ออม และ ลงทุนต้องแยกกันอย่างชัดเจนทําแค่นี้ชีวิตง่ายขึ้น 10 เท่า - sats and sound EP39
ในโลกของเงินเฟียตที่เงินเสื่อมค่าตลอดเวลาจากการพิมพ์เงินและเงินเฟ้อ เงินก็หามาอย่างยากลําบาก
ตลอดเวลาที่ผมเติบโตมา ผมจะรับรู้มาตลอดว่า การออมมันไม่มีประโยชน์เพราะ ดอกเบี้ยเงินฝากมันแค่ 0.25%
ไม่เหมือนรุ่นปู่ย่า พ่อแม่ ที่ยังเคยเห็นดอก 10% ต่อปีจากการแค่ฝากธนาคารเฉยๆ
ดังนั้น ผมจะถูกปลูกฝังมาอัตโนมัติเลยว่า เงินต้องเอาไปลงทุนๆๆๆเท่านั้น เพื่อให้เงินงอกเงย
ใครจะบ้าเอาเงินไปออม ฝากแบงเยอะๆเสียเวลา
และนี่คือสิ่งที่ผมทํามาตลอด 10 ปีที่ทํางาน
ทํางานเพื่อหาเงิน แล้วนําเงินไปซื้อหุ้น กองทุนรวม ประกันชีวิต และมีเงินสํารองฉุกเฉินไว้ใช้ 3-6 เดือนของรายจ่าย
ดี ถูกต้องตามที่กูรูการเงินบอกเป๊ะๆ
ทุกอย่างดูเหมือนดี แต่พอลงลึกไปถึงดีเทล ความมั่งคั่งของผมมันไม่เยอะแถมยังรู้สึกไม่มั่นคง ในความคิด 10 ปีควรจะมั่นคงกว่านี้ แต่สาเหตุเพราะตัวผมเองที่ลงทุนไม่เป็น และไม่มีความสมํ่าเสมอ
ผมก็คือมนุษย์เงินเดือนที่ติดอยู่ในโลกเงินเฟียตที่ทํางาน เก็บเงิน ใช้จ่ายเพื่อความสุขบ้าง
ส่วนการลงทุนก็ลงบ้างไม่ลงบ้าง ตามอารมณ์ ซื้อๆขายๆ หุ้นตามกูรูที่เขาบอก โดยไม่ได้ศึกษา เข้าใจมันจริงๆ
ผลสรุปสุดท้ายคือ หาเงินมาลงทุนเท่าไหร่ ผลตอบแทนไม่เห็นดีเหมือนที่คิด ยิ่งพอเราลงมั่วๆไปเทียบกับคนที่ลงทุนเป็น
หรือคนในอินเตอร์เน็ตยิ่งเครียดไปใหญ่
ผมก็เลยคิดว่า มันต้องมีอะไรผิดพลาดสักอย่าง จนได้คําตอบว่า เวลา 10 ปีที่เสียไป เกิดจาก
- ผมไม่มีความรู้ทางการเงินมากพอ ทําให้ลงทุนไม่เป็น เลือกหุ้นไม่เป็น ปันผลไม่ reinvest
- ไม่มีความสมํ่าเสมอ ลงทุน ใส่เงินซื้อหุ้นตามอารมณ์ เชื่อกูรู หรือข่าว ซื้อๆขายๆ ไม่มีหลักเกณฑ์
- ไม่มีการบันทึกและติดตามผลการลงทุน พอไม่บันทึกติดตามผลของพอร์ททําให้เรา หลงทางไปหมด
ตอนนั้นคิดง่ายๆว่า ลงๆไปรอสัก 10 ปี หุ้นขึ้นอยู่แล้ว สรุปเป็นไงหล่ะ หุ้นไทย 10 ปีอยู่ที่เดิม
- ไม่รู้จักความเลวร้ายของการพิมพ์เงิน และ เงินเฟ้อ ไม่เข้าใจระบบการเงินโลก เข้าใจข้อนี้ข้อเดียวเบิกเนตรเลย
- ไม่แยกการออมและการลงทุนออกจากกัน สมัยก่อนที่ไม่รู้จักเงินเฟียต เงินเฟ้อ ก็เลยดูถูกเงินออม แต่พอได้ศึกษาจริงๆ
การแยกแค่เงินออมกับลงทุน ชีวิตง่ายขึ้นจริงๆ
