🙋♂️ เราควรกังวลเรื่อง Quantum Computer มากแค่ไหนนะ ? 🤔
.
❗️ตามที่เราเห็นข่าว Quantum Computer จะมา Hack Bitcoin ผ่านหูผ่านตากันมากในช่วงนี้.. ก็คงเป็นหนึ่งประเด็นที่จะทำให้ผู้คนเกิดอาการ Panic แล้วหลอกเม่าให้ขายทิ้งทั้งหมดอ่าแหละ 🤣
‼️งั้น.. เราลองมาพิจารณาความเป็นไปได้ของ Quantum Computer ในการทำลายระบบบิตคอยน์กันดีมั้ย ?
.
🙇♂️ ก่อนอื่น.. โพสต์นี้ขอยังไม่พูดถึงประเด็นว่าสามารถ Break SHA256 หรือมาร่วมขุดบิตคอยน์เพื่อทำ 51% Attack อะไรพวกนั้นก็แล้วกันนะ เพราะ มันยังอีกยาวไกลมากกกก.. ที่เทคโนโลยีนี้จะสามารถพัฒนาให้มีจำนวน qubit มากพอที่จะทำแบบนั้นได้ 😇
❗️แต่ ๆ ๆ มีอีกประเด็นนึงที่ใช้เล่นข่าวได้ดีเลยก็คือ Shor’s Algorithm หรือ Public-key Attack หรือมันคือ “การคำนวนย้อนกลับ“ จาก Public Key ไปหา Private Key ของกระเป๋า !! และเมื่อ Hacker ได้ Private Key ก็สามารถที่จะ "โอน" บิตคอยน์ทั้งหมดในกระเป๋านั้นออกไปที่อื่นได้ ! ฟังดูน่ากลัวดีเนาะ 😱
.
งั้นเราลองพิจารณาทีละข้อต่อไปนี้ดีกว่า..
.
1️⃣ คำว่า Public Key “ไม่ใช่” ที่อยู่ (Address) ของกระเป๋า เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ Quantum Computer Hack Private Key ไม่ได้เกิดจากการ Hack ผ่าน Address ยาว ๆ ๆ ที่เราใช้งานกันอย่างแน่นอน ☺️
**Address ส่วนใหญ่ที่มีให้เราใช้งานหลัก ๆ จะขึ้นต้นด้วย 1… หรือ 3… หรือ bc1q… หรือ bc1p…. นะฮะ ,, ซึ่งเป็นการแปลง Public Key หลายขั้นตอนมากกกก กว่าจะได้เป็น Address ที่เราคุ้นตากัน**
.
2️⃣ Bitcoin Address ที่แสดง Public Key อย่างโจ่งแจ้งจะเป็น ScriptPubKey ที่อยู่ใน UTXO ยุคเริ่มแรก หรือ Address แบบ P2PK (Pay-to-public-key) ซึ่งแน่นอนว่ามี UTXO ของ satoshi อยู่ด้วย‼️ และถ้า Quantum Computer สามารถโจมตีได้จริง ๆ ,, Address โบราณพวกนั้นแหละที่จะโดนก่อน 🤯
.
3️⃣ ถ้า Address เก่า ๆ แบบ P2PK โดนน้อง QC โจมตี ก็จะทำให้บิตคอยน์ที่ไม่เคลื่อนไหวมานานมาก ๆ เช่น 1 ล้านบิตคอยน์ของ Satoshi ,, จะถูกโอนออกมาใช้งานภายในระบบ Bitcoin Network และเมื่อ Address แบบ P2PK ถูกโจมตี จะทำให้ระบบต้องอัปเกรด signature scheme ไปเป็นแบบ quantum-resistant ซึ่งจะแก้ปัญหาในระยะยาว 🧡
**มองว่าเป็นข้อดีนะที่ทำให้บิตคอยน์ออกมาหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ☺️ ,, แต่อย่างไรก็ตาม ‘บิตคอยน์’ ทั้งหมดก็จะไม่มีทางเกิน 21 ล้าน BTC อย่างแน่นอน เพราะการ Hack Private key กับจำนวนบิตคอยน์รวม ’มันไม่เกี่ยวกัน’**
.
4️⃣ การเก็บบิตคอยน์ด้วยตัวเองโดยใช้ Hardware wallet ในปัจจุบัน แทบจะบังคับให้เราเลือกใช้กระเป๋าแบบ Native Segwit “เป็นพื้นฐาน” 🤔 คือ… คนที่ไม่ได้ชำนาญเรื่องเทคฯ แล้วซื้อ HW มาใช้งาน ,, ถ้าไม่ได้แก้ไขค่า Default อะไรของโปรแกรม Wallet ,, ระบบจะเลือกกระเป๋า Native Segwit ให้เราใช้งานโดยอัตโนมัติ และได้ Address รับบิตคอยน์ที่ขึ้นต้นด้วย bc1q…
ซึ่งกระบวนการคำนวนจาก Public Key ไปเป็น Bitcoin Address เนี่ย .. โคตรซับซ้อนเลย ,, ถ้าดูจากภาพประกอบจะเห็นว่า.. ส่วนที่เป็น Public Key ที่นำมาใช้ เรียกว่า “Public Key Hash” 🫠
❗️Public Key Hash == การนำ “Public Key” จริง ๆ มาผ่านการ Hash ด้วย SHA256 จากนั้นนำ ‘ผลลัพธ์ที่ได้’ ไปผ่านกระบวนการ Hash แบบ RIPEMD-160 อีก 1 ชั้น 🤯
‼️สรุปแล้ว.. ยังไม่มีวิธีการใดที่ทำให้รู้ Public Key จริง ๆ จาก Bitcoin Address ที่เราใช้งาน 😇🙏
.
