‼️กระเป๋าเก็บ 'บิตคอยน์' เป็นเพียงแค่ตัวเลขโง่ ๆ แต่วิธีการที่ได้มันมา...ไม่โง่นะฮะ 🧡😇
.
➡️ ท่านที่เริ่มคุ้นเคยกับการเก็บรักษา 'บิตคอยน์' ด้วยตนเอง หรือที่เราเรียกกันแบบหล่อ ๆ ว่า 'Self-Custody' นั้น.. มันจะมีคำศัพท์เฉพาะจำนวน 12 หรือ 24 คำ ที่เราห้ามทำหายหรือลืมโดยเด็ดขาด 🥹
❗️แต่รู้มั้ยว่า.. ที่มาของคำเหล่านั้นคืออะไรกันนะ? ,, ถ้าท่านใดที่อยากรู้ .. (รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม) ก็จงตามข้าพเจ้ามา 😘
.
✅ Seedphrase หรือคำศัพท์ที่เราใช้ในการ 'เข้าถึง' แม่กุญแจ (Master Private Key) ของกระเป๋าบิตคอยน์นั้น ,, เกิดจากตัวเลข Binary (หรือเลขฐานสอง) จำนวน 128 หรือ 256 ตัว (ถ้าเป็นแบบ 12 คำ จะเกิดจากไบนารีจำนวน 128 บิต และแบบ 24 คำ จะเกิดจากไบนารีจำนวน 256 บิต)
🧡 ซึ่งการได้มาซึ่งตัวเลขไบนารีจำนวนทั้ง 256 ตัวนั้น (เราเรียกว่า Entropy หรือตัวเลขที่เกิดจากการสุ่ม) สามารถทำได้จากหลายวิธี เช่น
1️⃣ การโยนเหรียญหัวก้อย หรือการโยนเหรียญบาทโง่ ๆ นี่แหละ แล้วกำหนดให้มันเป็น 0 หรือ 1 ,, เช่น ออกหัวกำหนดให้เป็น 0 และออกก้อยให้เป็น 1 โดยเราจะโยนทีละ 1 เหรียญจนครบ หรือโยนทีละ 10 เหรียญ หรือโยนทีละ 100 เหรียญก็ตามสะดวก ,, แล้วก็นำตัวเลข 0,1 ที่สุ่มได้มาคำนวนต่อ (คุณภาพการสุ่มดีที่สุด คือ การสุ่ม 1 ครั้ง ได้ผลลัพท์ 1 บิต)
2️⃣ การโยนลูกเต๋าแบบธรรมดาที่ออกเลข 1-6 ก็พอใช้ได้ แต่ไม่ดีเท่าแบบโยนเหรียญ
3️⃣ การสรรหาลูกเต๋าแบบพิเศษที่มี 16 หน้า หรือมีชื่อเรียกว่า 'D16 HEX dice' ก็จะเยี่ยมสุด ๆ เลย ,, ซึ่งจะให้คุณภาพของการสุ่มอยู่ที่ 100% เท่ากับแบบโยนเหรียญเช่นเดียวกัน (คือ สุ่ม 1 ครั้ง ได้ผลลัพท์ 16 บิต ,, โยนทั้งหมด 64 ครั้ง จะได้ 256 บิตพอดี)
❗️หรือแม้แต่การสับไพ่! ก็สามารถนำมาใช้สุ่ม Entropy ได้เช่นกันนะ (แต่ไม่ค่อยเวิร์คหรอก)
.
✅ เมื่อเราได้ Entropy ครบทั้ง 256 บิตเรียบร้อยแล้ว ,, เราก็จะนำตัวเลขมาแบ่งเป็นชุด ๆ ,, ชุดละ 11 ตัว ซึ่งมันจะแบ่งได้จำนวน 23 ชุด และเหลือไบนารี 3 ตัวสุดท้ายเป็นเศษ ,, เราจะมีวิธีการคำนวนพิเศษ (ขอไม่กล่าวถึง มันค่อนข้างวุ่นวายนิดนึง) เพื่อที่จะได้ตัวเลขไบนารีอีก 8 ตัว และนำมาใช้ประกอบร่างกับตัวเศษ ซึ่งเรียกว่า 'Binary Checksum' ,, และสิ่งนี้ก็จะทำให้เราได้เลขไบนารีจำนวน 11 ตัว ทั้งหมด 24 ชุด
➡️จากนั้นเราแปลงเลขฐานสอง↔️เลขฐานสิบ และนำค่าที่ได้ไปบวก 1 เพื่อเทียบกับคำศัพท์ในตาราง BIP39 Wordlist (หาได้จาก google)
‼️สุดท้ายเราก็จะได้คำศัพท์เฉพาะจำนวน 24 คำ และสามารถนำไป Recovery ใน Hardware Wallet หรือ Software Wallet ทุกตัวบนโลกนี้และใช้งานได้เลย ✅
.
