Somnuke's avatar
Somnuke
SOMNUKE@RIGHTSHIFT.TO
npub1xzh2...e7dt
ผมชื่อสมนึก มาจากองค์การสร้างความปวดกบาลแห่งชาติ
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
ใครมาทำลูกพี่ผม เจอกันได้! image #Siamstr
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
โลกยุคใหม่ต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ ทุกคนควรมีรายได้ที่เท่าเทียมกัน image แต่ลองมองดูดี ๆ ความเหลื่อมล้ำก็คือธรรมชาติ เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะเท่าเทียม คนที่เรียกร้องสิ่งเหล่านี้คุณคิดดีๆ ต่อให้เรียนเชิญมนุษย์ต่างดาวมาเป็นนายก เราก็ไม่มีวันแก้ไขสิ่งเหล่านี้ได้ . คุณทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน กับผมที่นอนเกาไข่ไปวันๆ ผมควรได้เงินเท่าคุณเหรอ . คนที่ทำมากก็ได้มาก คนที่ทำน้อยก็ได้น้อย มันไม่เท่าเทียมตรงไหน? คนที่ไม่พยายามแต่มีเส้นสายได้ประโยชน์จากอำนาจรัฐต่างหาก ที่น่ารังเกียจ . ส่วนคนที่ยากจนเพราะพิการหรือไม่สามารถทำงานได้ที่สมควรช่วยเหลือจริงๆ คนรับหน้าที่ควรเป็นกองทุนที่บริหารโดยเอกชน คนที่มีกำลังทรัพย์ส่วนใหญ่เขาพร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนคนที่ลำบากจริงๆ อยู่แล้ว แต่ต้องเป็นไปด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่บังคับให้เราช่วยภายใต้โครงสร้างที่ เงินจากเรา 10 มันไปถึงมือเขาแค่ 1 แถมได้หน้า ได้คะแนนนิยม ได้การตลาดโดยไม่ต้องลงทุน เป็นนักบุญทุนชาวบ้าน . รัฐไม่มีวันบริหารสวัสดิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ . และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะบริหารกองทุนเพื่อคนยากจน คือ "เงิน" มันต้องเป็นเงินที่ทุกบาททุกสตางค์สามารถตรวจสอบได้โดยประชาชนทุกคน ซึ่งเงินเฟียตอย่างบาทหรือดอลลาร์ ไม่ตอบโจทย์นี้ เพราะบัญชีมันตบแต่งได้ . การที่รัฐบังคับดึงเงินที่เปื้อนหยาดเหงื่อจากคุณ 30% หรือครึ่งนึงมาให้ผม ผมโคตรชอบเลย หลายคนคงเป็นแบบผม คือข้ออ้างเยอะแยะมากมาย สังคมกดทับ นายทุนกดขี่ ต้นทุนชีวิตไม่ดี เข้าไม่ถึงโอกาส บลาๆๆๆๆๆ แต่จริงๆ แล้ว ขี้เกียจเป็นหลัก ไม่มีอะไร.. . แล้วมันเท่าเทียมต่อคนที่อดทน มุ่งมั่น พยายาม ขยันหมั่นเพียรรึเปล่า ยิ่งขยันมากเท่าไรก็ยิ่งถูกปล้นมากเท่านั้น แล้วจะพยายามไปเพื่ออะไร โดยเฉพาะรัฐสวัสดิการเบ็ดเสร็จในฝัน ที่พ่อพระผู้เจริญดึงเงินออกจากคนที่สร้างคุณค่าและจัดสรรให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน . สุดท้ายใครจะลุกขึ้นมาสร้างคุณค่าให้สังคม ทุกคนก็จะไหลไปเก่าไข่เหมือนๆ กัน ใครจะอยากพยายาม เพราะยิ่งพยายามยิ่งถูกลงโทษ . เงินจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ก็ต่อเมื่ออยู่ในมือคนที่มีความสามารถในการสร้างคุณค่า สร้าง productivity . เช่น คุณที่เป็นเจ้าของกิจการ กับผมที่ดูดม้าไปวันๆ มีชีวิตเพื่อหาเงินซื้อม้าดูด