Sats and Sound's avatar
Sats and Sound 4 months ago
คนไทยส่วนมาก ยังไม่เข้าใจความสําคัญของ Privacy - sats and sound EP34 ผมเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสําคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลและ Privacy ความเป็นส่วนตัวมากๆ สิ่งนี้มันล้ำค่า มันเป็นสิ่งที่เป็นของคุณ Privacy เป็นข้อมูลที่สําคัญมากๆที่มีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้นที่มี และใช้ยืนยันสิ่งนั้นๆได้ แต่เมื่อโลกโซเชียลมันมา ทุกคนสามารถคิด พูด แสดงออกให้คนทั้งโลกรู้ได้เพียงโพสสิ่งนี้ออกมา ทําให้ผมคิดว่า คนไทย ส่วนมาก ยังไม่เข้าใจความสําคัญของ Privacy ในโลกที่เจริญแล้ว ข้อมูล Privacy เป็นสิ่งที่มีค่ามหาศาล ที่ไม่มีใครเอาไปจากคุณได้ ถ้าหากคุณไม่ยินยอม มันเลยธุรกิจมืดขายข้อมูลส่วนตัวกันไงครับ 1 โพสทุกอย่างในชีวิตให้โลกรับรู้ บางคนใช้ชีวิตแบบนี้จริงๆนะครับ แค่เข้าไปในไอจีเขา เราก็จะรู้ตลอดเวลาว่า เขาทําอะไร กินอะไร อยู่ที่ไหน อารมณ์ดีมั้ย มีแฟน ทํางานอะไร บ้านอยู่ไหน ครอบครัวมีใครบ้าง ตารางเวลาเป็นยังไง รู้เรื่องราวในชีวิตเขาทุกอย่าง สิ่งนี้อันตรายกว่าที่คิด คุณแทบจะไม่เหลือ Privacy อะไรแล้ว บางคนก็คิดว่า ไม่แปลกนะ ใครๆก็ทํากัน ทั้งดารา อินฟลู คนทั่วไป ทํากันเยอะแยะ อยากให้แยกแบบนี้ ดาราอินฟลู เขาเป็นที่รู้จัก ไลฟ์สไตล์ของเขา มันสร้างเงินสร้างชื่อเสียง แต่อยากให้สังเกตุดีๆนะครับ มีคนมีชื่อเสียงหลายๆคนออกมาพูดเองเลยว่า ความเป็นส่วนตัวที่หายไป มาพร้อมกับสุขภาพจิต ที่แย่ลง มันอาจจะไม่ค่อยดีกับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีชื่อเสียงนะครับ ถ้ามีคนไม่รู้จัก รู้ชีวิต รู้ข้อมูลส่วนตัวของคุณทั้งหมด บางคนก็เอาชีวิตตัวเองมาโพส หารายได้ผ่านเฟสบุ๊คด้วย เห็นแชร์กันเต็มเลยว่า ได้เงิน อยากจะบอกว่าสิ่งนั้นมันไม่ยั่งยืนและเงินที่ได้ไม่คุ้มกับความเป็นส่วนตัวที่หายไป 2 โพสรูปลูก คนในครอบครัว ตลอดเวลา อันนี้ก็แย่นะ ไม่โพสข้อมูลตัวเองนะ แต่โพสความเป็นส่วนของคนในครอบครัว คนในบ้าน ลูกหลานตลอดเวลา เท่าที่เห็นจะเป็นแม่ๆ คนสูงวัยที่โพสเพราะความรัก ความเอ็นดู ลูกหลาน หรือคนในครอบครัวของตัวเอง โดยเฉพาะในติ๊กตอก ที่ถ่ายกันทุกกริยาบท แต่พอเด็กเริ่มโตเช่น สักประถม มัธยม พ่อแม่ที่ถ่ายคลิปลูกอย่างมีความสุข บางคนไม่ได้ดูสีหน้าและแววตาเด็กเลย ผมรู้สึกได้ว่าเด็กไม่ได้เต็มใจถ่าย แต่ขัดไม่ได้ คิดกลับกัน ถ้าหากพ่อแม่ๆ โดนเอากล้องมาถ่ายแบบไม่ตั้งตัวแบบนี้บ้าง คงจะเกร็งเหมือนกัน ไม่ต้องโพสทุกอย่างก็ได้ สิ่งที่โพสลงไปในอินเตอร์เน็ตแล้ว ไม่มีทางลบได้ ข้อมูลหลุดแล้วหลุดเลยนะครับ 3 เอาเด็กมาใช้ทําคอนเท้น หาเงิน ข้อก่อนโพสแบบอาจจะไม่ตั้งใจ แต่อันนี้ตั้งใจโพส Privacy เพราะใช้หาเงิน ในอดีค คอนเท้นเด็กสร้างรายได้มหาศาล ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก เด็กประถม ที่ชอบดูคอนเท้นเด็กๆได้ทั้งวัน เมื่อดีมานสูง คอนเท้นเด็กก็เลยออกมามากมาย ในต่างประเทศเกิดเคสร้องเรียนว่า