ถ้าโลกนี้เป็นเหมือนเกมที่ใครถือไพ่เหนือกว่าก็จะควบคุมเกมได้มากกว่า ในโลกแห่งความจริงรัฐมักเป็นผู้ถือไพ่นั้น สงครามจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการต่อสู้ระหว่างประเทศ แต่มันกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้รัฐขยายอำนาจ ควบคุมทรัพยากรและกำหนดทิศทางของสังคมได้ตามต้องการ
ตลอดประวัติศาสตร์ เราจะเห็นว่าสงครามมักมาพร้อมกับการเพิ่มอำนาจให้รัฐเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นภาษี การออกกฎหมายจำกัดเสรีภาพ หรือการใช้เงินเฟียตสร้างหนี้มหาศาลเพื่อนำไปสู่การทำสงคราม สิ่งเหล่านี้ทำให้ประชาชนมีอำนาจในการกำหนดชีวิตของตัวเองได้น้อยลง
แต่ถ้าเรามองอีกมุมหนึ่งก็มีแนวคิดที่เสนอว่า อำนาจทางเศรษฐกิจควรอยู่ในมือของประชาชนมากขึ้น ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่ที่รัฐเพียงฝ่ายเดียว.... เศรษฐศาสตร์สำนักออสเตรียนและบิตคอยน์เป็นตัวอย่างที่พยายามสร้างระบบการเงินที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ลดการแทรกแซงจากภาครัฐและเปิดโอกาสให้แต่ละคนบริหารทรัพย์สินของตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจส่วนกลาง
สุดท้ายแล้วคำถามสำคัญอาจไม่ใช่ว่า "เราจะหยุดสงครามได้อย่างไร" แต่มันคือ "เราจะออกแบบอนาคตที่ประชาชนมีอำนาจมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งรัฐมากเกินไปได้อย่างไร"
#Siamstr
SOUP
soup@rightshift.to
npub16hpa...tu5f
การถูกพรากอิสรภาพ เป็นการลดทอนความเป็นมนุษย์
Bitcoin is freedom
Notes (12)
ความรู้ทำให้ความเชื่อเปลี่ยนแปลงได้
#Siamstr
ศุกร์นี้ #สภายาส้ม 64 #เงินเฟ้อคือคดีอาญา
ใครอ่านแล้วอินบทไหน ประเด็นไหน หัวข้อไหน
มาถล่มแชทกันให้ยับกันไปเลย #Siamstr nostr:naddr1qvzqqqr4gupzp4wr6p3kw903482mu2hc4khqjtt427tz82ez8alfwpgkrpx3zkdnqq2kkdfntax9j6jn29t4xun0ws6rq4j9fs6n20lsj6a
เงินฝืดทำให้เราจนลงจริงหรือ ?
หลายคนเชื่อว่า "เงินฝืดทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักและทำให้คนจนลง" เพราะถ้าเงินมีค่ามากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป คนจะไม่ใช้จ่าย ธุรกิจจะขาดรายได้ และเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะซบเซา แต่คำถามคือ นี่เป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงแนวคิดที่ถูกปลูกฝังโดยระบบการเงินปัจจุบัน ?
ในตอน #BitcoinTalk 201 อาจารย์พิริยะ ได้มีการพูดถึงแนวคิดนี้อย่างลึกซึ้งแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวในรายการเต็มอิ่มกว่าสองชั่วโมง นี่คือหัวข้อคร่าวๆ
.
1.เงินเฟ้อคือเงินเสื่อม เงินฝืดคือเงินที่มั่นคงคง - เงินเฟ้อทำให้มูลค่าของเงินลดลงเรื่อย ๆ สินค้าราคาแพงขึ้น ขณะที่รายได้ของเราตามไม่ทัน ส่วนเงินฝืดเป็นเงินที่มั่นคง ไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา คนสามารถเก็บออมได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเงินของตนเองจะถูกกัดกินโดยอัตราเงินเฟ้อ
.
