ตื่นเต้นที่จะโน๊ตจัง ... มีใครลอง Spark Network แล้วบ้าง ส่วนตัวผมนั้น ผมคลุกคลีกับมันได้ประมาณ 1 สัปดาห์เอง ก็มีทั้งหาข้อมูลและได้ทดลองนั่นนี่ สนุกดี~ 🧡
จุดเริ่มต้นมาจากความสงสัยใน Self custody ของ Wallet of Satoshi สงสัยในความ... ว่า Seed ที่ได้มาเนี่ย เปิดใน Wallet อื่นๆ ได้มั้ย ? อย่างที่เป็นที่นิยมกันก็อย่างเช่น BIP39 เอ้อ! เราคุ้นเคย เราจะได้นำไปเปิดที่อื่นได้ด้วย แต่พอค้นหาความจริงแล้ว กลับได้คำตอบว่ามันเป็น Spark seed อื้ม... มันคืออะไรกัน ?
เท่าที่ผมหาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูล Spark Network ก็คือ Layer 2 ของ Bitcoin เช่นเดียวกับ Lightning Network แต่มันใหม่กว่า LN ซึ่ง Spark เข้ามาแก้ปัญหาความยุ่งยากบางจุดของ LN ทำให้มันเรียบง่ายยิ่งขึ้น รวดเร็วคล้ายกับ LN แต่แถมมาด้วยการเก็บด้วยตนเอง โดยมี Seed แถมมาให้ด้วย เป็น mnemonic แต่ ไม่ใช่ BIP39 ไม่ใช่ Bitcoin on-chain seed ไม่สามารถใช้ seed กู้ Bitcoin on-chain wallet ทั่วไปได้
และต้องยอมรับความเสี่ยงในหลายๆด้านว่ามันยังใหม่มากๆ ขนาดตัว Bitcoin เอง ยังใหม่มากๆสำหรับผู้คนทั่วไป LN ก็ใหม่ Spark ยิ่งใหม่กว่ามากๆ การเข้าถึงองค์ความรู้อาจต้องใช้เวลา รวมถึงการพัฒนาต่อในอนาคต แต่สิ่งเหล่านี้ ยิ่งนับวันยิ่งใช้งานง่ายขึ้น และไม่ใช่แค่ความใหม่เท่านั้น ยังมีความเสี่ยงด้าน L2 protocol , Liquidity และอื่นๆอีก
อีกอย่างที่ลองดูแล้ว Self custody ของ Wallet of Satoshi นั้น สามารถโอนเข้า Wallet ที่รองรับ Spark Network ได้ เหตุผลเชิงลึกอาจจะยังไม่เข้าใจมากนัก แต่ถ้าอธิบายง่ายๆ ก็คือ WoS รัน Self custody ไว้บน Spark Network แม้จะเป็น LN แต่มีกรณีที่ส่งข้ามหากันได้อยู่คือ...
“LN to Spark” กับ “Spark to Spark”
กรณี “LN to Spark” ใช้ Lightning เป็น bridge เพื่อ credit balance เข้า Spark
พูดถึง Self custody ของ WoS ว่าส่งไปหา Wallet ที่รองรับ Spark ได้แล้ว แต่เจ้าตัว WoS แบบ Custody ดั้งเดิมนั้น ไม่สามารถโอนข้ามเข้ามายัง Spark ได้ เพราะ Custody ของ WoS นั้นถูกเก็บไว้ใน Node ของ WoS ด้วย LN แท้ๆ จึงไม่สามารถโอนข้ามระบบได้เนื่องจากติดเรื่องของ Node และการอ่าน Invoice
Seed ที่ได้จาก Spark สามารถเปิดใน Wallet ใดก็ได้ที่รองรับ Spark Network
Spark seed (มาตรฐานของ Spark Network เอง) ไม่ใช่ BIP39 ไม่ใช่ Electrum seed จะใช้กู้ได้เฉพาะที่ที่รองรับ Spark Network เท่านั้น เพราะเป็น Spark Network private key สำหรับควบคุม Spark L2 state