มีการเข้าข่ายใช้แรงงานเด็ก หรือบังคับให้เด็กถ่ายรูป หรือวิดีโอโดยไม่ยินยอม ซึ่งคนที่บังคับก็ไม่ใช่คนอื่นไกล พ่อแม่ หรือคนในครอบครัวนั่นเองครับ ส่งผลให้ยูทูปต้องสร้างออกอริทึมออกมา ลดการสร้างรายได้จากคอนเท้นเด็กลง เรื่องนี้เป็นประเด็นกันมาหลายปีแล้ว ฝรั่งเขาเข้าใจ ทําน้อยลงแล้ว แต่คนไทยแบบเราดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ทําให้ยังเกิดคอนเท้นเด็กเพื่อสร้างรายได้เข้ากระเป๋าผู้ใหญ่อยู่ตลอด - ผมไปเจอคลิปที่ยิงแอดมา เป็นรูปเด็กโปรโมท โรงเรียนสอนภาษา พอเข้าไปดูน้องคนนี้เหมือนเป็นอินฟลูเด็ก ที่รับงานรีวิวสินค้าต่างๆด้วย โดยจะมีแม่เป็นคนดูแลเพจ ควบคุม โพสรับงานทุกอย่าง เขาไปดูเพจไม่เกิน 20 นาที ผมรู้ข้อมูลตัวน้องหมดเลยว่า เป็นใครอยู่ที่ไหน เรียนอะไร กิจวัตรทําอะไรบ้าง วันนี้จะไปไหน น่ากลัวมั้ย (เคสที่ยกมาเพราะในรูปแรกที่เห็น ทุกรูปน้องเหมือนฝืนยิ้ม แต่นัยตาดูเหนื่อยและเศร้าบอกไม่ถูก) - เคสที่คุณแม่เอาลูกตัวเอง มาทําคอนเท้น สอนการวิเคราะห์หุ้น ในคลิปจะมีแม่นั่งอยู่ข้างๆ เด็กไม่น่าเกิน 10 ขวบ ยืนอยู่ตรงกลางแล้วพูดข้อมูลบริษัทหุ้น แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ เด็กเหมือนโดนบังคับให้พูดหน้ากล้องโดยที่เขาไม่เข้าใจสิ่งนั้น เหมือน ตอนประถมที่ผมโดนบังคับให้ท่อง อาขยานแล้วไปสอบท่องกับครู วิชาภาษาไทยเลย เคสนี้ไม่ต่างกัน ทุกกิริยาบทของน้อง ถูกบันทึกแล้วโพสลงในช่อง ผมรู้หมดเลยว่าน้องเป็นใคร เรียนที่ไหน เวลาว่างทําอะไรบ้าง ไปเรียนพิเศษอะไรบ้าง ชอบกินอะไร แพ้อาหารอะไร ทั้ง 2 เคสที่ยกมาเหมือนพ่อแม่อาจจะหวังดีกับลูก แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้ ผ่านการแสดงออกว่า เด็กโดนบังคับให้มาทําและรู้สึกอึดอัด ไม่มีความสุข แต่ขัดคําสั่งพ่อแม่ไม่ได้ ถ้าเป็นลูกผม ผมจะไม่ทําแบบนี้ เพราะ Privacy ของลูกผม มีค่ามากกว่าเงินที่ได้มา ชีวิตในวัยเด็กที่ควรปล่อยให้เล่นสนุกตามวัย กลับต้องมาถ่ายคลิป อัดคลิป หาเงินแบบนี้ 4 ถ่ายหน้าโดยไม่รับอนุญาต - ผมเคยเจอเอง ผมใช้บริการรถสาธารณะข้ามจังหวัด เดินทางหลายชั่วโมง พอขึ้นไปนั่งเรียบร้อย พนักงานตรวจตั๋ว ก็จะขึ้นมาบนรถ แล้ว ถ่ายรูปติดหน้าผู้โดยสารทุกคน เพื่อเอาไปลงเพจแบบไม่เบลอหน้า ยังไม่พอครับ พอนั่งรถไปสักพักมีการ แจกของว่าง พนักงานคนเดิมจะมาถ่ายรูปเจาะผู้โดยสารแต่ละคน ตอนได้ของว่าง เพื่อไปลงเพจอีกรอบ เขาคงทำเป็นเรื่องปกติ แล้วคนในรถทุกคน ยกเว้นผม ถ่ายหมด พอถึงผม ผมบอกว่าไม่สะดวกใจถ่ายรูปครับ เขาพูดกลับมาว่า ถ้างั้นไม่ได้ของว่างนะคะ ผมสวนกลับเลยว่า ไม่เป็นไรครับ ซึ่งพนักงานจะเป็นคนวัย 40-50 ปี ที่ไม่ค่อยมีความเข้าใจเกี่ยวกับ ความเป็นส่วนตัว คิดแค่ว่า จะเอารูปไปลงเพจ ว่ารถคนนั่งเต็ม แต่ไม่ได้ถามความสมัครใจเลยว่า คนที่ติดในภาพนั้น เต็มใจไหม เข้าไปดูในเพจ โพสแบบนี้ทุกๆวัน คุณคิดว่าเอนเกจเม้นจะเยอะเหรอครับ มันแทบจะไม่มีประโยชน์เลย ผมเลือกที่จะไม่นั่งรถของบริษัทนี้อีก - คนรู้จักผม เพิ่งย้ายไปอยู่ญี่ปุ่น แล้วตอนกิจวัตรประจำวัน