2.เงินเฟ้อทำให้เราจนลงทีละนิด โดยที่เราไม่รู้ตัว - ทุกวันนี้ระบบการเงินถูกออกแบบมาให้เงินเฟ้อเป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริง เงินเฟ้อไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างแท้จริง แต่มันเพียงทำให้มูลค่าเงินของเราลดลง เมื่ออัตราเงินเฟ้อเกิดขึ้นต่อเนื่อง รายได้ที่เพิ่มขึ้นกลับไม่ทันกับค่าครองชีพ ทำให้ประชาชนต้องดิ้นรนมากขึ้นเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตของตนเอง
.
3.เงินฝืดไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก แต่ช่วยให้เงินมีคุณค่า - มีความเชื่อว่า "ถ้าเงินมีค่ามากขึ้น คนจะไม่ใช้จ่าย" แต่ในความเป็นจริง คนจะใช้จ่ายเมื่อพวกเขาต้องการและมีความจำเป็น ไม่ใช่เพียงเพราะกลัวว่าเงินจะด้อยค่า สิ่งที่ถูกมองข้ามไปคือ ก่อนเกิด The Great Depression เศรษฐกิจไม่ได้ถดถอยเพราะเงินฝืดโดยธรรมชาติ แต่เกิดจากนโยบายที่ผิดพลาดและการควบคุมเงินที่บิดเบือนของรัฐบาล ทำให้เกิดฟองสบู่และการพังทลายของระบบเศรษฐกิจในที่สุด หากเงินสามารถรักษามูลค่าได้ คนจะใช้จ่ายกับสิ่งที่มีคุณค่าแท้จริง และการออมที่มั่นคงจะนำไปสู่การลงทุนที่เกิดประโยชน์แท้จริง ไม่ใช่การกู้ยืมเกินตัวที่ถูกกระตุ้นโดยเงินเฟ้อที่ไม่มีวันสิ้นสุด
.
4.ระบบเงินเฟ้อถูกสร้างขึ้นเพื่อใคร - ระบบการเงินปัจจุบันอาศัยเงินเฟ้อเพื่อรักษาเสถียรภาพของหนี้สิน ธนาคารและรัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้อย่างไม่จำกัด เพื่อทำให้หนี้ของพวกเขามีค่าน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่สุดท้าย ประชาชนต้องรับภาระเพราะเงินในมือพวกเขาซื้อของได้น้อยลงทุกปี
.
5.เงินฝืดช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน - เงินที่ไม่เสื่อมค่า ช่วยให้ประชาชนสามารถออมเงิน และคิดถึงอนาคตของลูกหลานได้มากขึ้น พวกเขาจะลงทุนในสิ่งที่มีคุณค่าจริง ๆ ไม่ใช่แค่หนีเงินเฟ้อ ระบบเศรษฐกิจที่ดีไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการใช้จ่ายที่เกิดจากความกลัว แต่ควรขับเคลื่อนด้วย ประสิทธิภาพ นวัตกรรม และการสร้างคุณค่า
.
6.บิตคอยน์ เงินฝืดที่เป็นทางออก - บิตคอยน์เป็นเงินที่ไม่สามารถถูกพิมพ์เพิ่มได้ มีจำนวนจำกัด 21 ล้านเหรียญ และค่อย ๆ ถูกนำออกมาในระบบผ่านกลไกที่โปร่งใส ซึ่งแตกต่างจากเงินกระดาษที่ถูกผลิตขึ้นได้ไม่จำกัด นี่คือเหตุผลที่ทำให้บิตคอยน์เป็นเงินที่มั่นคง เพราะอุปทานถูกกำหนดล่วงหน้า ไม่ถูกลดค่าด้วยนโยบายของรัฐ และไม่สามารถควบคุมโดยธนาคารกลางได้ ระบบนี้สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน สามารถออมเงินได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเงินของพวกเขาจะถูกกัดกินด้วยเงินเฟ้อ
.
...บทสรุปอยากฝากไว้ให้คิดกันต่อว่า เงินของคุณกำลังสร้างอนาคตให้คุณ หรือคุณกำลังติดอยู่ในวูปที่ต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพียงเพื่อให้ได้เงินที่มีค่าน้อยลงทุกวัน ?
