยู่อาศัย
หรือ ปล่อยเช่า สร้างรายได้ให้กับเราด้วย
แต่เมื่อออกมาจากระบบเฟียต ผมได้รู้ว่าที่จริง มันมีสินทรัพย์ที่เป็นแหล่งเก็บเงินที่ดีกว่า บ้าน อยู่ในโลกนี้อีกนะ
สิ่งนั้นก็คือ บิทคอย ครับ
จากเงื่อนไขส่วนตัวและความคิดของผมเองบิทคอยมีข้อดีหลายๆข้อ ที่บ้านหรือบ้านปล่อยเช่าสู้ไม่ได้ครับ
ผมเคยทําคลิปบิทคอย VS อสังหาฯปล่อยเช่า ไปแล้วเข้าไปดูได้เลยครับ
ในวันนี้จะมาโฟกัส เปรียบเทียบ มีบิทคอย กับ มีบ้าน ทําไมผมคิดว่า ถ้าชีวิตยังลําบาก มีบิทคอยสําคัญกว่ามีบ้าน
1 อัตราการเติบโต หรือมูลค่าที่เพิ่มขึ้น
บ้านมีอัตราเติบโตไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับทําเล ส่งผลให้เจ้าของทรัพย์ก็ยังต้องวัดดวงอยู่ว่าบ้านที่เรามีจะมี มันจะโตเท่าไหร่ มูลค่าเท่าไหร่ อยู่ทําเลไม่ดีก็โตตํ่า ผลตอบแทนตํ่า
ต่างจากบิทคอยที่ทุกหน่วยเหมือนกัน และมันจะเติบโตตามเงินเฟ้อและการพิมเงินขึ้นไปเรื่อยๆเพราะตอนนี้มีคนบางกลุ่มเริ่มเข้าใจและเห็นผลตอบแทนที่ผ่านมา ส่งผลให้เงินในระบบที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้น นอกจากเข้าไปในหุ้นและยังเข้ามาในบิทคอยด้วย
บิทคอยเหวี่ยงกว่าบ้านมาก แต่ในระยะยาวผลตอบแทนมันต่างชัดเจน ดูราคาได้เรียลไทม์ ไม่ต้องมาวัดดวงว่า
มันจะโตมากหรือโตน้อยกว่า บ้านในต่างๆทําเลกัน
เอาเป็นว่า บิทคอยมันโตเร็วกว่าบ้าน ผมว่าถือนานๆบิทคอยคุ้มค่ากว่ามาก
2 บ้านมีค่าใช้จ่ายแฝง มีเบี้ยหัวแตกระหว่างทางมากมาย
ที่ดินมันเพิ่มมูลค่าได้ แต่ตัวบ้านหรือคอนโด มันมีค่าเสื่อมที่เราต้องคิดด้วย มีส่วนที่เราต้องซ่อมแซมเป็นระยะๆ
ไม่ว่าจะอยู่เองหรือปล่อยเช่า ปล่อยเช่ายิ่งหนักเพราะก็ต้องวัดดวง เจอคนเช่าไม่ถนอมบ้าน ค่าซ่อมบานไปอีก
ยังไม่นับค่าภาษีโรงเรือนหรือภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เทศบาลจะเก็บทุกปี ถ้าใครอยู่บ้านหรือคอนโด แน่นอนว่าจะมีค่า
ส่วนกลาง ค่าเก็บขยะ ค่าซ่อมแซมลิฟต์ส่วนกลาง ปีนึงหลักหมื่นหรือหลายหมื่น ถ้าโครงการแพงค่าส่วนกลางก็จะแพงไปด้วย
อันนี้แค่ตอนอยู่ เราไปดูตอนจะขายกันบ้าง
ถ้าเราตั้งขายเองไม่เป็น ก็ต้องติดต่อเอเจ้น ซึ่งเขาจะเอาค่าคอมมิชชั่น 3% ของราคาขาย ถ้าเจอคนซื้อเหลี่ยมๆ เขาจะต่อราคาจนกําไรเราแทบไม่เหลือ นี่ยังไม่นับระยะเวลาดําเนินการถ้าหาก ผู้ซื้อต้องกู้แบงค์อีกนะ 1-2 เดือนกว่าจะดีลลงตัว บวกกับดําเนินการเอกสารต่างๆ พอไปกรมที่ดินโอนบ้าน จ่ายเบี้ยหัวแตกอีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าภาษี อากรแสตม ค่าพยาน บ้านราคา 1-2 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกือบแสนครับ นี่ยังไม่นับบ้านหรือที่ดินที่กำไรเยอะมาก แต่แพงจนขายไม่ออกอีกนะ