ใครจะบริหารเงิน 1 ก้อนได้ดีกว่ากัน . คนที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย ก็ถูกต้องแล้วที่จะได้เปรียบคนอื่น เข้าถึงโอกาสและทรัพยากรได้มากกว่าคนอื่น แต่เฉพาะกับกติกาที่แฟร์ . กระแสสังคมกำลังหลอกให้เราไปผิดทาง เพราะต้นตอของหายนะแห่งความเหลื่อมล้ำที่ดูเหมือนจะหนักขึ้นทุกวันๆ นี้ มันมาจากระบบการเงินที่เราใช้ วายร้ายมันคือเงินเฟียตที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อเรานี่แหละ มันดึงความมั่งคั่งของทุกคนไปอยู่ในมือคนไม่กี่คน ใครยังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เดี๋ยววันนึงคุณก็จะเข้าใจเอง . ระบบเฟียตสร้างมหาเศรษฐีมากมาย ที่ร่ำรวยจากการถืออำนาจหรืออยู่ใกล้แหล่งอำนาจในการควบคุมเงิน มันไม่ได้เก่งจริงไอฟาย เช่น กูประสบความสำเร็จเพราะพ่อกูเป็นรัฐมนตรี กูโคตรรวยเพราะได้สัมปทานผูกขาด ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องแข่งขันกับใคร เซ็นสัญญารับเงินล่วงหน้าเป็นสิบๆ ปี . อันนี้แหละผมว่าความเหลื่อมล้ำที่แท้จริง สำหรับเรา คนทั่วไปต้องปีนหน้าผา แต่บางคนมันขึ้นลิฟท์ . ดังนั้น โลกไม่ได้ต้องการรัฐบาลที่เป็นคนดี ไม่คดโกง แต่ต้องการระบบที่ทุกคนสามารถ Work ภายใต้ Proof เดียวกัน #Siamstr
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
ราคาบ้านมันอยู่ในจุดที่คนส่วนใหญ่เกินจะเอื้อมถึงแล้ว image ทุกวันนี้มันไปกันใหญ่แล้ว การจะมีบ้านหลังน้อยๆ ซักหลังกลายเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ สำหรับคนวัย 30-40 ปี แบบผม ที่ควรจะมีบ้านเล็กๆ สักหลัง มีลูกอย่างน้อย 1 คน แต่กลับไม่มีอะไรเลย...เข้าวัยกลางคนแล้วส่วนใหญ่ยังสร้างเนื้อสร้างตัวกันไม่ได้ จะเก็บเงินซื้อสดก็ไม่มีวันไล่ราคาบ้านทัน จะกู้ซื้อก็ต้องกัดฟันอยู่แบบอัตคัทขัดสนไปจนเกษียณ ส่วนคนที่เก่งกว่าค่าเฉลี่ยของประชากร ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีรายได้สูงซึ่งมีสัดส่วนน้อยมาก ก็จะกว้านไล่ซื้อที่ดินมาถือครองให้มากที่สุด ซื้อแล้วก็ไม่ได้อยู่อาศัย บางคนแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลยด้วยซ้ำ ทำไปทำไมกัน? ใครหลายคนคงคิดว่ามันคือเรื่องปกติ เดี๋ยวนี้ราคาที่ดินมันก็แพงแบบนี้แหละ เพราะความเจริญมันเข้าถึง มูลค่ามันเลยเพิ่ม แต่จริงๆ แล้วมันโคตรผิดปกติ ทุกคนกำลังซื้อมันในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริงไปหลายเท่า เพราะมันกำลังถูกใช้งาน "ผิดประเภท" มันมีความต้องการแฝงจำนวนมหาศาลที่แอบซ่อนอยู่ ตอนนี้แทบไม่เหลือโอกาสให้เราซื้อของถูกหรือในราคาที่เหมาะสม เหมือนคนรุ่น Baby Boomers หรือ GenX เคยมี เพราะมันถูก "แย่ง" ซื้อจนผลักราคาไปไกล แม้ในพื้นที่ทุรกันดารมันก็ยังมีราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น คงมีแค่ไม่ถึง 1% ของประชากรที่สามารถซื้อบ้านหรือที่ดินได้โดยไม่เป็นหนี้ ผู้คนทั่วไปทำงานทั้งชีวิตแต่สามารถซื้อที่ดินได้แค่แปลงเดียว และจะซื้อได้ด้วยการกู้เท่านั้น ซึ่งต้องผ่อนไปจนเกษียณ ได้เป็นเจ้าของบ้านจริงๆ แค่ไม่กี่ปีก็ตายห่าน และมันยากขึ้นทุกวันๆ หลายคนก็ขยันทำมาหากิน ดิ้นรนทุกวิธีทางแล้วแต่มันไม่พอ เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ผู้คนทำงานทั้งชีวิต ทั้งที่หน้าที่การงานรวมถึงรายได้ก็โอเค แต่ไม่มีปัญญาซื้อบ้านได้สักหลัง ที่ดินมันแพงมหาโหดเพราะ demand ที่ควรจะมาจากแค่ 1 ความต้องการ มันกลับมาจากความต้องการถึง 3 ส่วน 1. เพื่อใช้ประโยชน์ เช่น อยู่อาศัย ทำธุรกิจ ทำเกษตร ทำนู่นนี่ 2. เพื่อรักษามูลค่า (store of value) แทนเงินที่มันเสื่อมค่าตามกาลเวลา 3. เพื่อเก็งกำไร ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ตั้งต้นมาจากสาเหตุเดียว คือ เพราะเรามี "เงินมันเxี้ย" มันไม่สามารถเก็บรักษามูลค่าได้ ผู้คนจึงต้องหาอย่างอื่นมาเก็บรักษาความมั่งคั่งแทนเงิน ซึ่งอันดับ 1 หวยมันไปตกอยู่ที่ "ที่ดิน" มันเก็บรักษามูลค่ามั่นคงที่สุด เสี่ยงน้อยที่สุด คงทนข้ามผ่านกาลเวลาและส่งต่อให้คนรุ่นหลังในครอบครัวได้ ถ้าไม่เกิดสงคราม หรือรัฐบาลเพี้ยนไล่ยึดที่ดินประชาชน ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ข้อ 2 กับ 3 นี่แหละคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้มันแพง คนร่ำรวยทุกคนไม่ได้ซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยหรือใช้งาน นึกๆ ไป คนในยุคหินอาจจะมีชีวิตที่ดีกว่าเรา ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมาย บ้านก็ไปจองที่ว่างๆ ในถ้ำเอา เดือนๆ นึงทำงานไม่กี่วันพอ ไปล่าวัวแพะแกะกวางมาซักตัว แล้วตากแห้ง กินทั้งครอบครัวได้เป็นอาทิตย์ หมดแล้วก็ค่อยออกไปล่าใหม่ ไม่ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ฝ่ารถติดออกไปทำงานแทบทุกวัน ไม่เหลือเวลาให้ครอบครัว เพื่อแค่มีกินไปวันๆ และรู้ตัวอีกทีว่าสิ้นเดือนมันไม่พอแดก เมื่อวันนึงโลกเรากลับมามี "เงินที่ดี" อีกครั้ง demand ในส่วน store of value และ เก็งกำไร ก็จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะผู้คนไม่จำเป็นต้องใช้ที่ดินทำหน้าที่เก็บรักษามูลค่าแทน "เงิน" ที่เสื่อมค่าลงทุกวัน คนก็จะตัดสินใจซื้อเพื่อแค่อาศัยกันมากขึ้น ราคาที่ดินมันก็จะสมเหตุสมผลมากขึ้น ไม่เหมือนทุกวันนี้ที่คนแย่งซื้อกันเป็นบ้าเป็นบอ คนทั่วไปที่ต้องการแค่อยู่อาศัยก็ไม่มีกำลังพอจะไปแย่งด้วย เรากำลังถูกบังคับให้ใช้ "เงินเฟียต" ที่ไม่มีคุณสมบัติดีพอที่จะเป็นเงิน มันคือตัวการที่นำพาความล่มสลายมาสู่อารยธรรมมนุษย์ในแทบทุกส่วน และที่ดินเป็นแค่เพียงตัวอย่างเดียว Fix the money fix the world #Siamstr
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
