GN. ไปกับน้องลมหนาว
#Siamstr
#SiamstrZero-JS Hypermedia Browser
#Siamstr
1.อากาศแห้งมากขึ้น ส่งผลต่อน้องสุนัขและแมวเรา
ทั้งสุนัขและแมวโดยเฉพาะกลุ่มที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศอาจจะเกิดปัญหาผิวหนังแห้ง ซึ่งทำให้น้องหมาน้องแมวที่ผิวอ่อนแอติดเชื้อได้ง่าย มีอาการคือ คันตามผิวหนัง มีรังแคมากกว่าปกติ หรืออาจถึงขั้นมีโรคผิวหนังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดจากแบคทีเรีย เชื้อรา หรือปรสิตภายนอก
2.อุณหภูมิต่ำลง อากาศแห้งและเย็น ทำให้เสี่ยงต่อโรคได้ง่ายขึ้น
โรคกลุ่มทางเดินหายใจ มักจะมีการระบาดแพร่เชื้อผ่านทางลมหายใจหรือทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ (เหมือนโรคหวัดและโควิด-19) โดยเฉพาะถ้าบริเวณบ้านที่น้องหมาน้องแมวเราอยู่มีหมาจรแมวจร เป็นแหล่งกระจายโรค ก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นไปอีก โดยโรคต่อไปนี้เป็นโรคที่เราต้องระมัดระวังในช่วงฤดูหนาว
โรคที่พบได้บ่อยๆ เช่น Kennel cough ในสุนัข และโรคกลุ่มหวัดแมว : ถึงจะไม่รุนแรงแต่ก็ป่วยได้ง่ายและบ่อย คล้าๆยกับหวัดหรือไข้หวัดในคน
โรคไวรัสทางเดินหายใจที่รุนแรงอย่างไข้หัดสุนัข (Distemper virus) : เชื้ออยู่ในอากาศแห้งได้นาน แพร่กระจายได้กว้างและเร็ว แถมยังแสดงอาการไม่ชัดเจน อย่าลืมป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนรวมอย่างต่อเนื่องปีละครั้ง
ไวรัสลำไส้อักเสบ (Parvovirus) โรคที่ยังคงระบาดอยู่ในไทย ทั้งช่วงที่อากาศหนาวที่ทำให้เชื้ออยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น โรคนี้มีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก อย่าลืมที่จะป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนประจำปีป้องกันอย่างต่อเนื่อง
3.เป็นฤดูผสมของที่สุนัขจรในหลายพื้นที่
แท้จริงแล้ว น้องหมาจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 8 เดือนขึ้นไป ทั้งตัวผู้และตัวเมีย และเมื่อเข้าสู่ช่วยเจริญพันธุ์น้องหมาก็จะเริ่มมีภาวะเป็นสัด (หรือที่เรียกว่า "ฮีต") ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นช่วง ”ต้นหนาว เดือน12” แต่ในพื้นที่ ที่มีสุนัขจรอยู่เยอะ ลูกของสุนัขจรที่เคยเป็นสัดในช่วงนี้จำนวนมาก ก็จะโต เจริญพันธุ์พร้อมผสม ในช่วงนี้ของปี ทำให้เป็นวงจรฤดูผสมพันธุ์ในช่วงเวลาเดิม
สิ่งที่เรา เจ้าของน้องหมาน้องแมวต้องระวังคือ ในช่วงนี้จะมีสุนัข(และแมว)จรจำนวนมาก เดินข้ามถิ่นเยอะ อาจจะนำโรคต่างๆติดมาแพร่ให้กับน้องหมาน้องแมวในบ้านเราได้ รวมถึงเห็บ หมัด เหา ไร ต่างๆด้วย ดังนั้นปิดบ้านให้มิดชิด ให้เป็น Pet-proof และคอยสังเกตุสัตว์เลี้ยงของเราอย่างใกล้ชิดในฤดูหนาวที่จะถึงนี้
