#freewriting day 36
#siamstr
#เขียนขีดอิสระ
อะไรคือหรู
หากเรามีเงินมากพอ เราจะซื้อของหรูหรือไม่
เท่าที่เคยสัมผัสสินค้าราคาสูงมาบ้าง พอจะเรียกว่า หรูนิดหน่อย
พบว่า คุณภาพ ผิวสัมผัส รายละเอียด ภาพลักษณ์
รวมถึงการได้รับการยอมรับจากผู้อื่น
เป็นสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากสินค้าทั่วไป
ช่วงนี้หลายสื่อจำกัดความ คำว่า หรู Luxury ใหม่ว่า
เวลา Time
เพราะเวลาประเมินค่าไม่ได้
วันนี้ยังมีคนอ้างอิงจากคำของ Coco Chanel
“Some people think luxury is the opposite of poverty. It is not. It is the opposite of vulgarity.”
หรูไม่ได้ตรงข้ามกับจน ตรงข้ามกับไร้รสนิยมต่างหาก
หากมารวมกันอย่างมั่วๆ ก็แปลว่า ถ้าสินค้านั้นมีรสนิยมและให้เวลาได้
นั่นคือ หรู
หากมาจับกับหลักการทางเศรษฐศาสตร์เท่าที่จำได้
การซื้อขาย จะเกิดขึ้น เมื่อ
ผู้ซื้อพึงพอใจสินค้าบริการ มีเงินเพียงพอ และยินดีจะจ่าย
ผู้ขายพึงพอใจจำนวนเงินที่ได้รับและพึงพอใจจะให้สินค้าบริการ
พึงพอใจและยินดี สองคำนี้ ความเป็นมนุษย์นั้น เปลี่ยนแปลงแทบจะตลอดเวลา
เริ่มสนุกละ
...พรุ่งนี้มาสร้างสินค้าบริการในนิยามหรูแบบใหม่กันต่อ
Kei
npub19yxx...nyjx
ได้คิดเยอะเลย
#freewriting day 35
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
งานที่น่าเบื่อ
มีปัญหาทุกครั้ง ทุกเดือน ทุกวัน ที่จะต้องเผชิญกับงานที่น่าเบื่อ
หน้าตาของมัน เหมือนเดิม รู้จักกันดีหมดแล้ว
ไม่มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ไม่มีอะไรให้เรียนรู้
แต่ต้องทำ
พยายามใช้ความสร้างสรรค์ ปรับปรุงกระบวนการเพื่อให้ทำได้เร็วขึ้นสะดวกขึ้น หาสิ่งใหม่ๆ มาช่วยให้สนุกมากขึ้น
แต่ก็จะถึงจุดๆ หนึ่ง เท่ากับความรู้ความสามารถที่เรามี
ความไม่อยากทำ เพราะไม่รู้สึกว่า จะได้อะไรคุ้มค่ากับเวลาและพลังงานที่ต้องเสียไป
แต่ต้องทำ
ข้อดีของงานน่าเบื่อ คือ ไม่มีความซับซ้อน เน้นความถึกทน สิ่งที่ได้ก็เป็นความอดทน
มองไปก็คล้ายการทำสมาธิ คล้ายการสังเกตลมหายใจ
งานแบบนี้กลับมีค่าระดับจิตวิญญาณเลยทีเดียว หากมองในมุมนี้
สำคัญกว่างานที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่เสียอีก
งานน่าเบื่อ = โอกาสในการทำสมาธิ
#freewriting day 34
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
ในการแข่งกีฬาต้องมีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้
เพื่อตัดสินว่าใครมีความสามารถในเกมนั้นๆ มากกว่า
เมื่อก่อนไม่เคยชอบการแข่งขัน
เพราะเมื่อแพ้ ก็รู้สึกด้อยกว่าและอยากเอาคืน
เมื่อชนะ ก็รู้สึกพองตัวว่าเก่งกว่าและประมาท
แต่วันนี้ได้ฟังโค้ชผู้สอน
ถ้าแข่งกับคนที่ด้อยกว่า
โยนลูกไปสูงๆ ให้คู่แข่งพอสู้ได้
ขณะเดียวกัน เราก็ได้ฝึกวางลูกให้แม่น
ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรีบชนะ
ถ้าการแข่งขันแต่ละครั้ง ทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ ก็พัฒนาไปพร้อมๆ กัน
จริงๆ แล้วก็คือ มีแต่ผู้ชนะรึเปล่า
การแข่งขันทำให้ทุกคนพัฒนา