พอผมเจอต้นตอปัญหา ผมก็หาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ โดน alt coin gamefi รับน้องไปอีกหลักแสนช่วงโควิด
ผมเคยทําคลิปเล่าไปแล้วสนใจกดไปดูได้เลยครับในช่อง
จนสุดท้าย ผมไปเจอคลิปเกี่ยวกับบิทคอย ศึกษาเป็นปี แล้วค่อยๆเบิกเนตร ทีละอย่าง
ตั้งแต่ระบบการเงินโลก การพิมพ์เงิน เงินเฟ้อ ที่ออกแบบมาให้ทุกคนจนลงอัตโนมัติ เรื่องนี้ไม่มีใครบอกเราด้วยนะว่ามันแย่
ทุกคนถูกฝังหัว ถูกโปรแกรมมาว่า มันเป็นแบบนี้แหละ คนรุ่นหลังก็จะจนกว่ารุ่นพ่อแม่ไปเรื่อยๆ
ชีวิตจะลําบากขึ้นไปเรื่อยๆจากเงินเฟ้อ
เงินเฟียตที่เสื่อมค่าทุกวินาที มันทําให้คนที่ติดอยู่ในโลกของเงินเฟียต "ดูถูกการออม" ซึ่งก็เหมือนกับตัวผมเองในอดีต
ทุกคนถูกบังคับให้เข้ามาในสนามการลงทุนโดยไม่มีความพร้อม ต้องเข้ามาสู้ในเกมที่คุณเสียเปรียบหรือไม่ถนัด
ไม่แปลกใจครับที่ ผมเองไม่ประสบความสําเร็จจากการลงทุน
พอผมลงหลุมกระต่ายมาแล้ว มุมมอง แนวคิด เกี่ยวกับการเงิน การลงทุนเปลี่ยนหมดเลยครับ
1 การออมและการลงทุนต้องแยกออกจากกันอย่างชัดเจน
เปลี่ยนมายเซ็ตนิดเดียว ทําแค่นี้ชีวิตง่ายขึ้น 10 เท่า
2 ทุกคนไม่ต้องลงทุนก็ได้ แต่ต้องออมในสินทรัพย์ที่ไม่เสื่อมค่า
ไม่ออมในเงินเฟียต เปลี่ยนเป็นสินทรัพย์อื่น
มาดูสิ่งที่ผมทําจริงกันเลย แบ่งเงินเป็น 4 ก้อนง่ายๆ
1 เงินออม (เป็นพอร์ตที่ใหญ่ที่สุด สําคัญที่สุด ผมจะเก็บไว้ใน HW ที่ปลอดภัย และไม่ขายเด็ดขาด)
สิ่งนี้คือรากฐานของความมั่นคงอย่างแท้จริงของทุกคน ในเมื่อเงินเฟียตเสื่อมค่าลงทุกวัน การพิมพ์เงินไม่มีใครหยุดได้
ดังนั้นเราจะต้องออมเงินของเราไว้ใน สินทรัพย์ที่ไม่เสื่อมมูลค่า เช่น ทองคํา หรือ บิทคอย จะลงอันไหนแล้วแต่ความรู้ ความถนัด ความชอบได้เลย ตัวผมแน่นอนว่า ออมในบิทคอยครับ ผมมีเป้าหมายออมอย่างสมํ่าเสมอทุกเดือนด้วย
2 เงินใช้จ่ายประจําเดือน
ทําบัญชีรายรับรายจ่ายสักพัก เราจะรู้ว่าแต่ละเดือนเราใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง ผมจะมีเงินบัฟเฟอร์ในบัญชีไว้ อีก 1 เท่าเสมอ
เผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราจะใช้เงินได้ทันที ถ้าใช้ไปก็มาเติมให้ครบ
3 เงินสํารองฉุกเฉิน
ในส่วนนี้ก็เก็บแยกไว้ในบัญชีที่ใช้ได้ทันที ควรจะมีไว้สัก 3-6 เดือนของรายจ่ายประจําเดือน ถ้าใช้ไปก็มาเติมให้ครบ