อันนี้ได้ลองกับตัวเองมาอีกรอบนึง Self custody ของ WoS ที่ยังเป็น beta และยังไม่ใช่ Spark เต็มรูปแบบ โอนไปยัง Spark wallet แอพหนึ่งที่ได้เปิดไว้ ผลลัพธ์คือ หากตามทฤษฎีที่มันมีความเร็วเทียบเท่า LN กรณีนี้...ที่ได้ทดลองมี Delay นิดหน่อย อาจมีความช้ากว่า LN ด้วยปัจจัยต่างๆ ส่วนการโอนกลับจาก Spark wallet ที่ได้สร้างไว้ในแอพๆหนึ่งกลับไปที่ Self custody ของ WoS กรณีนี้ช้ามากๆๆๆๆๆๆ คิดว่าน่าจะมาจากปัจจัยที่ WoS ยังเป็นกึ่งๆช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งในการจัดการส่วนต่างๆอาจทำให้เสียเวลามากขึ้น
ใครอยากทดลองอะไรต่างๆ จัดสรรจำนวนและใช้จำนวนน้อยๆในการทดลองก่อนนะครับ ขอให้สนุกครับผม ✌️😊✨
โน๊ตนี้ไม่ได้มาโจมตีค่ายใดว่าดีหรือไม่ดี เป็นเพียงการศึกษาและการทดลองเท่านั้นครับ
หากมีข้อมูลเพิ่มเติม เมนท์ใต้โน๊ตได้เลยครับ ขอบคุณครับผม 🧡✨
#Siamstr #SparkNetwork
และส่วนตัวช่วงนี้มีงานยุ่งเหยิง ไม่ค่อยได้อัพเดทข่าวสารเท่าไหร่ อื้ม! พอดีเลย เห็นรายการ Right Tech ทำไว้ด้วย เดี๋ยวจะดูย้อนหลังนะฮะ ปล. การทดลองนี้เอาจริงๆยังไม่ได้ดูคลิปจากไหนเลย 555555 ปกติจะดูคนอื่นก่อนแล้วค่อยทำ เป็นคนย้ำคิดย้ำทำ ใครรู้สึกได้ถึงความพยายามของผม Zap เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆให้ได้นะครับ ขอบคุณครับ เขินตัวเองเหมือนกันแฮะ 😆😆
TATUN
tatun22@siamstr.com
npub13q3p...9cs9
🔺 Don't trust, Verify 🔻
Notes (15)
G M ⛅ 🌿
#Siamstr #Nostr
เดินทัวร์ร้านสะดวกซื้อชื่อดังแห่งหนึ่ง (พอดีเป็นทางผ่าน) เดี๋ยวนี้ขนม 5 บาท ปัดขึ้นเป็น 6 บาทกันจะยกแผงแล้วแฮะ เหลือไม่กี่ตัวที่ยังคง 5 บาท
#Siamstr
เฮือก! ไป Citadel ไม่ทัน รถติด 🥺
#Siamstr
แตกดาด ตากแดด ⛅
เหยียบหญ้า ชาร์จแบตฯ 🌱
🙏✨ GM #Siamstr

หลากหลายเหตุการณ์ จะทำให้เห็นถึงความหลากหลายของ Bitcoiner
#GM bro! #Siamstr
ไม่ว่าจะมีเยอะ หรือ น้อย
จะเปิดเผย หรือ ปิดบัง
จะเก็บเอง หรือ ฝากไว้
สิ่งที่ควรโฟกัสเป็นหลัก... ไม่น่าใช่ที่จำนวน แต่คือการที่เขาจะนำของของเขามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร ? ตรงนี้น่าสนใจกว่าเยอะ
“จำนวนที่โดดเด่น คือความตื่นเต้นระยะสั้น ๆ” ของคนที่มองเข้าไป
แก่นแท้ ๆ ของมันคือการนำมาใช้งานในรูปแบบที่ผู้ถือครองอยากจะให้มันเป็น
อีกเรื่องที่น่าสนใจ... คือการศึกษาด้านต่าง ๆ ต่อไป เพื่อใช้ความรู้นำมาลดความเสี่ยง
#Siamstr “Stay humble”
ทุกประเด็นข่าว ล้วนเชื่อมโยง #Bitcoin
#GM #Siamstr
แก๊ง 108 แก๊ง 1900
แก๊งคนมีน้อยแต่คิดบวก 55 (ฮ่าๆ)
มีแดกก่อน แล้วค่อยออม
GM #Siamstr
แด่ Bassist of Limp Bizkit - Take A Look Around และ Nu Metal ที่เรารัก 🤘
🤍
https://video.nostr.build/1736019fee9d7593d78d91771095306c9a118ef435804f1e4642e0c8f7460105.mp4
❤️
https://youtu.be/UQl7sXbjKAI?si=SSYRWKBHLSkJy16w
#Siamstr #Siammusic
พอเข้ามาติดตามด้านเทคโนโลยีของบิตคอยน์มากขึ้น ยิ่งเห็นภาพชัดขึ้นไปอีกว่า...