โลกที่ไม่มีการแข่งขัน เป็นโลกที่มีการพัฒนาหรือไม่
ในการแข่งขันอื่นๆ ในชีวิต สามารถใช้มุมมองนี้ได้เหมือนกันหรือไม่
การเจรจาที่เรียกว่า win-win ก็ทำให้เกิดผู้ชนะทุกฝ่ายเหมือนกัน
ในการแข่งขันทางธุรกิจ
ไม่ต่างกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เจ๊งหรือผู้ที่สำเร็จ ต่างก็ได้บทเรียนและพัฒนาทักษะในการทำธุรกิจทั้งสองฝ่าย
หรือจริงๆ แล้ว เราคิดกันไปเองว่า โลกนี้มีการแข่งขัน
เพราะถ้าทุกคนต่างก็ชนะจากการได้พัฒนาตัวเอง
ผู้แพ้ก็เป็นแค่คำเปรียบเทียบ ที่ใช้เรียกในชั่วขณะหนึ่ง
แพ้ก็ชนะ ชนะก็ชนะ
แต่ยังไงก็อยากเป็นคนที่ชนะอยู่ดีนะ
writing my life
is
my life writing
#freewriting day 32.1
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
กล่องเก็บสุข
ช่วงเวลาที่มีความสุข เห็นคนที่เรารักมีความสุข
ไม่เคยคิดอยากจะต้องโกยเก็บความสุขนั้นเอาไว้ตลอดไป
และไม่เคยมองเห็น มวลความสุขในมุมของบุคคลที่สาม
อยู่กับเวลานั้น แล้วก็ปล่อยมันไปเท่าที่ควรจะเป็น
แต่แล้วเมื่อมีคนถ่ายภาพให้
ทุกครั้งที่เห็นกลับเรียกความสุขในเวลานั้นกลับมาได้
เพิ่งเคยเห็นว่า รูปถ่ายคือ กล่องเก็บสุข
ใช่ เป็นเรื่องเรียบง่ายที่ใครและเราก็รู้มานานแล้ว
แต่วันนี้มันต่างไป เห็นความสำคัญ
เข้าใจคนที่ชอบถ่ายภาพมากขึ้น
เราอยากเรียนรู้การเก็บสุขจากคนเหล่านั้นมากขึ้น
ไม่ได้คิดว่า จะต้องคอยถ่ายภาพทุกครั้งเมื่อมีความสุข
เพราะจะยิ่งทำให้ไม่ได้อยู่กับเวลานั้นๆ
แต่คิดว่า การเก็บความสุขให้คนอื่นนั้น น่าสนใจ
เป็นช่างภาพ คือ การเป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ
ขอบคุณนะ ที่วันนี้ทำกล่องเก็บสุขให้
#freewriting day 32
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
น่าจะทำได้ดีกว่านี้
บ่อยครั้งที่คิดว่า เมื่อกี้ หรือเมื่อวาน น่าจะทำได้ดีกว่านี้
เสียดาย ทำไมตอนนั้นคิดไม่ได้
ปฏิภาณ ไหวพริบ ฝึกอย่างไร
เมื่อเวลาผ่านไป ย้อนนึกดูแล้ว น่าจะทำได้ดีกว่านี้
หรือไม่ว่าจะดีแค่ไหน เมื่อมองย้อนไป มันก็จะมีดีกว่าเสมอ
ถ้าไม่คิดจะดีขึ้นได้หรือไม่ สังเกตจากพัฒนาการ
แต่ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อย ไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ที่เคยทำนั้นดีพอหรือยัง
หรือยิ่งเกิดขึ้นไม่บ่อย กลับแปลว่า ที่เคยทำนั้นแหละ ดีที่สุดแล้ว
ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ดีทั้งนั้น คำพระสอน
ในรายละเอียดของเหตุการณ์ แม้บริบทจะเปลี่ยน
แต่ก็จะมีสถานการณ์ย่อยๆ ที่เกิดซ้ำ
สิ่งที่เกิดซ้ำนั้น น่าจะขัดเกลาได้
ถ้าเข้าใจแล้ว ก็ควรจะทิ้งมันไป
จนกว่าบททดสอบใหม่จะมา
เพราะไม่รู้ว่า วันไหนจะเกิดขึ้นอีก
และจะลืมบทเรียนที่คิดว่า ยังทำได้ไม่ดีอยู่มั้ย
ลืมก็อาจจะดี
ไม่ลืมก็อาจจะดี
ใครตอบได้
#freewriting day 31
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
เวลาของตัวเอง
เจ็บไปเจ็บมาทุกวัน ก็เลยหมด หมดกำลังจะเสียใจไปกว่านี้
อยากจะมีใครก็เชิญ ได้เลย เต็มที่ ...