เคยสงสัยไหมว่าพฤติกรรมของน้องหมากับน้องแมวทำไมถึงได้ต่างกัน เวลาที่เรากลับบ้านเปิดประตูเข้าไปแมวอาจจะเดิน อาด อาด มาหาเราช้าๆ ในขณะที่น้องหมาจะ ทั้งร้อง ทั้งดีใจ ทั้งตื่นเต้น ตอนที่เราเปิดประตูเข้าบ้าน แล้วก็จะต้องวิ่งเข้ามาอ้อน มาขอให้เราเล่นให้เราลูบหัว พฤติกรรมของหมา-แมว ต่างกันมากๆเลย
ปรัชญากลุ่ม Existentialist (อัตถิภาวนิยม) มีวลีที่ว่า "Existence precedes essence" แปลว่า การมีอยู่ของ___มีมาก่อนจุดมุ่งหมายของ___ ซึ่งมักจะหมายถึง การมีอยู่ของมนุษย์นั้น มีมาก่อนจุดมุ่งหมายของเค้าผู้นั้น
มนุษย์เราไม่เหมือนกับสิ่งอื่นๆส่วนใหญ่ในโลก พวกเรานั้นไม่ได้มีหน้าที่หรือจุดมุ่งหมายของการมีอยู่ที่ชัดเจนตายตัว เหมือนกับสิ่งอื่น เช่น ตู้เย็นที่มีไว้เก็บอาหาร บันไดที่มีไว้พาเราขึ้นข้างบน หรือ สบู่แชมพูที่มีไว้ทำความสะอาด และในทำนองเดียวกันหากไม่มีคนอาบน้ำสระผมแล้วล่ะก็ จะไม่มีประโยชน์หรือจุดมุ่งหมายใดๆสำหรับการมีอยู่ของสบู่และแชมพู หากแต่เราจะต้องค้นหาและนิยามจุดมุ่งหมายนั้นๆให้กับเราด้วยตัวเอง
งั้นเราลองมาดูกันว่าหลักคิดนี้จะเกี่ยวอะไรกับน้องหมาน้องแมวและน้องหมาน้องแมวแตกต่างกันยังไงเมื่อศึกษาด้วยหลักการนี้
น้องหมาหรือสุนัขมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน --น้องหมาดำรงอยู่เพื่อเรา-- เจ้าของคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา เจ้าของคือโลกทั้งใบของน้องหมา ไม่ว่าเราจะทำอะไรเขาก็อยากจะมีส่วนร่วม เรากลับบ้านเขาก็จะดีใจ เราจะพาไปเดินเล่นก็คือความสุขที่เขาเฝ้ารอมาทั้งวัน หรือจนกระทั่งเมื่อเราตื่นเช้ากำลังจะออกไปทำงาน เขาก็จะดูอึมครึมเศร้าหมองเพราะไม่อยากให้เราออกไปจากบ้าน ทิ้งเขาไว้ที่บ้านลำพัง
ตัดภาพมาที่แมว --แมวดำรงอยู่เพื่อตัวเอง-- แมวเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้ขึ้นกับเราหรือแมวตัวอื่น แม้ในฐานะเจ้าของเราจะให้ข้าวให้น้ำให้ที่พัก แต่ถ้าแมวอยากนอนไม่ว่าจะตอนเช้าก่อนเราออกไปทำงาน หรือตอนเย็นที่เราเพิ่งกลับมาบ้าน แมวก็จะนอน ถ้าช่วงตี 3 แมวอยากจะเล่นอยากจะล่าเหยื่อ แมวก็จะวิ่งเล่นและล่าเหยื่อ เรียกได้ว่าแมวไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่ขึ้นกับเรา แมวอยากจะเป็นอะไร อยากจะทำอะไร หรือ ไม่อยากทำอะไร ก็ขึ้นอยู่กับเจตจำนงอันเสรีของแมวเอง จนเกิดคำพูดที่ว่า "แมวเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณ" "แมวก็เป็นเจ้านายแล้วเจ้าบ้านของคุณ" "แมวอาจเป็นแค่ผู้ที่มาพักอาศัยอยู่กับคุณโดยไม่จ่ายค่าเช่า" "แมวเป็นตัวของตัวเอง" แมวสามารถเป็นได้ทุกอย่าง
