การบริจาค
ตลอดชีวิตที่เกิดมา การบริจาค เป็นการทำบุญที่ดีต่อใจ มีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก ถ้าไม่มีก็ต้องให้ เพราะกลัวคนรอบข้างมองเราด้วยความรู้สึกที่ขุ่นเคือง และบางครั้งการบริจาคเพื่อเยียวยาช่วยเหลือสิ่งที่เป็นปัญหาของส่วนใหญ่ในสังคมทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าทำไม"รัฐ"ถึงไม่คิดจะแก้ปัญหานี้ซักที่ ทั้งที่ประชาชนประสบปัญหาอยู่ ถ้าหากอยู่ระหว่างดำเนินการณ์ก็ต้องผ่านลายเซ็นต์เห็นชอบของผู้มีอำนาจ กระบวนการมันก็ช้าซะเหลือเกิน ถึงอย่างนั่นเราก็บริจาคให้ไปโดยหวังลึกๆในใจว่าจะทำให้ปัญหามันทุเลาลงได้บ้าง
หลังจากที่ได้ศึกษาบิทคอยน์ คำตอบของทุกอย่างก็ได้กระจ่างขึ้นได้ว่า ถ้าเราอยากให้ปัญหามันดีขึ้นตัวเราก็แก้ไขปัญหาหรือสนับสนุนเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งนโยบายปาหี่ที่ต้องรอ สว.อย่างน้อย 250 เสียง เห็นพ้องต้องกันเพื่อนำมูลค่าทรัพยากรของคนทั้งประเทศมาตอบสนองความไคร่ของกลุ่มคนส่วนมากเหล่านั้น และหวังว่ามีโอกาสถูกเลือกตั้งให้เป็นหัวหน้าห้องเรียนอีก 4 ปีข้างหน้า ถ้าอยากให้สังคมมันดีขึ้นจริงๆไม่มีเหตุผลที่จะต้องลงถนนไปประท้วง เพื่อให้ออกข่าวว่าเรามาแบบสันติ แต่ผู้มีอำนาจไม่รับฟังความคิดเห็นแถมยังใช้ภาษีของประชาชนเอง ให้คนที่ควรปกป้องประชาชน ไปสิ่งที่เรียกว่า"รักษาความสงบ" เหตุการณ์ที่ผ่านมามันไม่ต่างจากละครน้ำเน่าหลังข่าวช่องหลากสีที่วนฉายซ้ำๆ แต่เหตุการณ์จริงต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อและน้ำตาของประชาชนในประเทศ
ที่ผ่านมาคนในอำนาจมืดเหล่านั้นทำให้เราเข้าใจมาตลอดว่าการที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของคุณและลูกหลานดีขึ้นในอนาคตดีขึ้นจำเป็นต้องพึ่งพวกเขาที่เป็นคนดีย์ และมีความสามารถมากมาย เพียงแค่คุณต้องก้มไปเลียฝุ่นรองเท้าหนังของพวกเขาให้ใหม่อยู่เสมอก็พอ แต่ตอนนี้คุณมีทางเลือก มีอำนาจที่จะตัดสินใจในชีวิตของตัวเอง ถ้าอยากให้สังคมดีขึ้นมันก็มีแค่ตัวคุณเองที่จะทำมันได้ บทสรุปที่อยากจะบอกคือ "เวลามีค่า ศึกษาบิทคอยน์"
ความเดือดในเรื่องนี้เนื่องด้วยเห็นโปรเจคเรื่องบริจาคบน YouTube และมีความเห็นว่ามันจะดีหรือเปล่าถ้าบริจาคแล้วอิ่มใจสุดแท้แค่ตัวเรา
#siamstr
luckyCat
npub1w7qz...5cez
จำเป็นต้องเทรดหรือเปล่า
หลังจากได้เรียน CDC2023 ก็ได้ตระหนักรู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะเทรดในตอนนี้ และอาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาในชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำที่จะสามารถใช้วิชาทำให้ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ก็ด้วยที่เรียนมาทำให้ตัวเองรู้ว่าไม่เอาความมั่งคั่งที่หามาเอาไปโยนทิ้งกลางใจมหาสมุทรแห่งความโลภและความกลัวของตนเอง
ผมเชื่อว่าทุกคนอยากจะสบายและอยากทำตามความฝันที่วาดไว้ อย่างน้อยก็ตามทฤษฎี Hierarchy of Needs ที่ Maslow เมากัญชาและเล่าขานกันจนมาที่จริง ผมเคยได้ยินครั้งแรกตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยในคาบเรียน 50 นาที ที่อาจารย์เข้าสาย 30 นาทีเพราะมัวแต่ไปซื้อกาแฟ