ทำไมร้องเพลงที่มันแก่ขนาดนี้ ภรรยาถาม
แล้วก็นึกได้ว่า เออ เพลงนี้มัน 20กว่าปีแล้วเนอะ
เทียบได้กับเพลงลูกกรุงสมัยพ่อแม่เรา
แล้ววินาทีนั้นก็ระลึกได้ว่า อ๋อออ เพลงที่อยู่กับเราตอนเด็กหรือวัยรุ่น
ในใจเราก็ยังคิดว่า มันยังไม่เก่า ทั้งๆ ที่รู้แหละว่า ตอนนี้มันเก่าแล้ว
และช่วงเวลาที่เพลงสะสมในใจเรามากที่สุดมันคือ วัยนั้นแหละ
เช่นเดียวกับพ่อแม่เราที่เค้าชอบหรือจับใจเค้า ก็คงเพราะเหตุเดียวกัน
พอลองขยายเรื่องนี้ออก
เราชอบตรงที่ทำให้เข้าใจผู้ใหญ่มากขึ้น เข้าใจคนอื่นมากขึ้นเมื่อถึงเวลา
หลายเรื่องที่ยิ่งอายุเยอะ ยิ่งบอกเราว่า อายุมีผลต่อการพิจารณาและการรับรู้
ที่แม้อธิบายได้ ก็ยังไม่เข้าใจถ่องแท้เหมือนเจอด้วยตัวเอง
สำเหนียกได้ว่า บางเรื่องก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ถกกันได้ การรับรู้ของจิตใจเราซับซ้อนกว่านั้น
สำเหนียกตัวเองว่า ยอมรับในความไม่เข้าใจคนอื่น แต่สามารถรับฟังและอยู่เป็นเพื่อนได้
สิ่งที่ไม่เข้าใจผู้ใหญ่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก็เพิ่งมาเข้าใจ
สิ่งที่เราไม่เข้าใจเค้าในวันนี้ อาจต้องอาศัยเวลาอีก 20 ปี
ฝึกยอมรับและรับฟัง คนต่างวัย คนต่างคิด และยอมรับแม้เห็นต่างก็ตาม
คอยบอกตัวเองเสมอว่า เราอาจจะยังไม่เข้าใจเค้าก็ได้
บางอย่างเราก็ไม่เข้าใจหรอก จนกว่าจะถึงเวลา
รวมถึงเวลาที่เราอธิบายให้คนอื่นฟังเช่นกัน ก็ควรให้โอกาส ให้เวลา
แต่ละคนมีเวลาของตัวเอง
นัด Thon103
วันเสาร์ที่ 23 พย
19.00น.