✅ เงินเฟ้อไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นแต่มันทำให้มูลค่าเงินลดลงและประชาชนจนลงเรื่อย ๆ
✅ เงินฝืดไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่ช่วยให้เงินคงมูลค่าและสนับสนุนการออมและการลงทุนที่มีคุณค่า
✅ ระบบการเงินที่ใช้เงินเฟ้อเป็นเครื่องมือถูกออกแบบมาเพื่อรักษาอำนาจของรัฐและสถาบันการเงิน
✅ บิตคอยน์เป็นตัวอย่างของเงินฝืดที่ให้ประชาชนมีอิสระทางการเงินและปกป้องมูลค่าของทรัพย์สินของตนเอง การออมที่มั่นคงนำไปสู่การลงทุนที่มีคุณค่าและกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมที่แท้จริง
#Siamstr
https://www.youtube.com/watch?v=eAAmAvrCTFo
ในตอน #BitcoinTalk 201 อาจารย์พิริยะ ได้มีการพูดถึงแนวคิดนี้อย่างลึกซึ้งแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวในรายการเต็มอิ่มกว่าสองชั่วโมง นี่คือหัวข้อคร่าวๆ
.
1.เงินเฟ้อคือเงินเสื่อม เงินฝืดคือเงินที่มั่นคงคง - เงินเฟ้อทำให้มูลค่าของเงินลดลงเรื่อย ๆ สินค้าราคาแพงขึ้น ขณะที่รายได้ของเราตามไม่ทัน ส่วนเงินฝืดเป็นเงินที่มั่นคง ไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา คนสามารถเก็บออมได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเงินของตนเองจะถูกกัดกินโดยอัตราเงินเฟ้อ
.
2.เงินเฟ้อทำให้เราจนลงทีละนิด โดยที่เราไม่รู้ตัว - ทุกวันนี้ระบบการเงินถูกออกแบบมาให้เงินเฟ้อเป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริง เงินเฟ้อไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างแท้จริง แต่มันเพียงทำให้มูลค่าเงินของเราลดลง เมื่ออัตราเงินเฟ้อเกิดขึ้นต่อเนื่อง รายได้ที่เพิ่มขึ้นกลับไม่ทันกับค่าครองชีพ ทำให้ประชาชนต้องดิ้นรนมากขึ้นเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตของตนเอง
.
3.เงินฝืดไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก แต่ช่วยให้เงินมีคุณค่า - มีความเชื่อว่า "ถ้าเงินมีค่ามากขึ้น คนจะไม่ใช้จ่าย" แต่ในความเป็นจริง คนจะใช้จ่ายเมื่อพวกเขาต้องการและมีความจำเป็น ไม่ใช่เพียงเพราะกลัวว่าเงินจะด้อยค่า สิ่งที่ถูกมองข้ามไปคือ ก่อนเกิด The Great Depression เศรษฐกิจไม่ได้ถดถอยเพราะเงินฝืดโดยธรรมชาติ แต่เกิดจากนโยบายที่ผิดพลาดและการควบคุมเงินที่บิดเบือนของรัฐบาล ทำให้เกิดฟองสบู่และการพังทลายของระบบเศรษฐกิจในที่สุด หากเงินสามารถรักษามูลค่าได้ คนจะใช้จ่ายกับสิ่งที่มีคุณค่าแท้จริง และการออมที่มั่นคงจะนำไปสู่การลงทุนที่เกิดประโยชน์แท้จริง ไม่ใช่การกู้ยืมเกินตัวที่ถูกกระตุ้นโดยเงินเฟ้อที่ไม่มีวันสิ้นสุด
.
4.ระบบเงินเฟ้อถูกสร้างขึ้นเพื่อใคร - ระบบการเงินปัจจุบันอาศัยเงินเฟ้อเพื่อรักษาเสถียรภาพของหนี้สิน ธนาคารและรัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้อย่างไม่จำกัด เพื่อทำให้หนี้ของพวกเขามีค่าน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่สุดท้าย ประชาชนต้องรับภาระเพราะเงินในมือพวกเขาซื้อของได้น้อยลงทุกปี
.