วันเสาร์ที่ 6 เมษายนนี้ ใครว่าง ไปเจอกันที่งานเปิดตัวหนังสือ The Fiat Standard นะครับ image เล่มไหนยังไม่มีลายเซ็น พกไปให้ อ. ตั๊มเซ็นได้เลย ที่บูธซีเอ็ด ล็อก L47 ชั้น LG งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ #Siamstr
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
อัตราเงินเฟ้ออย่างน้อยๆ มันต้อง 5-10% ต่อปี และตั้งแต่ช่วงโควิดจนถึงวันนี้ อาจจะแตะ 2 หลักมาตลอดก็เป็นได้ image แต่เราไม่มีวันรู้ความจริง... เงินเฟ้อ ที่ฟังดูน่ารักมุ้งมิ้ง เหมือนท้องอืดท้องเฟ้อนี้ควรถูกเรียกใหม่ว่า "เงินเสื่อมค่า" เพราะมันคือภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุด ตัวแปรหลักที่นำพามนุษยชาติถอยหลังลงคลอง ราว 50-60 ปีก่อน แม่ผมเข้ารับราชการที่บ้านนอก รับเงินเดือนครั้งแรก 1300 บาท ข้าวจานละบาท ยังพอหากินได้ มันซื้อได้เป็นพันจาน มันกินเองเหลือๆ รับราชการในยุคนี้ วุฒิ ป. ตรี เงินเดือน 15,000.- ข้าวจานละ 40 บาท เริ่มหายากแล้วและกินก็ไม่อิ่ม ไม่ก็อิ่มเพราะได้ข้าวเยอะ กับข้าวแทบไม่มี และที่สำคัญเอาเงินทั้งเดือนไปซื้อข้าวได้แค่ 300 กว่าจาน รวมค่าใช้จ่ายทุกส่วนแล้ว ผลคือ มันไม่พอ! ความสามารถในการเลี้ยงดูตัวเองจากเงินเดือนเริ่มต้น ของคนยุคนี้มันต่ำกว่าคนยุคก่อนมากมายหลายเท่า ไม่แปลกเลยที่คนทำงานประจำโดยทั่วไปจะมีชีวิตที่ลำบากมาก เก็บออมไม่ได้ สร้างทรัพย์สินไม่ได้ และดูท่าจะค่อยๆ แย่ลงด้วยซ้ำเพราะรายได้มันโตไม่ทันราคาข้าวของที่แพงขึ้น ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจากพ่อแม่ แทนที่จะให้เขาพึ่งพาเรา พ่อแม่ใครทำไว้ดีก็รอดไป ส่วนใครที่บ้านมีฐานะยากจนเป็นทุนเดิม ชีวิตคุณจะยากลำบากกว่าหลายเท่าตัว คนเริ่มทำงานยุคนี้ คุณต้องมีเงินเดือนเริ่มต้น 6-70,000.- คุณถึงจะมึกำลังซื้อเท่ากับคนยุคก่อน ไหวเหรอ? โลกมันผิดเพี้ยนไปกันใหญ่ เอาแบบหลักการหน่อย CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค คือตะกร้ารวมสินค้าที่รัฐเอามาคำนวณเงินเฟ้อ มันใช้การไม่ได้ ไม้บรรทัดที่ใช้วัดมันยืดหดได้ มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อะไรแพงเอาออก อะไรกระจอกเอาเข้า มันจึงไม่เคยสะท้อนภาระต้นทุนที่แท้จริงที่ประชาชนต้องแบกรับเพิ่มเลย สรุปง่ายๆ คือมีไว้ทำเหี้ยอะไรไม่รู้ โดยที่ให้เหตุผลเราว่า "สินค้าเหล่านี้มันควบคุมไม่ได้" ว๊อทเดอะ....! ทั้งๆ ที่สินค้าที่คุณเอาออกมันคือสินค้าจำเป็นที่เราไม่ซื้อก็ต้องซื้อ ไม่อยากใช้ก็ต้องใช้ คือต้นทุนชีวิตหลักของผู้คน เช่น เนื้อสัตว์และพลังงาน เนื้อวัว หมูแพง ก็เอาปลามาใส่แทน น้ำมันราคาพุ่งสูงไปไกลก็เอาตากตะกร้าคำนวณไปเลย ถ้าหลักการเป็นแบบนี้ แล้ว CPI มันจะสะท้อนเงินเฟ้อได้อย่างไร? รัฐและธปท. จะหาสูตรคำนวณทุกวิถีทางให้ตัวเลขมันต่ำที่สุด เพื่อความสบายใจของประชาชน ตัวเลขสูงๆ แล้วผู้คนจะใจสั่นกินไม่ได้นอนไม่หลับ ประชาชนไม่รู้ความจริงเลยว่า ชีวิตเขากำลังจะเผชิญกับอะไรที่รออยู่ข้างหน้า