ร้านคุณ @Taabio นาริตะ อิซากายะ
จรัญ 78
(โลเคชั่นในคอมเมนต์)
หรือใครเสนอวันเวลาอื่นได้นะครับ
BTC Meetup for Thonburian
THON103
Nov 23rd Saturday
19.00
at Narita Izakaya
(location link in comment)
มากันเยอะๆ นะครับ
ลิ้งก์กลุ่มไลน์ ไว้ในเมนต์นะครับ
Line open group THON
#siamstr
#THON103
#freewriting day 30
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
ชายคนหนึ่งมองหาบ่อน้ำท่ามกลางความแห้งแล้ง
ชายอีกคนบอกว่า ใต้นี้มีตาน้ำ ขุดลงไปสิ
เชื่อตามคำพูด ขุดลึกลงไป ตั้งแต่เช้าจนค่ำ
ก็ยังไม่เจอ
ตะโกนถามชายที่อยู่ด้านบน ต้องลึกแค่ไหน
ลึกอีก ตอบกลับมา
จึงขุดลึกลงไปอีก ตั้งแต่เช้ายันค่ำ
ก็ยังไม่เจอ
ตะโกนถามขึ้นมาอีกครั้ง ว่าลึกแค่ไหน
ชายด้านบนตอบ ลึกลงไปอีก
ชายคนนั้นก็เลย ขุดลึกลงไป ตั้งแต่เช้ายันค่ำ
ก็ยังไม่เจอ
จึงตะโกนถามกลับขึ้นมาอีก
...
แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบ
#freewriting day 29
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
" The bigger the why
the easier the how "
Dan Martell
ได้ดูคลิปนึง มีน้องคนนึงวัยประมาณ ม.ต้น ม.ปลาย ถาม Dan Martell ว่า จะรักษาความสม่ำเสมอได้อย่างไร
เฮียเลยถามกลับ อยากสม่ำเสมอในเรื่องอะไร
"ฮอกกี้ครับ"
แล้วมีจุดหมายมั้ย ทำไมถึงเล่นฮอกกี้
"อยากจะเก่งขึ้น"
มีแผนชัดเจนมั้ยว่าจะเข้าทีมไหนใน NHL
"ไม่มีครับ"
เฮียก็เล่าว่า
"สิ่งที่ผมค้นพบคือ ถ้าจุดมุ่งหมายไม่ชัด ทำไมผมถึงทำสิ่งที่ผมทำอยู่ มันยากมากที่จะกระตุ้นตัวเองให้ทำต่อไป
เวลาที่พบว่า ตัวเองเริ่มไม่สม่ำเสมอ จะกลับไปดู 3 อย่าง
100% clarity อยากเข้าทีมไหน"
"Vancouver Canucks"
"Boom! ตอนนี้มีความชัดละ
ทีนี้ อยากให้ 100% belief และ 100% of the time
และนั่นเป็นวิธีสร้างอนาคต แต่คนส่วนใหญ่ไม่มี ถ้าเรามีก็จะสม่ำเสมอได้มากกว่า
The bigger the why, the easier the how "
ตอนที่เพิ่งดูคลิปเสร็จ ก็โล่งเลย เหมือนได้ค้นพบความลับจักรวาลอีกอย่าง
แถมได้ประโยคเท่ๆ ให้จำไปใช้อีก 2 ประโยค
แต่ระหว่างที่เขียน ก็ทำให้เอะใจบางอย่าง
มันก็มีเหมือนกันนะ คนที่บอกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่า ปลายทางจะเป็นยังไง แต่ทำแล้วมีความสุข และก็อยากพัฒนาไปเรื่อยๆ และก็ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน
แต่วิธีแบบเฮียเค้า ก็น่าจะช่วยกระตุ้น คนธรรมดาอย่างเราที่ไม่ได้มีความสุขกับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ตลอด และก็ยังเห็นด้วยว่า ความชัดเจนกับความเชื่อ นำไปสู่การกระทำ