4 เงินลงทุน
เงินส่วนนี้จะเป็นส่วนสุดท้ายหลังจากที่จัดสรรเงินอื่นๆรายเดือนไปหมดแล้ว ก้อนนี้จะเป็นเงินที่เราสามารถเสียได้ทั้งหมด
และเป็นเงินที่เราต้องเสี่ยงเอาไปลงทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่มากขึ้น เป็นเงินส่วนที่เล็กที่สุดของผม
เมื่อก่อนตอนที่ผมอยู่ในโลกของเงินเฟียต เงินส่วนใหญ่ที่ได้มาผมก็จะเอามาลงพอร์ตการลงทุน
มีกูรูบางคนบอกว่า ให้เอาเงินทั้งหมดไปลงในหุ้นปันผล แล้วเอาปันผลมาใช้ ฟังดูดี inspire มาก แต่ในความเป็นจริง
ถ้าคุณเงินเดือน 15000-20000 ทุนน้อยทําแบบนั้นไม่ได้ครับ มันเหมาะกับคนที่มีเงินก้อน
หลังจากหลุดออกมาจากโลกของเฟียตทำให้รู้ว่า ถ้าเราลงทุนไม่เป็น ก็จะเกิดความเสี่่ยงและเสียโอกาสอย่างอื่นมากมาย
ดังนั้นในปัจจุบันก้อนนี้ ในพอร์ตผมเหลือประมาณ 10%
การจัดการเงินรายเดือน
ผมจะมีการจัดการเงินไว้แล้วเพราะทํารายรับรายจ่ายเรียบร้อย เงินในแต่ละส่วนมันจะอยู่ในบัญชีพร้อมใช้งาน
และเงินที่เหลือ ผมจะแบ่ง 90% ออมในบิทคอย และ 5-10% ลงทุน
สรุป
1 แยกการออมและการลงทุนออกจากกันอย่างชัดเจน ทําแค่นี้ชีวิตง่ายขึ้น 10 เท่า
2 เมื่อหลุดออกมาจากโลกของเงินเฟียต เราจะรู้ว่า การออม เป็นสิ่งสําคัญที่สุดที่ทุกคนต้องทํา
ออมในสิ่งที่ไม่เสื่อมค่า เช่น ทองคํา หรือ บิทคอย
3 การลงทุนเป็นสิ่งเสริมที่เราจะทําหรือไม่ทําก็ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า เงินลงทุนนั้น เราต้องเสียได้ทั้งหมด
ของผมเงินที่เหลือจากการใช้ก็แบ่งออม 90 ลงทุน 10
4 การทํารายรับรายจ่ายสําคัญมาก เพราะมันทําให้เราเห็นว่าเราใช้เงินเท่าไหร่ เพื่อทําให้เราวางแผนได้ง่ายและรับมือได้กับทุกเหตุการณ์ เงินเฟียตเก็บไว้พอใช้จ่ายตามแผนก็พอ
5 อย่าลืมบันทึกการออม และ การลงทุน เพื่อติดตามพอร์ตของเรา สิ่งนี้มันจะทําให้เรารู้สถานะทางการเงินที่แท้จริงของเรา
ถ้าเราเดินมาถูกทาง อํานาจการใช้จ่ายเราจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเงินเฟ้อ
เมื่อเรารู้จักเงินเฟ้อ การพิมพ์เงิน และรู้จักเงินที่ไม่เสื่อมค่า จะทําให้เราสามารถแยกการออมและการลงทุนได้ง่าย
แถมทําให้เราจัดการการเงินของเราได้มีประสิทธิภาพด้วย
#siamstr #bitcoin #btc #เงินเฟ้อ #การออม #การลงทุน
Login to reply