สตาร์บัคส์ในห้างดังหลังอาหารเที่ยง จับใจความได้คร่าวๆว่าความหมายชีวิตการทำตามความฝันของตัวเองเป็นที่สุดของความต้องการ ทำให้นึกย้อนถึงสมัยที่ผมเป็นวัยรุ่นสิวขึ้นหนึ่งเม็ด กับความเพิ้อฝันที่ต้องการมั่งคั่งในเงินทอง อยากมีรถหรู อยากมีบ้านหลังใหญ่ที่สวยงาม มันเป็นสิ่งที่ผมอยากมีและอยากได้รับเป็นมรดกตกทอด เหมือนในละครหลังข่าวช่อง 3สี 7สี มาตลอด และไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ปกครองผมถึงจะต้องอดทนใช้รถกระบะที่ผมเป็นคนเลือกตั้งแต่อนุบาล 3 ทั้งที่ 2 คนมีอาชีพเป็นข้าราชการแท้ๆผมอยากจจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ และมีของที่อยากได้ตั้งเยอะแยะ
และแล้วคำตอบแห่งความจริงก็ซัดหมัดหนักเข้าเบ้าหน้าผมอย่างจังว่าพ่อแม่มึงส่งเรียนจบ จบ ป.ตรี โดยที่มึงไม่อดอยากเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจจะมอบให้แบบที่ไม่มีใครในโลกนี้จะให้ได้อีกแล้ว "เงินเดือนก้อนแรก" ที่หามาได้ด้วยลำแข้งตัวเอง 11,030 บาท และตั้งใจจะมอบเงินที่ท่านให้ใช้แต่ละเดือนจำนวน 6,000 บาท คืนให้ท่านทั้ง 2 เพื่อจุดประสงค์บางอย่างที่คาใจ เงินที่เหลือใช้ในเดือนแรกคือ 5,030 บาท อย่างที่คาดไว้ได้กินมาม่าอยู่ครึ่งเดือน และผมก็ได้รับรู้ความหมายของทุกสิ่งในชีวิตที่ผ่านมาว่ามันดีที่สุดที่ท่านจะมอบให้ได้แล้ว
ตอนนี้ก็ 3 ปีแล้วที่ผมทำงานตั้งใจเก็บเงินศึกษาแนวคิด และลองลงทุน อะไรหลายๆอย่างทั้ง เงินสด พันธบัตรรัฐบาลทองคำ บิทคอยน์ คริปโต กองทุนรวม หุ้นและกองทุนรวม ก็ได้รับรู้ว่าการลงทุนเป็นทักษะวิชาชีพที่ไม่ต่างจากที่เรียนมาเลยและได้จ่ายค่าบทเรียนแพงจนต้องกลับไปเลียแผลอยู่หลายเดือน และได้ตัดสินใจแบ่งเงินเก็บมาจ่ายเรียน CDC2023 และประเมินตัวเองว่ายังไม่พร้อมที่จะไปเล่นท่ายากอะไรในตอนนี้ เก็บมูลค่า เก็บความมั่งคั่งไม่ให้ระเหยไปในทรัพย์สินที่มั่นคงก่อน มีความสุขกับการทำงาน มีความสุขกับการศึกษาสิ่งต่างๆไปก่อนในตอนนี้ ส่วนวิชาที่เรียนมาคงจะฝึกฝนทบทวนเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ตลาดไม่หนีไปไหนคนในตลาดก็คนเดิมที่เต็มไปด้วยความโลภกับความกลัว ไม่ว่าจะผ่านมานานกี่ร้อย กี่พันปี มันก็คนเดิม จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง
ถ้าเปรียบเทียบMempoolตอนนี้กับการขึ้นรถเมล์
ผู้โดยสารปาค่าโดยสารใส่หน้าคนขับรถอยู่อะ
#siamstr


"อาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้
หรืออาจจะ... ไม่เป็นประโยชน์กับอะไรเลยก็ได้"
การที่ศึกษา บิทคอยน์ แนวคิดหลักเศรษฐศาสตร์ออสเตรียน และเลือกที่จะเก็บมูลค่าการทำงานลงไปในสิ่งที่ตนเองเข้าใจในตอนนี้ ที่ปฎิเสธไม่ได้ว่าอาจจะล้มเหลวไม่เป็นท่า พอคิดวกไปวนมาก็กลับไปประโยคข้างบนว่า...
#siamstr
ปกติจ่ายตลาดแม่ค้าจะถามว่ารับอะไรดีสุดหล่อ ผมนี่เดินอย่างกะนายแบบ ยืดออกหน้าซอยยังท้ายซอยอะ