ส่วนอีกอย่างที่ เอ๊ะ ก็คือ ถ้าจุดมุ่งหมายยิ่งใหญ่มาก มันคือความอยากที่มาก ช่างฝืนกับทางพุทธ คุมความอยากสิ แล้วชีวิตก็จะเรียบง่าย
หรือมันมีสิ่งที่ไปกันได้ มหาบุรุษที่นับถือพุทธก็ไม่น้อย
"ทำไม ที่ยิ่งใหญ่ อย่างไร ก็ยิ่งง่าย" อาจไม่ได้แปลว่า ไม่ลำบาก เพียงแต่ยินดีที่จะฟันฝ่า ทุกอย่างก็จะดูง่ายขึ้น
ทางพุทธ ถ้ามีความอยากน้อยก็ทุกข์น้อย ทำแต่พอดี ก็อาจไปด้วยกันได้นะ
มุ่งมั่น อาจจะเป็นการอยากน้อยก็ได้ เพราะอยากอย่างเดียว ชีวิตก็อาจจะไม่ได้สบาย แต่อาจจะเรียบง่ายกว่า
ไม่ค่อยมีเรื่อง อยากเล็กๆ มาให้กวนใจ
วันก่อนเพิ่งเขียนเรื่องภาพปลายทาง ซึ่งเราไม่เคยสนใจ เพราะรู้สึกลอยๆ และไม่น่าสนใจ
แต่พอเขียนไป ก็พบว่า คนที่อยู่ปลายทางกับคนร่วมทาง เป็นสิ่งที่ทำให้จุดหมายน่าสนใจ ทำให้ชีวิตมีความหมาย
ถ้าภาพที่ปลายทาง เป็นกลุ่มคน จะยังเรียกว่า ชัด อยู่มั้ย
ของเราเป็นกลุ่มคนเลยนะ bigger why แน่นอน
#freewriting day 28
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
"The only real test of intelligence is
if you get what you want in life."
Noval Ravikant
ฉลาดแค่ไหน
ตอนเด็กอยู่แค่ในบ้าน พ่อมักจะชมเสมอว่า เป็นคนฉลาด และตอนอนุบาล ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเรียนรู้สิ่งต่างๆ เชื่อเสมอว่าตัวเองฉลาด
ตอนประถม ก็ได้เรียนห้องควีน และในห้องก็เป็นอันดับกลางๆ จึงรู้มากขึ้นว่า ไม่ได้ฉลาดมากขนาดนั้น
ม.ปลาย มหาลัย ทำงาน ยิ่งโตยิ่งรู้เลยว่า เรานั้นไม่ได้ใกล้เคียงคำว่า ฉลาด เลย รู้จักอะไรเยอะ รู้จักคนเยอะ ยิ่งชัดเจนมาก
ตั้งแต่เด็ก อยากเป็นอัจฉริยะมากและคิดว่า ถ้ามี IQ สูง จะแก้ปัญหาได้เก่งและมีชีวิตที่ดี ชอบเกมปริศนา โจทย์คณิต และปัญหาเชาวน์
ในความเป็นจริง โลกมีหลายมิติ ความฉลาดมีอีกหลายด้าน ความสัมพันธ์ ควบคุมอารมณ์ การใช้ร่างกาย และด้านอื่นๆ
วันนี้มาสะดุดกับคลิปของ Dan Koe "บททดสอบที่แท้จริงของความฉลาด คือ คุณสามารถคว้าสิ่งที่ต้องการในชีวิตได้หรือไม่" อ้างอิงคำกล่าวของ Naval Ravikant
เห็นด้วยเลย มีหลายสิ่งที่อยากได้ อยากไปให้ถึงแต่ยังไม่ได้
หลายครั้งเสียพลังกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง และเป็นอุปสรรคเดิมๆ ซ้ำๆ ที่ไม่เคยหาวิธีแก้ไขอย่างจริงจัง ราวกับว่า การยกระดับชีวิตตนเองเป็นเพียงเรื่องเล่นๆ
ความผิดพลาดซ้ำๆ ที่แก้ไขไม่ได้ หรือไม่ใส่ใจในการแก้ไขอย่างเป็นระบบ
กลับไปหาแผลเดิมอย่างไม่มีตัวช่วยหรือสิ่งป้องกัน