#Bitcoin is Not Crypto
#siamstr #GM #nostr
ไม่ว่า Bitcoin/Fiat จะทะยานสูงขนาดไหน Bitcoin ในระบบก็ยังมีเท่าเดิม Sat ก็ยังคงจำนวนและรักษามูลค่าข้ามผ่านกาลเวลาได้เช่นเดิม เก็บออมโง่ ๆ ต่อไป
Stay humble and Stack sats 🧡
#Siamstr
FOMO (Fear of Missing Out) = ความกลัวว่าจะพลาดโอกาส หรือ พลาดประสบการณ์ดี ๆ ที่คนอื่นกำลังมี
JOMO (Joy of Missing Out) = ความสุขที่ไม่ตามใคร และ พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี
GM #Siamstr ⛅🌿
เกลาเพิ่ม เพิ่มความเข้าใจ ✨
#Siamstr
Chain reorg หรือ Chain Reorganization
เหตุการณ์ที่เครือข่ายบล็อกเชน “สลับสายบล็อกหลัก (main-chain)” จากสายหนึ่งไปยังสายหนึ่งที่ถูกต้องตามกฎของโปรโตคอล อาจทำให้บางบล็อกของสายเก่าถูกยกเลิก หากบล็อกเหล่านั้นไม่อยู่บนสายใหม่
โดยปกติแล้วสายใหม่ต้อง ยาวกว่า หรือ มีความยาก (difficulty) รวมมากกว่า เครือข่ายจะถือว่าสายใหม่นั้นเป็นสายที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งตรงกับแนวคิด Proof of Work ของ Bitcoin
nostr:nevent1qqsfmm9au2hn530q8sr8rzlj9uwsvq3fwan0uthzdt0k26qj8rfjeecprpmhxue69uhhyetvv9ujumn0w3hhx6rf9emkjm30qgsgsgs4wz3qt96c9hk6dfw4nf5rgvcrg5j8uxv5wqz0thsnst7mv4qrqsqqqqqpyrntsw
Chain Reorganization (Chain Reorg) คืออะไร?
Chain Reorg คือเหตุการณ์ที่เครือข่ายบล็อกเชน “สลับสายบล็อกหลัก” จากสายหนึ่งไปอีกสายหนึ่งที่ยาวกว่า หรือตามกติกาของโปรโตคอลนั้นๆว่าเป็นสายที่ถูกต้องกว่า ส่งผลให้บล็อกที่เคยถูกยอมรับแล้ว “ถูกถอดออก” และธุรกรรมในบล็อกเหล่านั้นกลับไปอยู่ใน mempool (รอการยืนยันใหม่) หรือหายไปหากไม่ถูกบันทึกในสายใหม่
🔗⛓️🔗🔗⛓️
ทำไมจึงเกิด Chain Reorg?
1. การแข่งขันขุดบล็อก (Mining race) : นักขุดสองคนอาจเจอบล็อกใหม่ในเวลาใกล้กัน ทำให้เกิดสองสายชั่วคราว จนกว่าใครจะต่อบล็อกเพิ่มและทำให้สายตัวเองยาวกว่า
2. ความหน่วงของเครือข่าย (Network latency) : หากข้อมูลบล็อกไม่กระจาย อาจทำให้บางโหนดเห็นสายไม่ตรงกัน
3. Hashrate แกว่ง (Hashpower fluctuation) : หากพลังขุดสลับ-ย้ายพูลบ่อยๆ จะทำให้การสร้างสายมีการเปลี่ยนแปลงและเกิดการ reorg ได้ง่าย
4. การโจมตี (Attack scenario) : เช่น 51% Attack ที่ผู้โจมตีจงใจขุดสายลับแล้วปล่อยออกมาเพื่อแทนที่สายหลัก
💥💢🗯️💥💢
ระดับความรุนแรง
Reorg สั้น (1–2 บล็อก) : ถือเป็นเรื่องปกติในบล็อกเชน Proof of Work เกิดขึ้นได้บ่อยและโดยทั่วไปไม่มีผลกระทบมาก
Reorg ยาว (หลายบล็อกขึ้นไป เช่น 18 บล็อกที่เคยเกิดขึ้น) : นับว่าผิดปกติ อาจบ่งชี้ถึงความผิดพลาดของเครือข่ายหรือความพยายามโจมตี
😷🤒😵😵🤕
ผลกระทบที่ตามมา