5️⃣ โอกาสเดียวที่ Hacker จะเข้าถึง Public Key จริง ๆ ได้ก็คือ ”การทำธุรกรรมโอนบิตคอยน์ออก” ‼️ แต่ ๆ ๆ ระบบของกระเป๋าจะบังคับให้เราโอนบิตคอยน์ ‘ทั้งหมด’ ออกไปยัง Address “ปลายทาง” และ Address “เงินทอน“ ✅✅✅
**หมายความว่า ทันทีที่เราโอนบิตคอยน์ออกจากกระเป๋า >> กระเป๋าใบนั้นจะเปิดเผย Public Key >> และกระเป๋าใบนั้นก็จะไม่เหลือ ’บิตคอยน์’ อยู่อีกเลย (มันย้ายไป Address ใหม่)**
ดังนั้น กระเป๋าที่เปิดเผย Public Key จะไม่มี ‘บิตคอยน์‘ เหลือให้ Hacker ขโมยแล้ว 😭
‼️แต่คุณต้อง ”ไม่ใช้ Address ซ้ำ“ ในการเก็บบิตคอยน์ นะ 🙏🥹
.
🧡 สรุปสั้น ๆ : ยังไม่มีอะไรต้องกังวลในเรื่องของ Quantum Computer นะครับ แต่เราจำเป็นต้องดำเนินการกับกระเป๋าเก็บบิตคอยน์ของเรา ดังนี้
➡️ ใช้ระบบกระเป๋าที่ปลอดภัย (Recommended : Native Segwit)
➡️ ไม่ใช้ Address ซ้ำ!! ในการรับโอนบิตคอยน์
➡️ ถ้ามีการโอนบิตคอยน์ ระบบจะโอนบิตคอยน์ที่เหลือของ UTXO ไปยัง Change Address เสมอ (ไม่ต้องแปลกใจ)
.
…เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้ 🧡🙏
.
ป.ล.ส่วนตัวยังเห็นด้วยกับประโยคที่บอกว่า “ถ้า Quantum จะมาทำลายบิตคอยน์นะ … ระบบการเงินอื่น ๆ พังไปก่อนแล้ว” 🤯
#เวลามีค่าศึกษาบิตคอยน์
#Siamstr
❗️Public Key Hash == การนำ “Public Key” จริง ๆ มาผ่านการ Hash ด้วย SHA256 จากนั้นนำ ‘ผลลัพธ์ที่ได้’ ไปผ่านกระบวนการ Hash แบบ RIPEMD-160 อีก 1 ชั้น 🤯
‼️สรุปแล้ว.. ยังไม่มีวิธีการใดที่ทำให้รู้ Public Key จริง ๆ จาก Bitcoin Address ที่เราใช้งาน 😇🙏
.
5️⃣ โอกาสเดียวที่ Hacker จะเข้าถึง Public Key จริง ๆ ได้ก็คือ ”การทำธุรกรรมโอนบิตคอยน์ออก” ‼️ แต่ ๆ ๆ ระบบของกระเป๋าจะบังคับให้เราโอนบิตคอยน์ ‘ทั้งหมด’ ออกไปยัง Address “ปลายทาง” และ Address “เงินทอน“ ✅✅✅
**หมายความว่า ทันทีที่เราโอนบิตคอยน์ออกจากกระเป๋า >> กระเป๋าใบนั้นจะเปิดเผย Public Key >> และกระเป๋าใบนั้นก็จะไม่เหลือ ’บิตคอยน์’ อยู่อีกเลย (มันย้ายไป Address ใหม่)**
ดังนั้น กระเป๋าที่เปิดเผย Public Key จะไม่มี ‘บิตคอยน์‘ เหลือให้ Hacker ขโมยแล้ว 😭
‼️แต่คุณต้อง ”ไม่ใช้ Address ซ้ำ“ ในการเก็บบิตคอยน์ นะ 🙏🥹
.
🧡 สรุปสั้น ๆ : ยังไม่มีอะไรต้องกังวลในเรื่องของ Quantum Computer นะครับ แต่เราจำเป็นต้องดำเนินการกับกระเป๋าเก็บบิตคอยน์ของเรา ดังนี้
➡️ ใช้ระบบกระเป๋าที่ปลอดภัย (Recommended : Native Segwit)
➡️ ไม่ใช้ Address ซ้ำ!! ในการรับโอนบิตคอยน์
➡️ ถ้ามีการโอนบิตคอยน์ ระบบจะโอนบิตคอยน์ที่เหลือของ UTXO ไปยัง Change Address เสมอ (ไม่ต้องแปลกใจ)
.
…เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้ 🧡🙏
.
ป.ล.ส่วนตัวยังเห็นด้วยกับประโยคที่บอกว่า “ถ้า Quantum จะมาทำลายบิตคอยน์นะ … ระบบการเงินอื่น ๆ พังไปก่อนแล้ว” 🤯
#เวลามีค่าศึกษาบิตคอยน์
#Siamstr