ไปได้ไกลแค่ไหน ฉลาดแค่ไหน จึงอาจไม่ใช่การสอบเข้าหรือวัดผลที่ไหน แต่ชีวิตพัฒนาไปแค่ไหน วัดความฉลาดจากการแก้ปัญหาเดิมของเรา
จะแก้ปัญหาเหล่านั้นต้องใช้ความฉลาดหลายด้านประกอบเข้าด้วยกัน เป็นความฉลาดที่แท้จริงของตนเอง แก้ปัญหาเฉพาะตน
ปัญหาชีวิตเป็นเรื่องเฉพาะตน ไม่มีใครมีปัญหาเหมือนเรา และมีแต่เราเท่านั้นที่เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง
หลังๆ เริ่มเห็นความสวยงามของปัญหา มันเกิดมาเพื่อเราเท่านั้น มันทำให้เรามีค่า แต่ยังไม่มีความฉลาดมากพอจะแก้ไขได้ทั้งหมด
#freewriting day 27
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
ทางที่ดี กับความหมายของปลายทาง
ได้ออกกำลังจนหมดหลอด แม้เหนื่อยแต่เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ
ได้เห็นคนที่พละกำลังมหาศาล จากการฝึกกล้ามเนื้อและท่าทางที่สั่งสมมานาน
ชื่นชมคนเหล่านี้ เปรียบเทียบแบบนี้ ไม่มีความรู้สึกทำร้ายในใจ
เปรียบเทียบที่ดี เป็นแรงบันดาลใจ
ต่างกับการพัฒนาไปเรื่อยๆ ตัวคนเดียว เป็นไปอย่างเชื่องช้า และไม่มีภาพปลายทาง
ปลายทางอาจไม่จำเป็น ถ้ามีความสุขกับการพัฒนาในทุกวัน
หรือจะเสียเวลาและพลังกับการไม่รู้ทิศ
ปลายทางที่คาดหวังไว้ อาจไม่เหมาะกับเรา ได้แค่ลองชิมจากการลองทำ
เดินไปในทางที่มีความสุขก็พอ?
ไม่รู้ความสุขที่ปลายทาง แต่บรรยากาศ ผู้คนที่ปลายทาง คนที่ร่วมทาง น่าสนใจยิ่งกว่า
คน ทำให้ปลายทางมีความหมาย ภาพที่อยากไปจึงไม่ใช่คนเดียว
แต่เป็นกลุ่มคน
#freewriting day 26
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
แรงเฉื่อย
พยายามคงสภาวะเดิม แม้ไม่รู้ว่า ดีหรือไม่ดีก็ตาม
รักสบาย ศัตรูของความยืดหยุ่น ตรงข้ามกับความเครียด
เปลี่ยนทิศเมื่อมีสิ่งมากระทบ กระทำ
กระทบบ่อยกระทบแรง ก็เปลี่ยนเร็ว
กระทบตลอดเวลาทั้งนอกและใน เปลี่ยนตลอดเวลา ทั้งมากน้อย
อำนาจในการเลือกอยู่ที่ใคร
เลือกสิ่งที่จะกระทบ
เปลี่ยนอยู่ดี เปลี่ยนที่ต้องการหรือไม่
ไม่ใช่ใครแต่เพราะอะไร
ยังไม่เข้าใจ
#freewriting day 25
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
ความน่าเบื่อของความสุข
น่าหมั่นไส้ หลายคนไม่มีโอกาสมีความสุขด้วยซ้ำ กล้าขนาดบอกว่า ความสุขนั้นน่าเบื่อเลยหรือ
ช่วงที่ไม่มีความสุขก็มี
แต่ความสุขวันนี้หาได้ไม่ยาก ยิ่งอยู่ในสังคม อยู่กับคนที่เราเลือกจะอยู่ด้วยแล้ว ยิ่งมีความสุขได้ง่าย
แต่ความสุขนั้นจะหายไปตอนไหน ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด
วันนึงมันก็ต้องหายไป
หมดวันอาทิตย์ ก็คือเช้าวันจันทร์
ชีวิตคือความน่าเบื่อและมีความสุขโดยแท้
ไม่อยากทำก็ต้องทำ ไม่อยากทุกข์ก็ต้องมีความสุข