ออกไปข้างนอก เอากล้องออกไปถ่ายลง vlog แบบฟิลเหมือนอินฟลูไทยชอบทํากัน คนญี่ปุ่นเดินมาบอกว่า ขอให้ลบออก เพราะเขาไม่สบายใจที่มีหน้าของเขาติดไปในวิดีโอ ด้วยความที่คนไทยที่ไม่นึกถึง Privacy อยู่กันแบบสบายๆ นี่แหละ บางครั้งเราก็ลืมที่จะเคารพสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่นด้วย ทําให้เกิดเคส "ถ่ายแค่นี้ไม่เห็นเป็นไรเลย" ตลอดเวลา นี่แหละที่ทําให้เกิดการแอบถ่ายรูป พนักงานสุดหล่อ ทหารสุดหล่อ คิ้วบอยบนรถไฟฟ้า แค่คนแปลกหน้ามายืนจ้องก็รู้สึกแปลกแล้ว นี่ยกมือถือขึ้นแอบถ่ายอ่ะ มันจะอึดอัดขนาดไหน ไปเจอเคสคนซีเรียส ผมบอกเลยว่าโดนด่านะ อยู่ดีๆไปถ่ายรูปเขา เคสผู้หญิงจะเจอการแอบถ่ายแบบนี้น้อยกว่า เพราะสังคมอาจจะโฟกัสว่าผู้หญิงโดนแล้วเสียหาย แต่ที่จริงไม่ว่าเพศไหนโดนก็เสียหายเหมือนกัน ไม่ว่าจะแอบถ่ายไปชื่นชมก็ตาม 5 สแกนม่านตา รับเหรียญคริปโต ผมได้ยินครั้งแรก ร้องเฮียหนักมาก น่ากลัวมาก อันนี้ย้ำชัดเจนเลยครับว่า คนไทยส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจความสำคัญของ Privacy ถึงเขาจะพูดว่ามีนโยบายป้องกันอย่างดี แต่ถ้าเอาให้เงินแลกมา นั่นหมายความว่า ข้อมูลที่สำคัญที่สุดของคุณที่ปลอมแปลงไม่ได้อย่าง ม่านตา มีค่าแค่หลักพัน ข้อมูลที่ใช้ยืนยันตัวตนของคุณในโลกที่มี deep fake ได้ คุณได้ขายให้บริษัทไปแล้วครับ น่ากลัวมาก มีคนแชร์พิกัดไปแสกนม่านตา รับเหรียญ แลกเงิน กันแบบหน้าตาเฉย ผมเชื่อว่า สิ่งแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ถ้าหากเรายังไม่ได้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ทุกวันนี้ข้อมูลส่วนตัวคนไทยอย่างเราๆหลุดไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ฟังแล้วรู้สึกเศร้าเลย ถึงเวลาตระหนักถึงคุณค่าของ "ความเป็นส่วนตัว" น่าเศร้าที่ข้อมูลส่วนตัวของคนไทยรั่วไหลออกไปสู่สาธารณะอยู่บ่อยครั้ง และเหตุการณ์เช่นนี้ก็มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเรายังคงไม่ให้ความสำคัญกับ "ความเป็นส่วนตัว" อย่างจริงจัง สิ่งที่เราสามารถทำได้ 1 ปกป้องข้อมูลส่วนตัว ทั้งของตัวเอง และคนรอบตัว พิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบนโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ 2 ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวใครไปง่ายๆ เมื่อมีใครร้องขอข้อมูลส่วนตัวของเรา ให้ถามตัวเองว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด และเราได้รับประโยชน์อะไรจากการให้ข้อมูลนั้น 3 เข้าใจสิทธิของตนเอง เรามีสิทธิที่จะปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือการถูกถ่ายภาพ หากไม่ได้รับความยินยอม "ความเป็นส่วนตัว" ไม่ใช่เพียงแค่คำพูด แต่คือสิทธิพื้นฐานของเราในยุคดิจิทัล การตระหนักถึงคุณค่าของมันจะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น อย่าแชร์ข้อมูลส่วนตัวของตนเองและครอบครัวออกไปในอินเดอร์เน็ต เพื่อความปลอดภัย #siamstr #satsandsound #privacy #ความเป็นส่วนตัว