5.เงินฝืดช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน - เงินที่ไม่เสื่อมค่า ช่วยให้ประชาชนสามารถออมเงิน และคิดถึงอนาคตของลูกหลานได้มากขึ้น พวกเขาจะลงทุนในสิ่งที่มีคุณค่าจริง ๆ ไม่ใช่แค่หนีเงินเฟ้อ ระบบเศรษฐกิจที่ดีไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการใช้จ่ายที่เกิดจากความกลัว แต่ควรขับเคลื่อนด้วย ประสิทธิภาพ นวัตกรรม และการสร้างคุณค่า
.
6.บิตคอยน์ เงินฝืดที่เป็นทางออก - บิตคอยน์เป็นเงินที่ไม่สามารถถูกพิมพ์เพิ่มได้ มีจำนวนจำกัด 21 ล้านเหรียญ และค่อย ๆ ถูกนำออกมาในระบบผ่านกลไกที่โปร่งใส ซึ่งแตกต่างจากเงินกระดาษที่ถูกผลิตขึ้นได้ไม่จำกัด นี่คือเหตุผลที่ทำให้บิตคอยน์เป็นเงินที่มั่นคง เพราะอุปทานถูกกำหนดล่วงหน้า ไม่ถูกลดค่าด้วยนโยบายของรัฐ และไม่สามารถควบคุมโดยธนาคารกลางได้ ระบบนี้สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน สามารถออมเงินได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเงินของพวกเขาจะถูกกัดกินด้วยเงินเฟ้อ
.
...บทสรุปอยากฝากไว้ให้คิดกันต่อว่า เงินของคุณกำลังสร้างอนาคตให้คุณ หรือคุณกำลังติดอยู่ในวูปที่ต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพียงเพื่อให้ได้เงินที่มีค่าน้อยลงทุกวัน ?
✅ เงินเฟ้อไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นแต่มันทำให้มูลค่าเงินลดลงและประชาชนจนลงเรื่อย ๆ
✅ เงินฝืดไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่ช่วยให้เงินคงมูลค่าและสนับสนุนการออมและการลงทุนที่มีคุณค่า
✅ ระบบการเงินที่ใช้เงินเฟ้อเป็นเครื่องมือถูกออกแบบมาเพื่อรักษาอำนาจของรัฐและสถาบันการเงิน
✅ บิตคอยน์เป็นตัวอย่างของเงินฝืดที่ให้ประชาชนมีอิสระทางการเงินและปกป้องมูลค่าของทรัพย์สินของตนเอง การออมที่มั่นคงนำไปสู่การลงทุนที่มีคุณค่าและกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมที่แท้จริง
#Siamstr
https://www.youtube.com/watch?v=eAAmAvrCTFo
ทุกการตัดสินใจของคุณในวันนี้ ส่งผลต่ออนาคตของคุณเสมอ
แม้แต่การ "ไม่เลือก" ก็ยังเป็นการเลือกอย่างหนึ่ง
ถ้าคุณเลือกลงทุนกับการพัฒนาตัวเอง
คุณคิดว่าอนาคตของคุณจะเปลี่ยนไปแบบไหน
ถ้าคุณเลือกตามกระแสโดยไม่ไตร่ตรอง
คุณแน่ใจหรือเปล่าว่ามันคือสิ่งที่เหมาะกับคุณจริง ๆ
บางครั้งเรามัวแต่คิดว่าเรากำลัง "ใช้ชีวิต"
แต่ลืมไปว่าเรากำลัง "เลือกชีวิต" ให้ตัวเองอยู่ทุกวัน
อนาคตของคุณ ไม่ได้ถูกกำหนดโดยโชคชะตา
แต่มันถูกกำหนดโดย สิ่งที่คุณ "เลือก" ทำในตอนนี้ 🙃
GM #Siamstr
ถ้าคุณเลือกลงทุนกับการพัฒนาตัวเอง
คุณคิดว่าอนาคตของคุณจะเปลี่ยนไปแบบไหน
ถ้าคุณเลือกตามกระแสโดยไม่ไตร่ตรอง
คุณแน่ใจหรือเปล่าว่ามันคือสิ่งที่เหมาะกับคุณจริง ๆ
บางครั้งเรามัวแต่คิดว่าเรากำลัง "ใช้ชีวิต"
แต่ลืมไปว่าเรากำลัง "เลือกชีวิต" ให้ตัวเองอยู่ทุกวัน
อนาคตของคุณ ไม่ได้ถูกกำหนดโดยโชคชะตา
แต่มันถูกกำหนดโดย สิ่งที่คุณ "เลือก" ทำในตอนนี้ 🙃
GM #Siamstr
การคอร์รัปชัน คือคุณสมบัติของรัฐ #Siamstr
คืนพฤหัสนี้ #Siamstr
1 ทุ่ม Crypto Verse
2 ทุ่ม Right News
วันนี้พาลูกไปเรียนรู้จากร้านกาแฟ ไม่ได้แค่ไปนั่งดื่ม แต่ให้เขาสังเกตเอง ตั้งคำถามเอง ไม่ต้องให้คำตอบทันที แต่กระตุ้นให้ลูกคิดและวิเคราะห์เอง
ทำไมลูกค้าชอบนั่งมุมนี้ ?