ไม่สุขไม่ทุกข์ ก็น่าเบื่อ
ความน่าเบื่อของความสุข
ไม่เลือกวันที่จะทำให้เรามีความสุข แล้วก็ไม่เลือกวันที่สุขจะหายไป
ใช่ความกลัวความว่างเปล่าหรือไม่ จึงต้องขวนขวายหาความสุขใส่ตัวอยู่ตลอด
อยู่เฉยๆ ก็ต้องดูมือถือ ดูทีวีก็ต้องหาขนมกิน เบื่ออยู่บ้านก็ต้องออกไปเที่ยว ออกไปเที่ยวก็ต้องหาที่สวยๆ หาของอร่อย
กลัวชีวิตไม่มีความหมาย ก็ต้องออกไปหาความหมาย
รู้สึกไร้ค่า ก็ต้องออกไปสร้างคุณค่า
กลับมาจากเที่ยวก็เฉยๆ
ได้พบความหมาย ก็สบายใจ หาความหมายอื่นต่อไป
สร้างคุณค่าก็ภูมิใจ สร้างคุณค่าอื่นต่อไป
แล้วก็ไม่มีความสุข ไม่พบความหมาย ไม่มีคุณค่า
แต่ก็ยังต้องหามาใหม่
เหมือนเป็นชะตากรรม เหมือนเป็นวงจรที่ต้องอยู่
มันน่าเบื่อ แต่มันก็ยังสนุกอยู่

#freewriting day 24
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
ความจริงในใจกับการรอคอย
ระหว่างที่รอคอย มักจะหงุดหงิด ไม่สร้างประโยชน์ ไม่มีความคืบหน้าไปไหนเลย ยิ่งรีบ หิว อ่อนล้า ยิ่งไม่พอใจ
แต่วันนี้แปลกไป อาจเพราะได้นอนเต็มอิ่ม ไม่รู้สึกหิว อยู่กับคนที่เรารัก ไม่ได้รีบ การรอคอย ไม่มีความไม่พอใจแม้เสี้ยว
กายใจที่ไม่ขาดพร่อง มั่นคงต่อปัญหาจากภายนอก
การรอในเวลาที่กายใจแหว่งเหวี่ยง หวั่นไหวต่อความไม่ได้ดั่งใจ
หรือเพราะทนไม่ได้ที่เห็นความจริงในใจที่ไม่น่าดู อยากออกจากความรู้สึกไม่ดีเหล่านั้นให้เร็ว เพราะคาดว่า เมื่อได้สิ่งที่ต้องรอจะพ้นทุกข์เสียที
หรือเมื่อหวั่นไหวยิ่งสะใจเมื่อได้พัดกระพือความคุกรุ่นของใจที่ไม่ปกติ
หรือไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น การได้สิ่งที่รอเท่านั้น จึงจะช่วยเยียวยา
หลายครั้งที่ไม่ได้เป็นอย่างวันนี้ วันที่ผ่านไปด้วยดี ปัญหาจากภายนอกไม่กระทบต่อภายในที่ตื่นเต็ม
การที่ต้องรอจึงไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำร้ายตัวเรา
แต่จะทำอย่างไร ให้ผ่านไปด้วยดี เช่นวันนี้
การรอก็จะเกิดขึ้นอีก อยู่แบบนั้น แต่วันที่กายใจสมบูรณ์ ก็แข็งแกร่ง แต่วันที่ขาดพร่อง ก็อ่อนแอ
วันที่แข็งแกร่งเกิดขึ้นไม่ได้ทุกวัน
หรือต้องปล่อยให้มันเป็นไป

#freewriting day 23
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
ในความมืดมิด ในป่าใหญ่ เสียงพุ่มไม้ไหวๆ เงาตะคุ่มๆ ไม่รู้ว่าคืออะไร จะโผล่มาตอนไหนและไม่รู้จะทำร้ายเรารึเปล่า
ปัญหาและงานต่างๆ หลบอยู่ในหลืบความคิดความจำ ไม่รู้จะโผล่มาให้เผชิญตอนไหน
ร่างกายและจิตใจอยู่ในสภาวะต้องตระเตรียมอยู่ตลอด
เครียด
แหวกหญ้า ถางป่า ส่องไฟ ปีนขึ้นที่สูง