ถ้ากำไรลด 50% แต่ขายได้คุณจะยอมมั้ย วงการนี้บอกเลยว่า โลกมันกลม แต่สังคมมันเหลี่ยม มีอยู่จริงๆนะครับ
ตัดไปที่บิทคอย ถ้าจะขาย แบ่งย่อยได้ว่าจะขายกี่ sat เปลี่ยนเป็นเงินได้ใน 5 นาที จ่ายค่าธรรมเนียมให้ exchange นิดหน่อย
เอาเป็นว่า ถือบิทคอยไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง แถมไม่ต้องปวดหัวกับการดูแลรักษา ระยะยาวบิทคอยถือสบายใจกว่า
อาจจะมีคําถามต่อไป อ้าว ไม่มีบ้านอยู่จะทําไง ผมเลือกเช่าบ้านครับ ค่านํ้า ค่าไฟแพงกว่าอยู่บ้านตัวเอง
แต่ เบี้ยหัวแตกต่างๆไม่ต้องยุ่งอีกเลย เราจ่ายแค่ค่าเช่า น้ำไฟ ค่าประกันแรกเข้าจบ เลือกบ้านได้ตามเงิน คุณภาพชีวิต
แถมย้ายที่อยู่ได้ตลอดด้วย สะดวกกว่ามาก
เงินที่ประหยัดจากรายจ่ายพวกนี้ผมก็เอาไป stack sats ครับ เพราะเป้าหมายของผมคือต้องการบิทคอยที่มากขึ้น
อย่างที่บอกผมมองว่า การครอบครองบ้าน กับ บิทคอย เมื่อมาคิดข้อดีข้อเสียแล้ว ผมสรุปได้ว่า สําหรับตัวเองในตอนนี้
ด้วยความที่มีเงินจํากัด ผมเลือกถือบิทคอย และคิดว่า มันสําคัญกว่าการมีบ้าน
บิทคอยคุ้มค่ากว่าในทุกๆด้านเลยครับ ทําให้ผมรู้สึกมั่นคงทางการเงินอย่างจริงใจ
ต่อไปบิทคอยจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเริ่มช้า จะได้จํานวนบิทคอยน้อยลง
คิดดูแบบกาวๆนิดนึง 10ปีก่อน บ้าน 1หลังใช้เงิน 1000BTC ตอนนี้บ้าน1หลังใช้เงินเหลือแค่ 5 BTC
ในอนาคต บ้านหลังเดิมอาจจะมีมูลค่าแค่ 0.1 BTC ก็เป็นไปได้
แผนผมคือ ถ้ามีสินทรัพย์มูลค่ามากพอที่จะซื้อบ้านได้สัก 10 หลัง ซื้อมาอยู่เองสัก 1 หลัง ที่เหลือก็อยู่ในบิทคอย
ปล่อยให้มันโตต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ น่าจะเรียกได้ว่าความมั่นคงทางการเงินที่แท้จริงนะครับ
บ้านที่ดีคือบ้านที่ไม่ต้องผ่อน
บ้านมีเมื่อพร้อมจริงๆจะดีที่สุด
สรุป
1 เมื่อเงินมันเสื่อมค่า เราต้องหาแหล่งเก็บมูลค่าของเงินที่ดีที่สุด ซึ่งบิทคอยทําได้ดีกว่าบ้าน
เป้าหมายของผมคือการ stack sat ให้ได้มากที่สุด จึงมองว่า บิทคอยสําคัญกว่าบ้าน
บิทคอยไม่ต้องดูแล ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง แต่ต้องเก็บให้ปลอดภัยใน HW
2 ผมเลือกเช่าบ้านตามเงินที่มีแทน เพื่อลดค่าใช้จ่ายแฝง ค่าดูแลรักษาบ้าน และสะดวกต่อการย้ายที่อยู่ใหม่
3 ถ้าไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านได้ 10 หลัง ผมจะไม่ซื้อบ้านครับ
4 ถ้าไม่มีบิทคอยเลย คุณจะติดอยู่ในระบบเฟียต ถึงจะมีสินทรัพย์อื่นๆ คุณก็ยังต้องวิ่งอยู่ในวงจรเงินเฟ้อจนเหนื่อยอยู่ดี
ประหยัดเก็บเงินให้ถูกที่ในวันนี้ เพื่อความมั่นคงทางการเงินที่แท้จริงในวันข้างหน้า
#siamstr #bitcoin #btc #เงินเฟ้อ #อสังหา #บ้าน
Login to reply