พนักงานทำงานกันยังไง ?
อะไรทำให้ร้านนี้มีลูกค้าเยอะ ?
เชื่อมโยงกับชีวิตจริง-ถ้าเขาจะเปิดร้านเอง ต้องคิดอะไรบ้าง?
ฝึกคิดวิเคราะห์-อะไรที่ทำให้ร้านนี้เวิร์ค ?
ถ้าเป็นเขาจะปรับอะไรให้ดีกว่านี้ ?
นี่คือการทำ #Unschooling ให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งที่มีความหมายกับชีวิตจริง ที่ไม่ใช่แค่เรียนเพื่อสอบผ่าน การศึกษาไม่ใช่การบังคับ แต่คือการให้โอกาสเด็กได้ค้นพบและเลือกเส้นทางของตัวเอง #Siamstr #ลานกรองมันส์
ทำไมลูกค้าชอบนั่งมุมนี้ ?
พนักงานทำงานกันยังไง ?
อะไรทำให้ร้านนี้มีลูกค้าเยอะ ?
เชื่อมโยงกับชีวิตจริง-ถ้าเขาจะเปิดร้านเอง ต้องคิดอะไรบ้าง?
ฝึกคิดวิเคราะห์-อะไรที่ทำให้ร้านนี้เวิร์ค ?
ถ้าเป็นเขาจะปรับอะไรให้ดีกว่านี้ ?
นี่คือการทำ #Unschooling ให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งที่มีความหมายกับชีวิตจริง ที่ไม่ใช่แค่เรียนเพื่อสอบผ่าน การศึกษาไม่ใช่การบังคับ แต่คือการให้โอกาสเด็กได้ค้นพบและเลือกเส้นทางของตัวเอง #Siamstr #ลานกรองมันส์ #สภายาส้ม เปิดคลิปแรกของปีมาด้วยประเด็นที่เดือดสุด! สองเรื่องที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวกัน แต่พอขุดลึก ๆ มันเชื่อมโยงกันแบบโคตรชัด ใครพลาดบอกเลยว่าเสียดาย
เมื่อคืนอาจารย์ขิงพูดถึง USDT บน Bitcoin Lightning Network ที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของเงินดิจิทัลอีกครั้ง USDT หรือ Tether เป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าคงที่กับดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วหาก USDT บน Lightning ทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนง่ายขึ้น รัฐบาลจะรับมือยังไง ? มันจะกระทบแผนการออก CBDC ของธนาคารกลางแค่ไหน ? ถ้าผู้คนสามารถใช้ USDT ได้อย่างเสรีและรวดเร็ว ใครจะยังอยากใช้ CBDC ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ? (อาจารย์พิริยะเข้ามาแจมด้วยพอดีอย่างมันส์)
ซุปมองว่านี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำไปสู่การแข่งขันระหว่างเงินดิจิทัลของภาคเอกชนและเงินที่รัฐต้องการควบคุม การที่ USDT ใช้งานบน Lightning ได้ อาจทำให้ CBDC ต้องเร่งพัฒนาหรือหาทางจำกัดการใช้ Stablecoin ไม่ให้กลายเป็นตัวเลือกหลักของผู้คน แต่ถ้ารัฐออกกฎหมายมาควบคุมมากเกินไป คนอาจหันไปใช้บิตคอยน์ซึ่งเป็นเงินที่รัฐควบคุมไม่ได้เลย มันเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ระบบการเงินดั้งเดิมไม่เคยเผชิญมาก่อน
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ Silk Road ? ซุปคิดว่าถ้า USDT มาอยู่บน Lightning มันจะทำให้คนสามารถโอนเงินแบบไม่ต้องผ่านธนาคาร รวดเร็ว และแทบไม่มีค่าธรรมเนียม อาจทำให้เกิดตลาดเสรี เกิดเศรษฐกิจไร้ศูนย์กลางยุคใหม่ ที่รัฐควบคุมไม่ได้เหมือนสิ่งที่ Silk Road เคยเป็น....