การได้เขียน ได้แผ่ปัญหาและงานออกมา ช่วยคลายความกังวล มองเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น
ได้จดจ่อกับปัญหาใดปัญหาหนึ่ง ช่วยให้เห็นรายละเอียดของปัญหาและงานนั้นๆ
ความมืดมิดก็กลับมา เสียงแปลกๆ เงาไหวๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ทั้งหมดนั้น ไม่รู้จบ เราพร้อมจะสร้างความเครียดให้ตัวเองตลอดเวลา
และปัญหากับงานก็ต้องมีอยู่ตลอดเวลา
การคาดการณ์ ความกังวลใจ
กลับไปกลับมา ความสว่างก็เช่นกัน รู้แล้วว่ามันคืออะไร
ยามที่ได้สะสางปัญหาบางอย่างออกไป สิ่งที่เคยกังวลที่สุด กลับคลี่คลายด้วยตัวมันเอง ความสบายใจก็กลับมา ความเครียดก็หายไปในชั่วขณะหนึ่ง
เครียดอาจเพราะมีปัญหา แต่ที่เครียดไม่จบอาจเพราะไม่ชัดเจน
แต่โลกเราก็ไม่มีสิ่งใดชัดเจนตลอดเวลา
การไม่มีความเครียด อาจจะดูฝืนธรรมชาติเกินไป
ชอบคำที่ผู้ใหญ่ที่เคารพท่านหนึ่งสอนมาวันก่อน
"ทำเต็มที่แต่ไม่ซีเรียส"
#freewriting day 22
#เขียนขีดอิสระ
#siamstr
ความอดทนกับการอ่านหนังสือ
ไม่ได้ชอบอ่านหนังสือ แต่อ่านเพราะชอบสังคมของหนอนหนังสือ
สังคมแบ่งปันความรู้ ทำให้อยากรู้จักหนังสือที่เค้ากล่าวบ้าง
ลืมไปนานแล้วว่า หนังสือให้ความรู้สึกลึกซึ้งซับซ้อนที่สื่ออื่นให้ไม่ได้
การใช้ถ้อยคำและจินตนาการที่วิจิตรพิสดารและมีช่องว่างให้แต่งเติมภาพแบบของเรา
หรือแม้กระทั่งการใช้คำที่เรียบง่าย แต่เฉียบคม มีพลัง เก็บคำบางคำไปคิดได้เป็นวันๆ
หนังสือเล่มหนึ่ง เราใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง กว่าจะอ่านจบ เป็นคนอ่านช้าและรู้สึกต้องอดทนจึงจะอ่านจบ
ต่างกับบางคนที่ชอบอ่านหนังสือ อ่านเพราะเพลิดเพลินที่จะอ่าน ไม่ได้อยากรีบอ่านให้จบ เวลาได้ยินแบบนี้ทำให้เรียนรู้ที่จะเอาอย่าง อ่านเพื่ออ่าน
หนังสือเชื่อมความคิด เหมือนพูดคุยกับผู้เขียน เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้
เป็นคนชอบถามและฟัง ประโยคนี้ทำให้อยากอ่านหนังสือมากขึ้น เป็นโอกาสในการคุยกับคนที่เราไม่สามารถพบเจอได้
เวลาได้ฟังสัมภาษณ์นักเขียน พอไปอ่านก็อ่านง่ายขึ้น เพราะเข้าใจสำนวนและจังหวะในการพูด รวมถึงแก่นความคิด
อ่านหนังสือบ่อยขึ้น ไม่แน่ใจว่าฉลาดขึ้น แต่แน่ใจว่า อดทนขึ้น และคลังคำเยอะขึ้น ให้เวลากับหนังสือมากขึ้น
เป็นสื่อที่ต้องการเวลา รู้สึกเหมือนการทำความรู้จักใครสักคน
บางเล่มก็ไม่ได้น่าสนใจ แต่ปกและสไตล์ไม่ได้บอกทั้งหมด บางครั้งการอ่านจนจบก็ให้รางวัลที่ควรค่า
แต่กับคน เมื่อได้เริ่มฟังเรื่องราว เรากลับรู้สึกน่าสนใจเสมอ
อยากอ่านหนังสือเยอะขึ้น อยากมีเวลาอ่านมากขึ้น