ธุรกรรม : อาจถูกยกเลิกหรือดีเลย์ ทำให้ผู้ใช้ต้องรอยืนยันใหม่
การยืนยันธุรกรรม (Confirmations) : ยิ่งรอจำนวนคอนเฟิร์มมากขึ้น ยิ่งปลอดภัยจากผลกระทบของ reorg
ความเชื่อมั่นของเครือข่าย : Reorg ยาวบ่อยๆ อาจทำให้ผู้ใช้ นักพัฒนาและผู้ให้บริการกังวลเรื่องความปลอดภัย
👌👇👇👆👇
สรุป
Chain Reorg คือหนึ่งในกลไกของบล็อกเชนที่ทำให้เครือข่ายเลือก “สายหลักที่ถูกต้องที่สุด” แม้จะทำให้บล็อกที่เคยถูกยอมรับถูกถอดออกก็ตาม ปกติ reorg สั้นๆถือว่าไม่อันตราย แต่หากเกิด reorg ยาว (เช่น 18 บล็อกที่เคยเกิดขึ้น) ถือเป็นสัญญาณที่ควรจับตามอง อาจบ่งบอกถึงปัญหาของเครือข่ายหรือการโจมตีที่ตั้งใจ
#GM #Siamstr #ChainReorg
Chain Reorg คือเหตุการณ์ที่เครือข่ายบล็อกเชน “สลับสายบล็อกหลัก” จากสายหนึ่งไปอีกสายหนึ่งที่ยาวกว่า หรือตามกติกาของโปรโตคอลนั้นๆว่าเป็นสายที่ถูกต้องกว่า ส่งผลให้บล็อกที่เคยถูกยอมรับแล้ว “ถูกถอดออก” และธุรกรรมในบล็อกเหล่านั้นกลับไปอยู่ใน mempool (รอการยืนยันใหม่) หรือหายไปหากไม่ถูกบันทึกในสายใหม่
🔗⛓️🔗🔗⛓️
ทำไมจึงเกิด Chain Reorg?
1. การแข่งขันขุดบล็อก (Mining race) : นักขุดสองคนอาจเจอบล็อกใหม่ในเวลาใกล้กัน ทำให้เกิดสองสายชั่วคราว จนกว่าใครจะต่อบล็อกเพิ่มและทำให้สายตัวเองยาวกว่า
2. ความหน่วงของเครือข่าย (Network latency) : หากข้อมูลบล็อกไม่กระจาย อาจทำให้บางโหนดเห็นสายไม่ตรงกัน
3. Hashrate แกว่ง (Hashpower fluctuation) : หากพลังขุดสลับ-ย้ายพูลบ่อยๆ จะทำให้การสร้างสายมีการเปลี่ยนแปลงและเกิดการ reorg ได้ง่าย
4. การโจมตี (Attack scenario) : เช่น 51% Attack ที่ผู้โจมตีจงใจขุดสายลับแล้วปล่อยออกมาเพื่อแทนที่สายหลัก
💥💢🗯️💥💢
ระดับความรุนแรง
Reorg สั้น (1–2 บล็อก) : ถือเป็นเรื่องปกติในบล็อกเชน Proof of Work เกิดขึ้นได้บ่อยและโดยทั่วไปไม่มีผลกระทบมาก
Reorg ยาว (หลายบล็อกขึ้นไป เช่น 18 บล็อกที่เคยเกิดขึ้น) : นับว่าผิดปกติ อาจบ่งชี้ถึงความผิดพลาดของเครือข่ายหรือความพยายามโจมตี
😷🤒😵😵🤕
ผลกระทบที่ตามมา
ธุรกรรม : อาจถูกยกเลิกหรือดีเลย์ ทำให้ผู้ใช้ต้องรอยืนยันใหม่
การยืนยันธุรกรรม (Confirmations) : ยิ่งรอจำนวนคอนเฟิร์มมากขึ้น ยิ่งปลอดภัยจากผลกระทบของ reorg
ความเชื่อมั่นของเครือข่าย : Reorg ยาวบ่อยๆ อาจทำให้ผู้ใช้ นักพัฒนาและผู้ให้บริการกังวลเรื่องความปลอดภัย
👌👇👇👆👇
สรุป
Chain Reorg คือหนึ่งในกลไกของบล็อกเชนที่ทำให้เครือข่ายเลือก “สายหลักที่ถูกต้องที่สุด” แม้จะทำให้บล็อกที่เคยถูกยอมรับถูกถอดออกก็ตาม ปกติ reorg สั้นๆถือว่าไม่อันตราย แต่หากเกิด reorg ยาว (เช่น 18 บล็อกที่เคยเกิดขึ้น) ถือเป็นสัญญาณที่ควรจับตามอง อาจบ่งบอกถึงปัญหาของเครือข่ายหรือการโจมตีที่ตั้งใจ
#GM #Siamstr #ChainReorg