แล้วอาจารย์พิริยะได้มาเล่าเรื่อง Silk Road แบบจัดเต็ม ไฟลุกทั้งรายการ! 🔥แกเล่าว่า Ross Ulbricht เป็นคนสร้าง Silk Road ตลาดออนไลน์ที่ใช้บิตคอยน์เป็นตัวกลางในการซื้อขาย มันไม่ใช่เว็บขายของธรรมดา แต่เป็นตลาดเสรีที่ให้คนซื้อขายอะไรก็ได้แลกเปลี่ยนกันด้วยความสมัครใจ (ยกเว้นของผิดศีลธรรม เช่น อาวุธหรือการจ้างวานฆ่า) โดยไม่มีรัฐหรือธนาคารมาควบคุม
Silk Road แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์สามารถใช้แทนเงินได้จริงแบบไม่มีตัวกลางและไม่มีใครมาสั่งปิดบัญชีคุณได้ มันคือฝันของตลาดเสรีที่แท้จริง แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น... รัฐบาลสหรัฐฯ มองว่า Silk Road เป็นภัย เพราะพวกเขาควบคุมมันไม่ได้ สุดท้าย Ross Ulbricht ถูก FBI จับในปี 2013 และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งล่าสุดเขาได้รับการอภัยโทษและออกมาเป็นอิสระแล้ว (เนื้อหาในรายการอ.เล่าให้ฟังแบบลึกละเอียดสุดๆ)
พอฟังอาจารย์แล้วซุปเห็นภาพและตกผลึกได้ว่า "แม้ Ross Ulbricht ที่ได้เคยถูกขังนานกว่าทศวรรษ แต่แนวคิดของเขาไม่ได้ถูกขังไปด้วย" ส่วน "Silk Road ที่ถูกปิดไปแล้ว แต่ตลาดเสรีที่รัฐบาลควบคุมไม่ได้ก็ยังคงเดินหน้าอยู่ต่อไปได้" ...
ซุปให้เป็นคลิปแรกของปีความมันส์ระดับ 9.5/10
เพราะเรื่องนี้เป็นอะไรที่ต้องควรจับตาดูกันต่อไป #Siamstr
เมื่อคืนอาจารย์ขิงพูดถึง USDT บน Bitcoin Lightning Network ที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของเงินดิจิทัลอีกครั้ง USDT หรือ Tether เป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าคงที่กับดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วหาก USDT บน Lightning ทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนง่ายขึ้น รัฐบาลจะรับมือยังไง ? มันจะกระทบแผนการออก CBDC ของธนาคารกลางแค่ไหน ? ถ้าผู้คนสามารถใช้ USDT ได้อย่างเสรีและรวดเร็ว ใครจะยังอยากใช้ CBDC ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ? (อาจารย์พิริยะเข้ามาแจมด้วยพอดีอย่างมันส์)
ซุปมองว่านี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำไปสู่การแข่งขันระหว่างเงินดิจิทัลของภาคเอกชนและเงินที่รัฐต้องการควบคุม การที่ USDT ใช้งานบน Lightning ได้ อาจทำให้ CBDC ต้องเร่งพัฒนาหรือหาทางจำกัดการใช้ Stablecoin ไม่ให้กลายเป็นตัวเลือกหลักของผู้คน แต่ถ้ารัฐออกกฎหมายมาควบคุมมากเกินไป คนอาจหันไปใช้บิตคอยน์ซึ่งเป็นเงินที่รัฐควบคุมไม่ได้เลย มันเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ระบบการเงินดั้งเดิมไม่เคยเผชิญมาก่อน
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ Silk Road ? ซุปคิดว่าถ้า USDT มาอยู่บน Lightning มันจะทำให้คนสามารถโอนเงินแบบไม่ต้องผ่านธนาคาร รวดเร็ว และแทบไม่มีค่าธรรมเนียม อาจทำให้เกิดตลาดเสรี เกิดเศรษฐกิจไร้ศูนย์กลางยุคใหม่ ที่รัฐควบคุมไม่ได้เหมือนสิ่งที่ Silk Road เคยเป็น....