❗️เห็นมั้ยว่ากระเป๋า 'บิตคอยน์' เป็นแค่ตัวเลข 0 และ 1 โง่ ๆ จำนวน 256 ตัวเท่านั้นเอง ,, แต่โอกาสที่คนบนโลกนี้จะสุ่มตัวเลข 0 และ 1 ตรงกันทุกตำแหน่งทั้ง 256 ตัว.. มันไม่ใช่เรื่องโง่ ๆ นะฮะ
‼️ใครไม่เชื่อ.. ลองโยนเหรียญบาทสัก 10 ครั้ง (จำลองการสุ่มไบนารีขนาด 10 บิต) และลองโยนซ้ำใหม่เรื่อย ๆ เพื่อให้ได้เลข 0 และ 1 ตรงกัน 'ทุกตำแหน่ง' อีกสักครั้งหนึ่ง 😊✌️
🧡 แล้วท่านก็จะรู้ว่า.. กระเป๋า 'บิตคอยน์' ที่เกิดจากตัวเลขโง่ ๆ นั้น ,, มันโคตรแข็งแกร่งเลยแหละ ✅🙏
.
ป.ล.ท่านใดที่จะสุ่ม Entropy เพื่อสร้าง seedphrase ด้วยตนเอง ต้องทำบนอุปกรณ์ HW ที่มีโหมดเหล่านี้มาให้นะครับ เช่น COLDCARD หรือไม่ก็ต้องรันเว็บ Mnemonic Code Converter บนระบบที่ Offline เช่น Tails OS เท่านั้น!! ,, ทั้งนี้ "ห้าม" ทำบนคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไปแล้วนำ Seedphrase ไปใช้งานโดยเด็ดขาด‼️
ป.ล.2 ใครจำได้บ้างว่า Seephrase คำที่ 24 ต้องประกอบด้วยไบนารี 8 ตัวที่ได้จากการ 'คำนวณ' ซึ่งสิ่งนี้มันจึงเรียกว่าเป็น Seedphrase "Checksum" และเจ้าคำที่ 24 นี้แหละที่ทำให้ HW รู้ว่าเรากรอก Seedphrase ถูกหรือผิด
#เวลามีค่าศึกษาบิตคอยน์
#bitcoinselfcustody
#Siamstr 

❗️หากเรานำไป Recovery ใน Software wallet หรือ Hardware Wallet เราจะได้ Account ลำดับ #0 ของกระเป๋าใบนี้ (ซึ่งเป็นค่าพื้นฐานของตัวซอฟต์แวร์และอุปกรณ์) ,, และแน่นอนว่าเราจะ ‘ไม่เจอ' บิตคอยน์ที่เราโอนไปเก็บไว้ใน Account ลำดับ #5 อย่างแน่นอน 🥲
✅ ดังนั้น หากเราต้องการเขียน 'พินัยกรรม' เพื่อส่งมอบข้อมูลมรดกมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทนี้ให้ลูกให้หลานในอนาคต ,, ในนั้นควรต้องมีข้อมูลตามในภาพนี้เป็นอย่างน้อย หรือสรุปง่าย ๆ ก็คือ
1️⃣ ต้องมี Seedphrase จำนวน 12 หรือ 24 คำตามที่เราทำ
2️⃣ ต้องมี Derivation Path เพื่อบอกประเภทและลำดับ Account ของกระเป๋า
3️⃣ ต้องมี Fingerprint เพื่อยืนยันว่า Seedphrase ถูกต้อง
✅ และต้องมี Note ที่จำเป็นต้องการให้ลูกหลานของเรารู้ เช่น Passphrase หรือข้อความต่าง ๆ อาทิ ..
"Seedphrase นี้เป็นส่วนหนึ่งของกระเป๋า Multisig 2-of-2 โดย Seedphrase อีกส่วนจะอยู่ที่พี่ชายของแก.. จงไปคืนดีกันชะ❗️" เป็นต้น 😅
เพื่อให้มั่นใจได้ว่า.. พินัยกรรมของเราไม่มีข้อมูลที่ตกหล่น 🎉
.
🧡 เพิ่มเติมข้อมูลให้สำหรับมือใหม่นะฮะ 🧡
✅ ตามทฤษฎี BIP32 เรื่องของ Hierarchical Deterministic Wallets นั้น ,, Seedphrase จำนวน 1 ชุด สามารถสร้าง Account ได้สูงสุด 2^31 หรือประมาณ 2.1 พันล้าน Account และแต่ละ Account สามารถสร้าง Address ได้สูงสุด 2^31 หรือประมาณ 2.1 พันล้าน Address ‼️
ทั้งนี้.. มันจะติดด้วยข้อจำกัดของตัว Software Wallet จึงทำให้เราไม่สามารถไปใช้งาน Account หรือ Address ลำดับไกล ๆ ได้ ,, แต่มันก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้วนะ 5555 😂
.
ป.ล.ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด 'Bitcoin wallet Backup' Template สำหรับปริ้นและใช้งานกันได้นะครับ (