แม้ว่าหายนะของเงินเสื่อมค่านี้ คือตัวแปรที่ทำร้ายทำลายชีวิตของผู้คนอย่างแสนสาหัสที่สุดแล้ว มันขโมย เวลา หยาดเหงื่อแรงกาย ความพยายามทุ่มเท ของผู้คนที่ขยันหมั่นเพียรตั้งใจทำมาหากินออกไปหนักขึ้นทุกวัน หลายคนใช้เวลาทำงานทั้งชีวิตเพื่อบ้านเล็กๆ แค่ 1 หลัง ที่มันจะปลอดหนี้และได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของแค่ไม่กี่ปีในช่วงบั้นปลายของชีวิต และหลายคนไม่มีสิทธิ์ที่จะมีที่ซุกหัวนอนเป็นของตัวเองไปจนวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยซ้ำ ในวันนี้รู้ตัวอีกที คนส่วนใหญ่ก็อยู่ในสถานะไม่เหลือ "อนาคต" อีกต่อไป เรื่องที่สำคัญกับชีวิตประชาชนขนาดนี้คุณยังโกหก แล้วเราที่เป็นประชาชนธรรมดา จะหวังพึ่งพาเหี้ยอะไรจากพวกมึงได้ พวกกูชีวิตถูกทำลายขณะที่มึงนอนเกาไข่บงการชีวิตผู้คนในอ่างจากุชชี่ #Siamstr
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
รัฐสวัสดิการคือทางออกของคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน? image อาจจะใช่ ถ้าเราวัดผลมันแค่ปีสองปี เพราะมันจะดีแค่ระยะสั้นเท่านั้น และระยะยาวมันจะนำพามาซึ่งปัญหาใหญ่ . ค่าใช้จ่ายมันไม่มีวันพอ ถ้าประชาชนไม่ร่วมแรงร่วมใจกันลุกขึ้นมาสร้างรายได้ . ผลพวงจากระบบเฟียตที่ครองโลกมายาวนาน ทำให้ความมั่งคั่งของประชาชนถูกผ่องถ่ายไปออกไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว ผู้คนจะค่อยๆ พึ่งพาตัวเองไม่ได้ ไม่สามารถอยู่รอดถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก "ฮีโร่" ประชาชนจะไม่มีทางเลือกนอกจากรอรับการช่วยเหลือไปเรื่อยๆ และรัฐก็ไม่สามารถหยุดอุดหนุนสวัสดิการได้ แม้ว่าอยากจะลดบางส่วนก็ตาม เพราะหยุดเมื่อไร ผู้คนส่วนใหญ่จะอดอยากและตกระกำลำบากทันที . เฟียตแทรกแซงกลไกธรรมชาติ จากที่มนุษย์ต้องดิ้นรนและแข่งขันเพื่อการเอาตัวรอด บิดเบี้ยวมาสู่การที่มนุษย์จำเป็นต้อง "พึ่งพา" ผู้ปกครองเพื่อความอยู่รอด และมันวิวัฒนาการ . ผู้คนจะต้องการมันมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น . เป็นวงจรอุบาทว์ไร้ที่สิ้นสุด เงินที่เสกหรือกู้มาใส่ มันค่อยๆ ร่อยหรอลง แถมยังสร้างเงินเฟ้อ ราคาข้าวของแพงขึ้นตามเม็ดเงินที่อัดฉีดเข้ามา เพราะมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศมันไม่ได้เพิ่มตาม . เมื่อผู้คนเสพติดการช่วยเหลือ สัญชาตญานการเอาตัวรอดก็ลดลง เขาจะเรียกร้องมันมากขึ้น เป็นไปได้ขอให้มีเงินอุดหนุนจากรัฐในทุกๆ ส่วนของชีวิต . ทุกการกระทำมีราคาต้องจ่าย ประชาชนไม่รู้ตัวเลยว่าอนาคต มีนรกบนดินรออยู่ เพราะเงินที่หามาได้มันไม่พอ มันต้องดึงมาจากในอนาคต ยังไม่นับการจัดสรรงบประมาณที่ไร้ประสิทธภาพ . งบทั้งหมดกว่าครึ่งถูกใช้เป็นค่าจ้างผู้ปฏิบัติงาน และ 30% ไหลไปกองอยู่กับกลุ่มคนใกล้ที่ใกล้ชิดกับผู้ถืออำนาจ อาจจะแค่ 10-20% ที่ไหลไปถึงมือคนยากจนหรืออาจจะน้อยกว่านั้น.. . ช่วงแรกมันก็ดี ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก็มันจะไม่ดีได้ไง ลองนึกภาพว่ามันเสมือนการใช้บัตรเครดิต ตอนรูดซื้อนั่นซื้อนี่ เอาเงินไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ซื้อความสุขความสบายระยะสั้น ทุกอย่างมันแฮปปี้ แต่ตอนใช้คืนล่ะมึงเอ้ยยย ยิ่ง Leverage สูงๆ สร้างหนี้เกินตัวมากๆ ยิ่งไม่อยากจะคิด รู้ตัวอีกทีเป็นหนี้บัตร 10 ใบเต็มวงเงิน เอาบัตรนั้นมาโปะบัตรนี้ พอกหนี้มากขึ้นทุกวัน สุดท้ายก็พังพินาศ . มันมีคนบางกลุ่มที่ได้ประโยชน์มากกว่าคนอื่น อิ่มหนำสำราญกับการเอาขันมารองเงิน ที่รั่วออกมาจากกะละมังที่ใช้ใส่สิ่งที่เรียกว่างบประมาณแผ่นดิน . และทิ้งขี้กองยิ่งใหญ่ ที่มาพร้อมความบรรลัยที่ใหญ่ยิ่ง โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไร . ความจริงแม่งช้า! กว่าทุกคนจะโดนลงโทษจากการกระทำนี้ มันก็อาจจะผ่านไปหลายปี ผ่านไปนานจนเราไม่รู้ว่า ความพังพินาศที่เกิดขึ้นมันมาจากใคร มันมาจากนโยบายอะไร . เมื่อไรก็ตามที่วงจรนี้ถูกปิดลง ปิรามิดบู้บี้รูปทรงน่าเกลียดแห่งการอยู่รอดนี้ จะพังทลายลงอย่างรวดเร็ว ผู้คนส่วนใหญ่ของโลกจะอดอยากและประสบความยากลำบากอย่างที่สุด เพราะเขาไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้เลย . คนที่ไม่ยอมอดตาย พวกเขาก็จะดิ้นรนมีชีวิตรอดทุกวิถีทาง โดยไม่สนวิธีการ คุณธรรม จริยธรรม จิตสำนึกใดๆ บ้านเมืองเกิดความโกลาหลวุ่นวายไปทั่วทุกสารทิศ . คุณจะยอมอดตายวันนี้ หรือคุณจะปล้นคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดไปอีกวัน . ณ วันนี้ โลกเราจึงอยู่ในสถานะ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพราะอำนาจในการควบคุมเงินมันดันไปอยู่ในมือมนุษย์ และมนุษย์ผู้นั้นก็ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง แต่คนที่รับผิดชอบคือประชาชน . คนส่วนใหญ่ อาจจะไม่ต้องรอรับการช่วยเหลืออย่างทุกวันนี้ก็ได้ ถ้าเขาไม่ถูกสูบความมั่งคั่งออกไปจากเงินที่มันเสื่อมค่า ที่เรียกชื่อทางการน่ารักๆ ว่า "เงินเฟ้อ" #Siamstr
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
ห้องน้ำชายเซ็นทรัล งัดขามาไขว่ห้าง เขาทำไปเพื่ออะไรครับ #Siamstr
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
แมงอะไรครับ
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
ทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางการเมืองไปสู่มือประชาชนอย่างแท้จริง image คือเราจะต้องหลุดพ้นจากระบบการเงินที่ผูกโยงกับอำนาจรัฐ เราต้องมีเงินที่ไม่ใช่ของรัฐอีกต่อไป . เราจำเป็นต้องมีเงินดิจิทัลที่มีหน่วยของตัวมันเอง ไม่ใช่หน่วยของประเทศใดประเทศหนึ่ง มันต้องมีคุณสมบัติต้านทานเงินเฟ้อ . ต้องเป็นเงินที่ไม่สามารถถูกใครหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ควบคุมแทรกแซงการผลิตได้ ผู้ใช้งานจะเป็นผู้ร่วมผลิตมันเองภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน . นโยบายการเงินถูกกำหนดด้วยโค้ด และไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะโค้ดเหล่านี้จะได้รับการปกป้องจากผู้ที่ใช้งานมัน . การควบคุมผูกขาดบริการของรัฐจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเป็นการแข่งขันของเอกชน . เงินจะมีค่ามากขึ้นและมูลค่าของมันจะขึ้นลงอย่างเสรี . เงินที่ทำให้สิทธิพิเศษของผู้ถืออำนาจควบคุมระบบการเงิน ถึงจุดสิ้นสุด . อัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมจะขึ้นอยู่กับ Demand และ Supply มันอาจจะสูงขึ้นแต่ก็แฟร์มากขึ้น ช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้จะลดลง เพราะมันถูกกำหนดด้วยกลไกตลาด ไม่ใช่นโยบายของธนาคารกลาง . ค่าใช้จ่ายในการใช้ระบบการเงินนี้ ต้องจ่ายให้กับผู้ดูแลระบบ ที่ใครก็สามารถเป็นผู้ดูแลระบบได้ . ไม่มีต้นทุนแฝงที่ซ่อนมากับเงินเฟ้อ และการทุจริตคอรัปชัน ซึ่งเป็นต้นทุนสูงมาก . ระบบการเงินใหม่นี้จะถูกรักษาความปลอดภัยเอาไว้ด้วย Cryptographic Hash ที่มีความเข้มแข็งเกิน 100 bit ขึ้นไป . เงินใหม่นี้จะช่วยให้ประชาชนปลดแอกออกจากอำนาจการควบคุมกดขี่ของรัฐบาลได้อย่างแท้จริง มันไม่สำคัญว่าเราต้องอยู่แค่ในประเทศไหนอีกต่อไป ในเมื่อมีอินเทอร์เน็ต เราสามารถเป็นประชากรของใครที่ไหนก็ได้ นี่จะเป็นจุดที่เปลี่ยนอำนาจต่อรองจากรัฐบาลมาอยู่ในมือของ ปัจเจกบุคคล . สิ่งนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ . และมันไม่ได้มาจากการประท้วง ไม่ได้มาจากการผลักดันผ่านรัฐสภา ไม่ได้มาจากการแก้กฎหมาย แก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้เกิดมาจากการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ไม่ได้เกิดมาจากการได้คนดีขึ้นสู่อำนาจ ไม่ได้มาจากเทวดาเสกรัฐบาลที่ดีมาดูแลประชาชน . แต่มาจากการดึงอำนาจในการควบคุมแทรงแซง "ระบบการเงิน" ออกจากมือมนุษย์ . เราน่าจะเห็นความเสื่อมสลายของรัฐชาติ ความเป็นประเทศที่ลดน้อยถอยลง และรัฐบาลจะไม่ใช่เครื่องมือในการควบคุมชีวิตของผู้คนอีกต่อไป . สิ่งเหล่านี้ถูกกล่าวไว้ ในหนังสือ The Sovereign Individual ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1997 . อ่านแล้วปวดขี้เลยครับ #Siamstr
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
เราถูกหล่อหลอมให้ใช้ชีวิตตามกฎที่คนบางกลุ่มกำหนดไว้ โดยที่คนเหล่านั้นอยู่เหนือกฎเหล่านี้ image ความจริงของธรรมชาติ คือ มนุษย์ต้องเรียนรู้ในการเอาตัวรอด เราจะต้องหว่านเมล็ดเพาะปลูกและคอยดูแลเพื่อหวังเก็บเกี่ยวผลผลิต เราจะต้องทำงานเพื่อแลกผลตอบแทน และเราก็จะต้องอดอยากไม่มีจะแดกหากไม่ทำงาน . สิ่งนี้คือธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตมาช้านาน ทุกสิ่งมีชีวิตต้องออกล่าเพื่อหาอาหารและต้องระวังไม่ให้ตัวเองเสียท่าโดนเอาไปทำสเต็กซะเอง . มันคือสัญชาติญาณในการเอาตัวรอด หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราคงสูญพันธุ์ . ทุกวันนี้ก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่เราต้องดิ้นรนในอีกรูปแบบนึงเพื่อให้มีชีวิตรอด เราต้องเอาเวลาไปทำงานทั้งวัน เพื่อแลกกับเงิน แล้วนำเงินนั้นไปเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว . แต่มันเริ่มมีบางอย่างผิดปกติ ชีวิตดูเหมือนจะยากขึ้น ๆ อาชีพที่เคยเลี้ยงดูตัวเองได้ดี กลับกลายเป็นพอใช้แค่เดือนชนเดือน ไม่มีเงินเก็บ สร้างทรัพย์สินไม่ได้ สร้างครอบครัวไม่ได้ เพราะแค่ตัวเองยังไม่ค่อยรอด . จากยุคพ่อแม่เราที่รับราชการชั้นผู้น้อยธรรมดา เงินเดือนสตาร์ท *แค่*พันกว่าบาท แต่มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะข้าวจานละ 1 บาทหากินได้ ดูแลตัวเองแล้วยังเหลือ แถมยังสามารถจุนเจือคนรอบข้างได้ . มาสู่ยุคที่ รับราชการชั้นผู้น้อยแถมวุฒิ ป.ตรี เงินเดือน *ตั้ง*15,000.- แต่เสือกไม่พอยาไส้ ข้าวจาน 50 ก็ไม่ค่อยอิ่มแล้วทุกวันนี้ เงินเดือนทั้งเดือนซื้อข้าวได้แค่ 300 จาน ดูแลตัวเองยังไม่รอด ดูแลคนอื่นไม่ต้องพูดถึง . จากเงินเดือนสตาร์ทที่ซื้อข้าวได้เป็นพันจาน เหลือแค่ 300 จาน? ในเวลาแค่ราว 50 ปี Purchasing Power ของเงินมันหายไปกี่เท่า ไม่แปลกที่คนวัยทำงานในปัจจุบันจะปากกัดตีนถีบ มากกว่าคนรุ่นก่อนแบบเทียบกันไม่ติด . มันเกิดบ้าอะไรขึ้น? จริงๆ แล้วมันมีคำตอบที่เฉลยทุกซอกทุกมุม แต่เราคงไม่มีวันที่จะได้รับรู้จากสื่อกระแสหลัก ไม่มีใครอยากจะบอกความจริง . เกริ่นให้นิดนึง มันมีแค่เหตุผลเดียว เราถูกบังคับให้ใช้ "เงินที่เสื่อมค่า" หรือเงินเฟียต เหตุผลอื่นๆ ที่เขาบอกกัน มันเป็นแค่ผลพวงทีามีต้นตอมาจากเงินเฟียต . เงินสร้างง่าย (เฟียต) ที่รัฐบาลและสถาบันการเงินผลิตเองได้ ได้ทำลายกฎธรรมชาตินี้ลง สร้างอำนาจควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ มันโกงกลไกระหว่างการทำงานและผลตอบแทน แทนที่ตลาดจะมอบผลตอบแทนตามผลงาน . เงินเฟียตทำให้ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับความเชื่องและเส้นสายทางการเมือง แทนที่เราจะเรียนรู้ที่จะทำงานสร้างมูลค่า แต่มันกลับสอนให้เราเล่นการเมือง . แทนที่สร้างผลผลิตหรือสร้างคุณค่าได้เท่าไรก็ได้ผลตอบแทนตามนั้น แต่มันดันขึ้นอยู่กับระบบพวกพ้องและสายสัมพันธ์ทางอำนาจบ้าบอคอแตก . นอนเกาไข่อยู่บนหอคอย รอสูบความมั่งคั่งที่พวกเราใช้หยาดเหงื่อแรงกายแลกมาอย่างยากลำบากออกไปจากเรา แบบไม่ต้องพยายาม Welcome to the ตัยหยั่งเฟียต standard โบร๋ The Fiat Standard เล่มนี้จะตีแผ่ให้เราเห็นอย่างละเอียด ว่ามันเกิดเชี่ยอะไรกับพวกเรา และเราควรจะรับมือความจังไรนี้ยังไง? เปิดพรีออร์เดอร์ให้จับจองแล้ววันนี้!! อันนี้สำคัญสุด 555 #Siamstr
Somnuke's avatar
Somnuke 1 year ago
พูดเองนะ ผมจะฝึกฝนอมขี้รอ image #Siamstr