แล้วอาจารย์พิริยะได้มาเล่าเรื่อง Silk Road แบบจัดเต็ม ไฟลุกทั้งรายการ! 🔥แกเล่าว่า Ross Ulbricht เป็นคนสร้าง Silk Road ตลาดออนไลน์ที่ใช้บิตคอยน์เป็นตัวกลางในการซื้อขาย มันไม่ใช่เว็บขายของธรรมดา แต่เป็นตลาดเสรีที่ให้คนซื้อขายอะไรก็ได้แลกเปลี่ยนกันด้วยความสมัครใจ (ยกเว้นของผิดศีลธรรม เช่น อาวุธหรือการจ้างวานฆ่า) โดยไม่มีรัฐหรือธนาคารมาควบคุม
Silk Road แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์สามารถใช้แทนเงินได้จริงแบบไม่มีตัวกลางและไม่มีใครมาสั่งปิดบัญชีคุณได้ มันคือฝันของตลาดเสรีที่แท้จริง แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น... รัฐบาลสหรัฐฯ มองว่า Silk Road เป็นภัย เพราะพวกเขาควบคุมมันไม่ได้ สุดท้าย Ross Ulbricht ถูก FBI จับในปี 2013 และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งล่าสุดเขาได้รับการอภัยโทษและออกมาเป็นอิสระแล้ว (เนื้อหาในรายการอ.เล่าให้ฟังแบบลึกละเอียดสุดๆ)
พอฟังอาจารย์แล้วซุปเห็นภาพและตกผลึกได้ว่า "แม้ Ross Ulbricht ที่ได้เคยถูกขังนานกว่าทศวรรษ แต่แนวคิดของเขาไม่ได้ถูกขังไปด้วย" ส่วน "Silk Road ที่ถูกปิดไปแล้ว แต่ตลาดเสรีที่รัฐบาลควบคุมไม่ได้ก็ยังคงเดินหน้าอยู่ต่อไปได้" ...
ซุปให้เป็นคลิปแรกของปีความมันส์ระดับ 9.5/10
เพราะเรื่องนี้เป็นอะไรที่ต้องควรจับตาดูกันต่อไป #Siamstr Unschooling ไม่ได้หมายความว่าเด็กจะต้องอยู่บ้านตลอดเวลา แต่หมายถึงเด็กจะได้เรียนรู้จากสังคมที่กว้างขึ้น ไม่ใช่แค่ในห้องเรียน
GM #Siamstr
GM ครับ
ตื่นตามตะวันขึ้นตลอดเลยแหะ #Siamstr
จากบทสนทนาแรก จากการรวมตัวกันครั้งแรกที่ลาน
จากกลุ่มคนที่มีไอเดียบางอย่างและกล้าลงมือทำ
เรามารวมตัวกัน… ไม่ใช่แค่เพื่อพูดคุย
แต่เพื่อวางรากฐานบางสิ่งที่เราตื่นเต้นกับมันมากๆ
เราเชื่อว่า โลกยังมีที่ว่างสำหรับสิ่งใหม่
เราเชื่อว่า หากคนที่ใช่มาพบกัน สิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้จะเป็นไปได้
เราเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เริ่มจากจุดเล็กๆ แบบนี้เสมอ
จุดเริ่มต้นของตำนาน... #LGM #ลานกรองมันส์
#Siamstr