สรุปได้ว่า
- การเลี้ยงน้องหมานั้นเหมือนกับการมีสัตว์เลี้ยงที่ดำรงอยู่เพื่อเราและดำรงอยู่เพราะเรา เค้าจะรักคุณ เชิดชู บูชา มองคุณเป็นสิ่งที่สูงส่งที่สุด จุดมุ่งหมายของการมีอยู่ของเค้า ก็คือเรา
- การเลี้ยงแมวนั้นคือการที่คุณมีแมวเป็นเพื่อน ที่ไม่ได้มีเป้าหมายเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ แต่เขาจะมีชีวิตในแบบที่เขาอยากจะเป็น เป็นตัวของตัวเอง และอาจจะแค่มาขออาหาร ขอที่อยู่อาศัยกับคุณ แต่การมีอยู่ของเค้า ไม่ได้มีอยู่เพื่อเรา
#Siamstr #Cat #Dog #Siamcat #Memestr #petlink #Catstr
ประมาณการโดยเทียบกับราคาอาหารเกรด Standard-Holistic ในตลาดโดยเฉลี่ย จะได้ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนดังนี้
2.อุปกรณ์และเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงค่าใช้จ่ายค่าอุปกรณ์และเครื่องใช้จะแตกต่างกันไปตามชนิดของอุปกรณ์และจำนวนสัตว์เลี้ยง
ตอนเริ่มเลี้ยง จะมีการซื้อของใช้ส่วนตัว ประมาณ 1000-3000บาท แล้วแต่รูปแบบการเลี้ยงและชนิดของน้องสัตว์เลี้ยง ของที่ใช้แน่นอนเช่น ถ้วยอาหาร ถ้วยน้ำ เบาะ-ผ้ารองนอน กระบะทราย ฯลฯ ส่วนของอื่นๆที่มักจะเพิ่มเติมเชิ่น บ้านสุนัข คอนโดแมว ของเล่น เสื้อผ้า
หลังจากนั้นจะมีการ Maintenance และเพิ่มเติม ขนม ของเล่น รายเดือน เป็นธรรมชาติของคนมีสัตว์เลี้ยง ประมาณเดือนละ 100-300บาท แล้วแต่เราเอง
3.การดูแลสุขภาพพื้นฐานของสัตว์เลี้ยง ค่าใช้จ่ายค่าดูแลสุขภาพพื้นฐานจะแตกต่างกันไปตามอายุ สายพันธุ์ และสุขภาพของสัตว์เลี้ยง
*ประมาณจากค่าใช้จ่ายเฉลี่ยค่าครองชีพสัตว์เลี้ยงในเชียงใหม่
4.ค่ารักษาพยาบาลเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้หากสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลจะแตกต่างกันไปตามอาการของสัตว์เลี้ยงและการรักษา
โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลจะอยู่ที่ประมาณ 500-50,000 บาทต่อครั้ง หรืออาจกระจาย/ลดความเสี่ยงด้วยการใช้บริการประกันในสัตว์เลี้ยง เพื่อเลี่ยงการออมเผื่อกรณีสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยได้(แต่ในขณะนี้ ยังไม่มีประกันสัตว์เลี้ยงที่โดดเด่นให้สามารถแนะนำได้ รวมถึงเคยมีข่าวเสียช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ทั้งเรื่องการเบิกจ่ายที่ยากลำบาก กฏและเงื่อนไขการเบิกที่ยังไม่นิ่ง หรือไปถึงระกับข่าวการล้มของบริษัทที่ขายประกันสัตว์เลี้ยง)
แค่นี้ เราก็สามารถ ทำคำนวณปริมาณเงิน Fiat ที่ต้องออมเตรียมไว้เพื่อน้องหมาน้องแมวของเราได้แล้ว !! :)
#siamstr #bitcoin #thailand #petlink #cat #dog
